วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559

Sully ( 2016 )



หลังจากทำให้ท่านตะลึงกับซีจีเด็กใน American Sniper ไปแล้ว เตรียมตัวพบกับการร่วมงานระหว่างนักแสดงรางวัลออสการ์ขวัญใจชาวอเมริกัน ทอม แฮงส์ และผู้กำกับระดับตำนานอย่าง คลินต์ อีสต์วูด ในภาพยนตร์ชีวประวัติที่ดันมีดราม่าเนื่องจากทางค่ายโฆษณาว่า ผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนไม่มีใครเสียชีวิต (opps Spoiler!!) Sully

หลังจากได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยคือความสำคัญชนิดคอขาดบาดตายของ ทอม แฮงส์ กับคลินต์ อีสต์วูด บางท่านอาจจะคิดว่า "อ้าวก็ต้องสำคัญอยู่แล้วสิเป็นนักแสดงหลักกับผู้กำกับนิ !?" แต่บอกเลยว่าในกรณีนี้ต่างออกไป เพราะเอาเข้าจริงแล้ว บทบาทตัวละครอื่นๆนอกจากตัวละครหลักอย่างซัลลี่ในเรื่องอีกเพียงนิดเดียวก็แทบจะตัดออกไปได้อยู่แล้ว  ด้วยความที่ คลินต์ อีสต์วูด ใช้เวลาไปกับตัวซัลลี่และเล่าเรื่องผ่านซัลลี่แทบจะ 99% ของทั้งเรื่อง ทำให้ผู้ชมแทบจะปราศจากเวลาในการสนใจตัวละครอื่น และยิ่งดำดิ่งลงไปในจิตใจของตัวละครหลักตัวนี้เข้าไปใหญ่ พูดง่ายๆว่าหากมีน้ำอยู่หนึ่งแก้ว ตัวคลินต์ก็ได้เทน้ำลงไปในแก้วที่มีชื่อว่า ซัลลี่ 90% ของน้ำที่มีทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จะว่าไปแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงอยู่ไม่ใช่น้อย


แต่ด้วยการนำแสดงอันสุขุม นุ่มลึก น่าค้นหาของ ทอม แฮงส์ ที่ดึงผู้ชมให้คอยเอากำลังใจช่วยตลอดเวลา โดดเด่นจนคุมทั้งเรื่องได้ด้วยตัวคนเดียว เบียดตัวละครและการแสดงของคนอื่นแม้กระทั่ง แอรอน เอ็คฮาร์ด ให้แทบจะไม่มีบท (อย่างน่าเห็นใจ) ผสมผสานกับการกำกับที่ควบคุมจังหวะจะโคน การเล่าเรื่องที่ลงตัวของ คลินต์ อีสต์วูด และการตัดต่อที่น่าทึ่งของ บลู เมอร์รีย์ ก็เป็นฟันเฟืองส่วนสำคัญที่ทำให้ร่างกายทั้งหมดของภาพยนตร์ Sully ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งเมื่อร่างกายมีประสิทธิภาพและทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าตัวภาพยนตร์จะใส่อะไรมามันก็ดูจะได้ผลไปหมด ไม่ว่าจะการนำเสนอหลากหลายมุมมองที่มีต่อเหตุการณ์ตั้งแต่จากมุมของกัปตันซัลลี่ ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ ผู้โดยสาร สื่อมวลชน ความกังวลของกัปตันซัลลี่จนนำมาสู่การตั้งคำถามต่อการตัดสินใจของตนเอง หรือการสอดแทรกแนวคิดมนุษยนิยม


ท้ายที่สุด แม้องค์ประกอบจากภายนอกจะดูแปลกประหลาดและแอบน่าเป็นห่วงไปบ้าง แต่การนำแสดงระดับเข้าชิงออสการ์นำชายปีนี้ของ ทอม แฮงส์ และการกำกับที่น่าลุ้นเข้าชิงไม่แพ้กันของ คลินต์ อีสต์วูด ก็ทำให้ Sully เป็นภาพยนตร์ที่ลงตัวและน่าหลงใหลอย่างเหลือเชื่อ

Final Result : - ดีเลิศประเสริฐศรี - ( 8 / 10 )

Best Quote of the Movie "This is the captain, brace for impact"

------- ส่วนวิเคราะห์ อาจมีการเปิดเผยส่วนสำคัญของภาพยนตร์ --------
ท่ามกลางสภาพสังคมโลกในปัจจุบันซึ่งผู้คนหันไปพึ่งพาแต่เทคโนโลยี เรื่องราวอุบัติเหตุเครื่องบินและโดยเฉพาะการสอบสวนซัลลี่ในครั้งนี้เป็นเครื่องมือชั้นเลิศ ที่จะแสดงและคอยเตือนให้เราได้เห็นว่า แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะดูรวดเร็วและทันสมัยกว่ามนุษย์เท่าใดก็ตาม มนุษย์ก็ยังคงเป็นสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบ ธาตุ เวทย์มนตร์ หรืออะไรก็ตามที่ลึกล้ำกว่าที่เทคโนโลยีใดๆจะสามารถวัดค่าได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น