วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2557

Captain America : The Winter Soldier ( 2014 ) Movie Review

Movie Review
ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่ Marvel เคยสร้างมา ?



                   ถึงเวลากันอีกครั้ง กับอีกหนึ่งภาพยนตร์ Phase 2 ของ Marvel ซึ่งคราวนี้ ถึงทีของกัปปิตันอเมริกากันบ้างแล้ว หลังจากที่เทพเจ้าสายฟ้าอย่าง Thor : The Dark World ได้นำร่องตาม Iron Man 3 ไปเป็นที่เรียบร้อย (ซึ่งในความเห็นของผู้เขียน ไม่ค่อยจะประทับใจทั้งสองเรื่องเท่าไรนัก โดยเฉพาะ Thor : The Dark World) ต้องขอบอกเลยว่า สำหรับผู้เขียนนั้น ถ้าให้นึกหนังของ Marvel ที่น่าเบื่อที่สุด คงจะหนีไม่พ้น Captain America : The First Avenger อย่างแน่นอน เพราะมันช่างน่าเบื่อ และพยายามมากจนเกินไปเหลือเกิน ส่วนตัวผู้เขียนจึงไม่ค่อยจะคาดหวังกับภาคต่อนี้เท่าไรนัก

แต่....ผลที่ออกมากลับเกินคาดเสียจริง เพราะต้องพูดเลยว่า Captain America : The Winter Soldier นี้นั้น เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่ Marvel เคยสร้างมา ถ้าไม่นับ The Avengers เลยทีเดียว

สิ่งแรกที่ต้องขอชมจากใจเลยจริงๆก็คือสองผู้กำกับ โจ รุซโซ กับ แอนโทนี่ รุซโซ ซึ่งเรียกได้ว่าก้าวมาทำภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ครั้งแรก จากผลงานเก่าๆอย่าง TV-Series Community ของอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่นั้นการก้าวครั้งแรก ไม่ค่อยจะเวิรค์ซักเท่าไรนัก... แต่พวกเขากลับทำได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการกำกับฉากเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ การกำกับฉาก Action ที่รู้สึกได้ถึงความเข้าใจลึกซึ้งถึงการกำกับฉากบู้ล้างผลาญเหล่านี้จริงๆ เพราะแต่ละฉาก ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี และมีความซับซ้อนมากๆ ที่สำคัญคือโคตรเท่ห์(และโคตรเวอร์) แตกต่างจากภาคแรกที่ค่อนข้างจะตรงไปตรงมาอย่างน่าเบื่อ

สิ่งหนึ่งที่ถูกใจผู้เขียนมากที่สุดเลยก็คือ การทำการบ้านมาอย่างยอดเยี่ยมของสองผู้กำกับนี้เอง ซึ่งผลมันแสดงออกมาทางฉาก Action และการกำกับท่าทางของตัวละครต่างๆ เช่น กัปตันอเมริกา ที่ต้องยอมรับจริงๆว่า พวกเขากำกับได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ พวกเขารู้ว่าอะไรคือความสามารถของกัปตันอเมริกา เขาทำอะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง โดยเฉพาะ การใช้โล่ห์ซึ่งเป็นจุดเด่นของกัปตัน ที่ชาญฉลาด และทำให้รู้สึกได้จริงๆว่า กัปตันอเมริกาคนนี้ มีความสามารถที่น่าจะเท่าเทียมกับในฉบับหนังสือการ์ตูนจริงๆ 

ตัวละครอื่นๆก็ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Falcon หรือ Winter Soldier เอง ก็มีท่าทางและท่าต่อสู้ต่างๆที่ดูสมจริง และดูเก่งกาจจริงๆสมกับที่ตัวภาพยนตร์ได้กล่าวเอาไว้ (คือไม่ได้เก่งแต่โม้นั้นแหละ) 


ในด้านของบทภาพยนตร์เองก็ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว โดยเฉพาะจุดขัดแย้งในความคิดเห็นของกัปตันอเมริกา กับ องค์กรชิลด์ ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และตัวกัปตันในภาคนี้ก็แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน และ คริส อีแวนส์ ก็นำแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ เขาเติมความเป็นผู้ใหญ่ และน่าเชื่อถือให้กับตัวละครอย่างมากเลยทีเดียว จนเรียกได้ว่าทำให้ผู้เขียนเชื่อได้เต็มๆว่า นี้แหละคือผู้นำของกลุ่ม The Avengers เป็นคนที่มีความยุติธรรม ความเชื่อ แต่ก็สามารถที่จะลุยหรือบู้ได้เช่นกัน ที่สำคัญเลย ก็คือคนที่จะมาควบคุมเหล่าตัวละครที่บ้าคลั่งในกลุ่ม เช่น โทนี่ สตารค์ หรือ บรูซ แบนเนอร์ ได้จริงๆ ตัวหนังและ คริส อีแวนส์ ทำจุดนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ


แต่ไม่รู้ว่าเพราะด้วยความที่เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ และ ตกไปอยู่ในมือของดิสนีย์แต่อย่างไร  จุดหักมุมและการคลี่คลายทุกอย่าง จึงช่างง่ายดายและตื้นเหลือเกิน ทุกอย่างมันดูง่ายไปหมดเสียจนทำให้สงสัยว่า ทำไปเพราะว่ากลัวเด็กไม่เข้าใจ หรืออย่างไรไม่ทราบ เพราะในสุดท้ายแล้ว ปัญหาและจุดขัดแย้งทั้งหมดในเรื่องที่ปูมาอย่างน่าสนใจ กลับรู้สึกได้ถึงการคลี่คลายที่ช่างไม่สมน้ำสมเนื้อเอาเสียเลย มันกลับดูช่างง่ายดายเสมือนดีดนิ้วเสกคาถาอย่างน่าเสียดายจริงๆ


รวมไปถึงชื่อตอน The Winter Soldier ซึ่งมีส่วนในเรื่องก็จริง แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว กลับโผล่มาแวบๆแล้วก็หายไป แล้วก็โผล่มา แล้วก็หายไปอีก ทำให้ผู้เขียนไม่เข้าใจว่าตกลงต้องการจะเอาเรื่องใดเป็นเรื่องหลักกันแน่ เพราะทั้งสองเรื่องตัวหนังก็แทบจะให้ความสำคัญเท่ากัน จนมันทำให้สับสนและเริ่มที่จะพันกันมั่วไปหมด และถ้าหากตัวละคร Winter Soldier จะมาๆโผล่ๆแบบนี้ เปลี่ยนชื่อภาคไปเป็นอย่างอื่นบ้าง ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร ไม่แน่ใจว่า Hollywood เดี๋ยวนี้เขาตั้งชื่อภาพยนตร์ยังไงกัน เอาความเท่ห์มาเป็นที่ตั้งหรืออย่างไร เพราะเราก็เห็นตัวอย่างมากมายแล้ว ที่มีการตั้งชื่อที่ไม่เข้ากับตัวหนังจริงๆเอาเสียเลย เช่น The Mortal Instruments : The City of Bone ซึ่งอยู่ในเมืองกระดูกประมาณ 3 นาที....


สุดท้ายนี้แล้่วถึงแม้ตัวหนังจะแยกเป็นของแต่ละคนๆ ก็ทำให้ผู้เขียนอดคิดไม่ได้จริงๆว่า ตัวละครอื่นๆในโลกของ Marvel จะไม่ทราบได้อย่างไร ว่ามีเหตุการณ์ๆนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโลกโดนบุกใน Thor : The Dark World หรือ เหตุการณ์ในภาคนี้ของ The Winter Soldier จะเป็นไปได้อย่างไรที่ตัวละครอื่นๆอย่าง Iron Man หรือคนอื่นๆในกลุ่ม Avengers ไม่ทราบเรื่องราวนี้ และไม่คิดจะเข้ามาช่วยเลย ทั้งๆที่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ตัวละครเหล่านี้อยู่ในจักรวาลเดียวกัน และยังอยู่ในองค์กรเดียวกันอีกด้วย ไม่เหมือนกับในเคสของ Spiderman ที่ไปตกอยู่ในมือของ Sony 
หรือ X-Men ที่อยู่ในมือของ 20th Century Fox  ซึ่งตัวหนังไม่ว่าจะในเรื่องใดๆของ Marvel ก็ยังไม่มีการอธิบายเรื่องราวนี้นัก ซึ่งมันสร้างความรู้สึกไม่สมเหตุสมผลและการตั้งคำถามอยู่พอตัว (โดยเฉพาะการที่ตัวหนังเองก็มีการชี้ถึง Tony Stark แบบเต็มๆ) จะบอกว่าก็เพราะว่าชื่อหนังมันคนละเรื่อง ก็คงกระไรอยู่


Captain America : The Winter Soldier ท้ายที่สุดแล้ว เรียกได้ว่าทำได้ดีเกินคาดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการกำกับฉาก Action ที่ยอดเยี่ยม ออกแบบมาได้เป็นอย่างดี , ตัวละครและความขัดแย้งที่น่าสนใจ รวมไปถึงการปูเรื่องที่น่าติดตาม ถึงแม้ว่าในท้ายที่สุดทุกๆอย่างจะคลี่คลายอย่างง่ายดายไปนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าพอจะทนได้ นี้เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสำหรับ Phase 2 ที่จะนำเราไปสู่ The Avengers 2 ของ Marvel เลยทีเดียว

Final Score : [ B + ]

** เช่นเคยตามธรรมเนียม Marvel อย่าลืมหา Stan Lee และอย่าลืมรอดูหลังเครดิตนะจ๊ะ ** 

1 ความคิดเห็น:

  1. Marvel เคยแจ้งแล้วครับว่า timeline ของเฟส 2 ทั้งสามเรื่อง เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน

    ตอบลบ