วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

The Amazing Spider-Man ( 2012 ) Movie Review

Movie Review



Movie Name : The Amazing Spider-Man ( 2012 ) Action / Drama / Adventure , Sony Pictures
Director : Marc Webb ( 500 days of summer )
Stars: Andrew Garfield ( The Social Network ) , Emma Stone ( Easy A ) 
Rating : PG-13


MOVIE REVIEW
(ENG)

The Good : - Hey It's Spider MAN !!!
- Have All of Emotion ( Drama , Action , Love , Comedy )
- 3D are deep and good ( not rip )
- Acting are great 
- 50-60% of Plot & Story are followed to the Original Comics
- Plot & Story are pretty good

The Bad : - Too much and annoying Love Scene
- Drama Plot are still not strong enough
- Action Scene are disappointed and have not much
- First 30 minutes to 1hours of movie are bit of bored
- 40-50 % of movie are still not followed to the Original Comics even the Plot on Original Comics are better.
- If compare with another Super Hero movies recently like The Avengers , The Amazing Spider-Man is disappointed and not good enough to compare.

Suggestion: This is movie that you should see by yourself , The Amazing Spider-Man is Good Movie but in this past year we saw a lot of great Super Hero Movies like Thor , Iron Man , Captain America and The Avengers and these movies are great , when you compare those movies to The Amazing Spider-Man you will see that new spider-man reboot is not good enough , i meant it's good movie but compare to another super hero movies , spider-man still not good enough to say that this is another great super hero movies , with pretty weak story and plot , too much Love Scene that make you sick and others lot of things make the new spider-man is not a movie we die to see it.

Score : C ( Okay ) 

สำหรับรีวิวภาษาไทย สามารถอ่านเต็มๆได้ที่นี้จ้า




Thank You to : The Amazing Spider-Man ( 2012 ) Sony Pictures , IMDB for information , Siamzone for picture.

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Horrible Bosses ( 2011 ) Full Movie Review

Movie Review



Movie Name : Horrible Bosses ( 2011 ) Warner Bros. / New Line Cinema , Comedy
Director : Seth Gordon ( Four Christmases )
Stars : Kevin Spacey ( Superman Returns ) , Jennifer Aniston ( Just Go With It ) , Colin Farrell ( Dare Devil) , Jason Bateman ( Up In the Air ) , Charlie Day ( A quiet little Marriage ) , Jason Sudeikis ( Hall Pass )
Rating : R ( For Sexual Language ) 

REVIEW
(THAI)

Entertain Score : **** / ***** : มุขต่างๆของ Horrible Bosses เป็นอะไรที่ฮาอย่างมากถ้าคุณเป็นคนที่รับเรื่องอะไรก็ตามที่อยู่ใต้เข็มขัดได้คุณจะฮาไปกับมันมากๆแต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ควรจะ 18+ ดูนะครับ (ถึงแม้ในไทยจะให้แค่ น 15+ ก็ตามแต่ไม่รู้ตัดอะไรไปบ้างรึเปล่า) เพราะมุขและภาษาแต่ละอันนี้คือฮามาก แต่ก็เรทมากเหมือนกัน แต่ถ้าคุณเป็นคนที่รับมุขอะไรแบบนี้ได้จะเป็นอะไรที่ฮาโคตรๆชนิดที่แทบจะกลิ้งตกเก้าอี้เลยทีเดียว นอกจากนั้นหนังก็มีมุขใหม่ๆคาดไม่ถึงมาให้ดูตลอดโดยที่ไม่เบื่อเลย ไม่เหมือนหนังไทยที่เล่นแต่มุขตบหัวกันอย่างเดียว ซึ่งมันไม่ฮาเอาซะเลย แต่ Horrible Bosses ให้คุณมากกว่านั้น

Plot & Story Score : ** / ***** : ด้านบทของ Horrible Bosses ต้องบอกได้ว่าออกมาเกินคาดเพราะภาพยนตร์แนวตลกๆแบบนี้นั้นส่วนใหญ่บทก็แทบจะขว้างทิ้งก็อยู่แล้วแต่ Horrible Bosses กลับมีอะไรมากกว่านั่นอยู่บ้างและค่อนข้างแปลกใหม่ด้วยความกล้าทำ แต่ยังไงโดยรวมก็ยังเดิมๆไม่มีอะไรแปลกใหม่ซักเท่าไรแต่เอาจริงๆแล้วในส่วนนี้ของภาพยนตร์ตลกเรียกได้ว่าไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไรหรอกหากบทดีแต่มุขมันแปคทั้งเรื่องก็คงไม่ใช่หนังตลกแล้ว และก็คงขำไม่ออกด้วย

Gag Score : **** / ***** : ในส่วนนี้ขอตัดในเรื่องของ CG ออกไปนะครับเพราะเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ตลกยังไงก็คงไม่มีเรื่อง CGมาเกี่ยวอยู่แล้ว โดยเพื่มส่วนของมุขตลกมาแทน มุขตลกของ Horrible Bosses 90% จะเป็นเรื่องใต้เข็มขัดแทบจะทั้งหมด แต่มันกลับฮามากๆเพราะแต่ละมุขค่อนข้างคิดออกมาได้แปลกและไม่ค่อยมีใครกล้าทำขนาดนี้มันจึงออกมาฮามากๆ

Final Score : ***.* ( 3.5 ) / ***** :  Horrible Bosses เป็นภาพยนตร์ตลกที่ประสบความสำเร็จในด้านมุขเอามากๆเพราะมันฮามากๆกล้าทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำถ้าคุณเป็นคนที่รับมุขแบบนี้ได้คุณจะสนุกและขำตลอดทั้งเรื่องอย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้นบทก็ยังไม่มีอะไรแปลกใหม่มากนัก นอกจากนั้นมุขบางมุขก็มีแปคบ้างประปราย แต่ถ้าคุณกำลังหาภาพยนตร์ตลกเล่นมุขฮาๆ 18+ ล่ะก็เรื่องนี้คือเรื่องที่คุณกำลังตามหาอย่างแน่นอน !

(ENGLISH)

The Good : - Really Funny
- Gags is all new 
- Interesting Story

The Bad : - Little Repetitive Story

Suggestion: If you can accepted a rated R gags that talk about sex and somethings like that this movie is for you because these gags are really laughable but still story is sort of repetitive 

Score : B- ( Cool )


Thank you to : Horrible Bosses ( 2011 ) Warner Bros. / New line cinema , IMDB for information , Siamzone for pictures.

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Margin Call ( 2011 ) Movie Review

Movie Review

Movie Review
(ENG)

The Good : - Great Story & Plot
- Great Acting by Great Actor's 
Thrilling 
- Great Movie

The Bad : - Bit of Bored

Suggestion : If you want to see great movie with great Actor's and Actress this is the movie you should see With great Story and Great Acting this is just perfect movies

Score B+

สำหรับรีวิวไทยสามารถอ่านได้เต็มๆที่นี้ http://www.kornang.com/reviews/?p=541

Madagascar 3 : Europe's Most Wanted Movie Review

Movie Review


Movie Review

(ENG)


The Good : - CG is great and beautiful
- Hell it's Madagascar !!
- Funny and Entertaining 
- Acton Scene are awesome
- 3D is deep

The Bad : - Repetitive Plot & Story
- Some Scene is bit of boring

Suggestion : Madagascar 3 is very fun and entertaining , CG and 3D is beautiful , Some scene are better than  many movies ! but with Same and Repetitive Plot & Story it's little bit bored  , but still great movie !

Score : B ( Great )

สำหรับรีวิวไทยสามารถอ่านเต็มๆได้ที่ http://www.kornang.com/reviews/?p=516 ครับผม

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ย้ายวิจารณ์ไปเว็ป http://kornang.com/























ตอนนี้ผมจะย้ายการวิจารณ์ภาพยนตร์ใหม่ๆไปที่เว็ป http://kornang.com/ นะครับผม ยังไงท่านใดที่ติดตามผม ขอให้ติดตามที่เว็ป kornang ได้เลยนะครับ โดยผมจะใช้ Username ชื่อ fallsdownz ครับ แต่สำหรับภาพยนตร์ที่ไม่ได้เข้าใหม่ หรือภาพยนตร์บางเรื่องจะลงบล็อคนี้ดังเดิมนะครับสำหรับภาษาไทย

ส่วนวิจารณ์เกมวิจารณ์ตามปกติจ้า

แต่ท่านยังสามารถอ่านรีวิวได้ในภาษาอังกฤษ(ฉบับย่อ) ส่วน Full Review ตามไปอ่านได้ในเวป Kornang เลยจ้า โดยผมจะมาโพสไว้ที่บล็อคนี้ครับ




*** ย้ายไปเฉพาะบางเรื่องนะครับ ***

วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

New Year's Eve ( 2011 ) Movie Review

Movie Review


Movie Name : New Year's Eve ( 2011 ) Warner Bros. , New Line Cinema , Comedy / Romance
Director : Garry Marshall ( Valentines Day )
Stars : Robert De Niro ( Stardust , The God Father ) , Halle Berry ( Cat Woman ) , Zac Efron ( 17 Agian ) , Ashton Kutcher ( Killers ) , Sarah Jessica Parker ( Sex in the City ) , Katherine Heigl ( The Ugly Truth ) , Josh Duhamel ( Transformers ) 
Rating : PG-13 ( for some language )

Review:
(THAI) 


Entertain Score : ** / ***** : ในด้านความบันเทิงแล้ว New Year's Eve ถือว่าทำได้ค่อนข้างแย่โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นแฟนหนังแนวนี้ยิ่งเบื่อง่ายเพราะหนังเดาทางค่อนข้างง่ายและต่อให้เดาผิดก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากมายการดำเนินเรื่องของหนังทำออกมาได้น่าเบื่อด้วยเนื้อเรื่องที่ไม่น่าสนใจพอแต่ขณะเดียวกันก็พอจะดูได้ไม่ถึงขนาดหลับแต่ภาพยนตร์แนวนี้การที่จะตรึงคนดูให้รู้สึกสนุกตลอดเวลาได้คือหัวใจสำคัญซึ้งก็ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า

Plot & Story Score : *.* (1.5) / ***** : บทของ New Year's Eve ทำออกมาได้แบบลวกๆแทบจะไม่ได้ต่างจากหนังเรื่องอื่นเลยแถมบทเกือบ70%ของหนังไม่น่าสนใจและไม่ใช่สิ่งที่ควรจะนำมาจริงๆเช่นบทครึ่งๆกลางๆจะซึ้งก็ไม่ซึ้งจะฮาก็ไม่ฮาพาน่าเบื่ออีกต่างหากเหมือนบทไม่ได้ถูกขัดเกลามาดีพอแล้วยิ่งเอามาผสมกันหลายๆเรื่องก็กลายเป็นความหายนะใน4-5เรื่องในหนังนั้นมีดีจริงๆอยู่ประมาณ2เรื่องที่เหลือก็มุขเดิมๆไม่ได้น่าประทับใจอะไรมากมาย

CG & Pictures Score : * / ***** : ภาพของ New Year's Eve ทำออกมาได้แย่น่าเบื่อ70-80%ของหนังมีแต่ตึกกับตึกซึ่งโคตรน่าเบื่อแถมฉากยิงพลุหรือฉากเฉลิมฉลองก็ทำออกมาได้แย่กว่าดูวันปีใหม่ไทยในทีวีซะอีกไม่รู้ว่ามนตร์ความเป็นนิวยอรก์หายไปไหนหมด

Final Score : *.* ( 1.5 ) / ***** : โดยรวม New Year's Eve ทำออกมาได้น่าผิดหวังไม่น่าประทับใจเท่าที่ควรไม่ได้ถึงกับแย่ขนาดทนดูไม่ได้แต่บทนั้นซ้ำซากและไร้ความน่าสนใจทำให้รู้สึกเบื่อบ้างหลังจากเบื่อก็จะรู้สึกว่าหนังอืดอย่างเห็นได้ชัดหรือว่านี้คือจุดตันของหนังแนวนี้แล้วก็ไม่แน่ใจ ?

(ENGLISH)

The Good : - Some of fun
- Some Couples ( In the movies ) are really interesting

The Bad : - Bored
- Repetitive Plot & Story
- No memorial scene 
- Pictures are sucks ( Building and Building ..... )

Totally Score : C ( Okay ) 

Suggestion : New Year's Eve is another failed movie that just so boring and with boring and uninteresting story it's hard to keep seeing it , but overall it's okay because of some funny scene or some interesting plot.


Thank you to : New Year's Eve ( 2011 ) Warner Bros. , New Line cinema ,  IMDB for information , Siamzone for picture.

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Journey 2 : The Mysterious Island ( 2012 ) Movie Review

Movie Review



Movie Name : Journey 2 : The Mysterious Island  /  Warner Bros. / Adventure
Director: Brad Peyton ( Cats & Dogs 2 )
Stars : Dwayne Johnson - The Rock ( Scorpion King ) , Josh Hutcherson ( Journey to the Center of the earth (Journey 1 ) The Hungergames , Michael Caine ( The Dark Knight ) , Vanessa Hudgens ( Sucker Punch )
Rating : PG
Special : หนังเรื่องนี้ผมขออนุญาติใช้คำไม่สุภาพนะครับท่านใดที่รับไม่ได้กรุณาไปอ่านรีวิวเรื่องอื่นเถอะครับเอาเป็นว่าผมจะสรุปให้สั้นๆว่าเรื่องนี้มันแย่ยิ่งกว่านั่งดูจอขาวดำซะอีก

This movie review is content with rude language if you don't want to see some rude so just avoid this review because this movie is making me angry it's just more than worst

Review:
(THAI)

Entertain Score : - (0)  / ***** ( Garbage )  : ด้านความสนุกและบันเทิงของ Journey 2 เรียกได้ว่าโคตาระเลวร้ายผมว่าหลายๆเรื่องที่ผมดูมาแย่แล้วนะเรื่องนี้แย่กว่าอีกทั้งเรื่องมีแต่ความน่าเบื่อด้วยองค์ประกอบของหนังที่ทุกอย่างแทบจะแย่ทั้งหมดมีดีก็แค่นักแสดงเท่านั้นแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะภาคที่แล้วก็ไม่ได้ดีไปกว่าภาคนี้สักเท่าไรการที่เอาหนังแย่ๆมาทำภาคต่อนั้นโดยปกติภาคต่อก็จะแย่หนักกว่าเดิมอยู่แล้วทั้งเรื่องมีแต่ป่าอะไรก็ไม่รู้ที่ CG ก็เข้าขั้นเลวร้ายความสมเหตุสมผลยิ่งกว่าคำว่าเลวร้ายมีแต่จุดบอดเต็มไปหมดทั้งเรื่องมีแค่ช่วงหลังๆประมาณ5-10นาทีได้ที่รู้สึกสนุกจริงๆที่เหลือ.....ไม่อยากจะพูดครับ

Plot & Story Score : - - - - - - ( - 5 ) / ***** ( WTF!?! ) : บทของ Journey 2 ยิ่งกว่าคำว่าเลวร้ายอีกแล้วมันช่างแย่ซะยิ่งกว่านั่งดูจอขาวดำตอนไม่มีสัญญาณซะอีกความสมเหตุสมผลก็ไม่มีแม้แต่น้อยย้ำว่าแม้แต่น้อยบทมีแต่ช่องโหว่เต็มไปหมดแย่สุดขีดจะตลกก็ไม่ตลกดูแล้วพาเครียดอีกต่างหากเอาเป็นบทเรื่องนี้เหมือนนั่งจี้มะเขือเปาะแปะเขียนให้จบๆแล้วก็โยนมาให้คนดูแบบนั้นเลยใช่เลยอย่าเรื่องว่าเป็นบทเลยนี้มันแย่ยิ่งกว่ามือสมัครเล่นด้วยซ้ำให้ตายสิ..... ไหนๆจะสับแล้วก็สับมันซะเลยสปอยกระจายครับต่อจากนี้ว่าทำไมบทมันถึงได้ย่ำแย่เละเทะเหลวเยี่ยงนี้ 
1.แล้วพ่อของตัวเอกหายไปไหนไม่มีคำอธิบาย !?!?!? ? (พ่อของตัวเอกภาคที่แล้วคือ เบรนเดน แฟรสเซอร์ครับแต่สงสัยคงรู้ว่าหนังคงออกมากากก็เลยถอนตัว)
2.แล้วไอ้พ่อคนใหม่เนี้ยมันมาได้ยังไงอยู่ดีๆโผล่มาหรอ WTF!?!? จะบอกว่าหลังจากเลิกกับพ่อของตัวเอกภาคก่อนแล้วก็รีบหาผัวใหม่เลยหรอ !! WTFFFFFFFF!?!? 
3.แล้วไอ้พระเอกเนี้ยมันเป็นอะไรมากมะอยู่ดีๆหาเรื่องจะไปเกาะพิศวงคือจะบอกว่าอยู่ดีๆมันก็เกิดติดใจการผจญภัยภาคที่แล้วงั้นหรอ !?!?
4.แล้วไอ้พ่อใหม่พระเอกเนี้ยมันก็หลงง่ายจังนะแค่เจอพูดไม่กี่ประโยคเชื่อละโดยที่ไม่ทำท่าแข็งขืนอะไรมากมาย WTF?!?!
5.ที่บอกว่าปู่ของพระเอกส่งสัญญาณมานั้นแล้วตัวเอกบอกว่าปู่แกตามหาเกาะมาได้ครึ่งชีวิตแล้วแต่เพิ่งจะมาส่งสัญญาณตอนนี้เนี้ยนะ WTFFFF!?! จะบอกว่าอยู่ดีๆก็เกิดอารมณ์อยากส่งสัญญาณหรอฟะ!!!
6.หลังเครื่องบินเศษเหล็กตกทุกคนรอดได้อย่างไม่น่าเชื่อจากพายุที่โคตาระใหญ่ไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยย้ำว่าแม้แต่น้อยขนาดมือถือกับไฟฉายยังใช้การได้เลย !!! WTF!? ?!
7.แล้วมีมือถือเนี้ยทำไมไม่ใช้โทรหาคนช่วยฟะ!! จะบอกว่าไม่มีสัญญาณหรองั้นก็พูดถึงไว้ในหนังซักนิดซิฟะนี้มันได้คิดเรื่องนี้รึเปล่าวะเนี้ย!!!!!!!!!!
8.แล้วไอ้ตัวเอกมันบอกว่ามันเจอทางออกทั้งๆที่เห็นอยู่ว่ามันเป็นทางเข้าชัดๆทุกคนก็เชื่อง่ายดายไม่มีคำทักท้วงใดๆ WTF!?!
9.ผ่านไปได้ซักพักพ่อใหม่พระเอกอยู่ดีๆก็บอกว่าเกาะกำลังจะจมในอีก 2วัน แต่ปู่ก็แย้งขึ้นมาว่าเขาศึกษษมาแล้วแต่สรุปสุดท้ายทุกคนก็เชื่อพ่อพระเอก WTF!?! จะบอกว่าวิทยาศาสตร์สู้แค่คนๆเดียวไม่ได้หรอ ??? จะบอกว่าอยู่ดีๆว่าพวกพระเอกมาถึงปุบเกาะก็จะจมเลยรึไง จะบอกว่าเกาะมันจมตามใจชอบหรอ WTFFFFFFFFFFFFFFFFFFFFF!?!
10.ไอ้กระท่อมปู่เนี้ยเห็นชัดๆอยู่ว่าใช้เวลาสร้างไม่น้อยแน่ๆแต่คนๆเดียวทำได้ ? แถมอายุปูนนี้ WTF !?!? แล้วนอกจากนั้นถามหน่อยตอนมันนอนกันเนี้ยนอนยังไงฟะไม่เห็นมันจะมีเตียงจะบอกว่ามันนั่งนอนกันหรอ !!!!!?!?
11.เรือในเรื่องที่ใช้หลบหนีตอนสุดท้ายสามารถยิงอาวุธอายุ 140ปีได้โดยที่อาวุธใช้งานได้ดีเยี่ยมไม่ขัดข้อง WTF!?!
12.ฉากที่น้ำทะลักเข้าท่วมเกาะโดยท่วมภูเขาไฟด้วยแต่น้ำชนกับภูเขาไฟไม่เกิดอะไรขึ้น WTF?!? ควันซักนิดยังไม่มีจะบอกว่านี้มันลาวาทองฉบับใหม่รึไง !!?!
13.ฉากที่ขี่ผึ้งยักษ์ผึ้งที่ปกติมันก็ดุอยู่แล้วแต่อยู่ดีๆดันบอกว่ามันใจดีซะงั้นแถมบอกด้วยว่ามันจะไม่ทำอะไรยกเว้นแต่จะไปมองตามัน WTF!?! แล้วไอ้ที่ตัวเอกมองอยู่นี้เรียกว่าอะไรก้นหรอ WTF!?!?
14.ฉากไล่ล่าระหว่างผึ้งกับนกขณะที่ตัวเอกตกลงขาหักทั้งๆที่ขี่ผึ้งหนีมาระยะทางไกลแต่พวกพ่อใหม่พระเอกกลับตามมาได้ในทันทีทันใด WTF!?! จะบอกว่ามันมีวาร์ปหรอฟะ !!
15.เหมือนเดิมฉากที่พ่อนางเอกจะเดินกลับไปเอาทองเดินแปปเดียวถึงทั้งๆที่ขามาต้องใช้ผึ้งบินมาระยะทางไกลจะบอกว่าไอ้นี้ก็มีวาร์ปอีกคนหรอฟะ WTF !?!?
16.ฉากที่ในเรือดำน้ำอยู่ดีๆพ่อใหม่พระเอกจากที่ไม่เคยอ่านหนังสือมาทั้งเรื่องอยู่ดีๆก็พูดว่าเคยอ่านซะงั้น WTF!?! อ่านยังไงวะไปอ่านตอนขณะเดินหรอ !!?! แล้วหนังสือเนี้ยไม่ใช่ว่าหายไปแล้วตั้งแต่10นาทีแรกแล้วหรอฟะแล้วถ้าเคยอ่านมานานแล้ว แล้วทำไมเพิ่งจะมาบอกตอนนี้ฟะจะบอกว่าแอบวิชาหรอ !!!
และอีกมากมายนับไม่ถ้วยขี้เกียจพิมละ

CG & Pictures Score : - - - - - - ( -5 )  / ***** ( WTF!?! ) : CG ของ Journey 2 มันช่าง.....แย่เหลือเกินคำบรรยาย99%ของ CGดูเฟคจะยกตัวอย่างให้นะสัตว์ประหลาดต่างๆในเรื่องนี้ทำออกมาโคตาระแย่ครับขออภัยที่ต้องใช้คำหยาบแต่มันเหลือจะทน CG ของสัตว์ประหลาดทำออกมาได้ดูไม่สมจริงเหมือนหุ่นพลาสติกไร้อารมณ์สุดๆ ฉากเมืองในตำนานหรือฉากอื่นๆ ดูหยั่งกะ Wallpaper ไม่รู้ปล่อยออกมาได้ยังไงCGเน่าๆแบบนี้ผมว่าประเทศไทยยังทำสวยกว่าอีกนี้มันเหมือนถูกจำกัดงบหรือขี้เกียจยังไงก็ไม่รู้นอกจากนั้นมุมกล้องบางมุมก็แย่โคตาระหยั่งกะมือสมัครเล่นถ่ายเลวร้ายสุดๆ ฉากต่างๆก็ทำออกมาได้โคตาระเลวร้ายอีกหยั่งกะใช้ดินน้ำมันเปะๆโปะๆให้มันผ่านๆไป

Final Score : - (0) / ***** ( Garbage ) : ไม่รู้จะให้คะแนนอะไรดีทุกอย่างมันแย่ไปหมดนักแสดงก็ใช่ว่าจะแสดงดีซักเท่าไรยกเว้นป๋าไมเคิล เคนที่แสดงได้เหมือนคนบ้าสมจริงดีแต่ไม่เข้าใจว่าป๋าเคนรับงานไปได้ยังไงหนังที่บอกตรงๆครับ ขยะแบบนี้ผมว่าผมนั่งดูขวดน้ำยังสนุกกว่าอีก CG ที่เป็นแกนหลักของเรื่องก็เลวร้ายเหมือน Wallpaper โหลดตามเว็ปไซต์ แถมน่าเบื่อ ทั้งเรื่องมีแต่ ป่า กับป่า ซึ่งถามจริงมันน่าสนุกมันน่าตื่นเต้นตรงไหนมิทราบ สัตว์ประหลาดก็ทำออกมาแย่ดูเหมือนหุ่นยาง ไร้อารมณ์ เรื่องบทนี้เอ่อ..อืมลืมๆมันไปเถอะมันไม่มีตัวตนหรอกมันก็แค่สิ่งที่เรียกว่าบทใส่เข้ามาให้มันดันๆหนังออกมาหลอกเงินได้เท่านั้นแหละไม่มีอะไรสักอย่างสมเหตุสมผล บอกตามตรงครับหลีกๆเรื่องนี้ไปเถอะผมว่าเอาเวลาไปนั่งดูขุนศึกหรือบ่วงยังจะสนุกกว่าอีกไม่รู้ว่าไอ้หนังแบบนี้มันกล้าหน้าด้านเอาไปฉายในโรงได้ไงผมว่าดิ่งลงDVDยังแย่กว่าหนังDVDหลายเรื่องอีก เหอะนี้มันขยะชัดๆ!! แถมตอนก่อนจบยังจะหน้าด้านโฆษณาว่าจะทำภาคต่ออีกไม่เอาแล้วโว้ยได้ยินไหม ไม่เอาแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

(ENGLISH)

The Good : - I'm Seriously here but there's nothing good in this movie not even single one

The BAD (AND WORST!!) : - CG is lazy and f*cking crap Creatures look like a toy and almost no emotional Landscape looks like wallpaper no it worst than wallpaper.
- Story & Plot also f*cking crap almost 95% of this movie is hole it don't even a Story there's no story in this movie it's just some word write and write just to push the movie out and eat your money.
- Some angle of Camera shot is awful and looks like a Rookie no Rookie don't even do this WTF!?!
- The structure in this movie is f*cking awful all of it looks fake and looks like toy
- F*cking boring all the time because everything you see in this movie is glass , rocks , f*cking lazy CG , f*cking shit Plot , Wallpaper Landscape , i think i better just sit and watch my blank black and white scene than see this f*cking shit.
- Acting is awful because of f*cking shit plot
- Please God please no more Journey ............. (they left in the movie that may be another journey 3)

Totally Score : F ( F*cking Failed and piece of Shit )

Suggestion : This movie is not even a movie Everything is f*cking Broken not a single one of it works please just avoid this movie no matter what , and please no more journey OMG ... this is the worst movie i have everseen

Thank you to : Journey 2 ..... Warner Bros. , IMDB for information , Siamzone for picture

Puss In Boots ( 2011 ) Movie Review

Movie Review


Movie Name : Puss In Boots ( 2011 ) Dreamworks , Action / Adveture / Animation
Director : Christ Miller ( Shrek The Third )
Stars : Antonio Banderas ( Zorro, Spykids ) , Salma Hayek ( After the Sunset ) , Zach Galifianakis ( Hang Over , Due Date )
Rating : PG ( Some Animation Action Scene )

Review
(THAI)

Puss In Boots เป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของเหมียวอัศวินผู้กล้าหาญที่โด่งดังมาจากภาพยนตร์
อนิเมชั่นชื่อดัง Shrek ที่โด่งดังไปทั่วโลกโดยคราวนี้น้องเหมียวขอฉายเดี่ยวโดยว่าเรื่องราวของพุสก่อนที่จะเจอกับพวกเชร็คและประวัติความเป็นมาโดยมีเรื่องราวอยู่ว่าพุสต้องตามหาเมล็ดในตำนานที่ว่ากันว่าเมื่อปลูกจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่มหึมาที่จะนำสู่ประสาทยักษ์ที่เก็บไข่ทองคำเอาไว้แต่เรื่องนั้นไม่ได้ง่ายเช่นนั้นเมื่อเขาต้องเผชิญศัตรูมากมาย

Entertain Score : ***** / ***** ( Perfect ) : ด้านความสนุกนั้น Puss In Boots ทำได้อย่างดีเยี่ยมจนหาข้อติไม่ได้เลยทีเดียวตลอดทั้งเรื่องเราจะสนุกตลอดเวลาด้วยเหตุการณ์ต่างๆไม่ว่าจะฉากต่อสู้ฉากดราม่าหรือฉากเล่าเรื่องต่างๆก็ทำออกมาได้ดีไร้ที่ติทำให้เราเหมือนถูกดูดเข้าไปในเหตุการณ์อย่างรวดเร็วเมื่อรู้ตัวอีกทีก็คือเรื่องจบซะแล้ว !! ด้านการพากษ์ของนักแสดงต่างๆก็พากษ์ได้อย่างดีไม่น่าแปลกใจเพราะหลายๆคนก็เคยพากษ์หนังอนิเมชั่นมาหลายเรื่องแล้วเช่น แอนโตนิโอ้ แบนเดอรัส

Plot & Story Score : **** / ***** ( Great ) : ด้านบทนั้น Puss In Boots ถือว่าทำได้น่าสนใจมากไม่แพ้กับ Shrek เลยทีเดียวที่ไม่ใช่แค่ประเภทเขียนบทมาแบบโยนเข้ามาแต่ค่อนข้างให้ความสำคัญอย่างมากถึงแม้จะดูซ้ำซากไปบ้างแต่ยังไงสิ่งที่สำคัญที่สุดของการมีบทดีก็คือสามารถดูดคนดูให้เข้าไปในภาพยนตร์ได้โดยไม่รู้สึกตัวว่ากำลังดูหนังอยู่และเรื่องนี้ก็ทำได้ดีซะด้วย !! สิ่งที่ Puss In Boots ขาดไปก็คือฉากดราม่าเรียกน้ำตาซึ้งจะว่าไปจะให้พุสมาทำก็คงเป็นเรื่องยากเพราะเรื่องของพุสจะต้องว่าถึงการผจญภัยเป็นหลักแน่นอนอยู่แล้ว

CG & Pictures Score : **** / ***** ( Great ) : ด้าน CG นั้นเราก็รู้ๆกันดีอยู่แล้วว่าค่าย Dreamworks ทำ CG ออกมาได้เทพและมีสไตล์ไม่เหมือนใครนอกจากนั้นยังมีความคิดที่แปลกใหม่ตลอดเวลาทั้ง CG ที่รายละเอียดสูงและฉากที่มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะแต่สำหรับหลายๆคนอาจจะเบื่อเอาได้เพราะ Dreamworks นั้นค่อนข้างทำ CG ออกมาเป็นลายเดียวกันหลายๆเรื่องแต่ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า CG นั้นเจ๋งจริงๆนอกจากนั้นสิ่งที่ Puss In Boots มีเป็นเอกลักษณ์และไม่สามารถมีใครเลียนแบบได้ก็คือฉากตาหวานแววน่ารักเกินจะห้ามของพุสนั้นเองที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใครเจอตาคู่นี้เข้าไปรับรองคุณจะยอมทุกอย่างที่พุสบอก และนี้ก็จุดเด่นที่ไม่ว่าหนังเรื่องไหนๆก็เลียนแบบไม่ได้

Final Score : **** / ***** ( Great ) : Puss In Boots ถึงแม้กระแสในต่างประเทศจะโดนนักวิจารณ์สับเละก็ตาม (ได้คะแนนIMDBปัจจุบัน 6.7)แต่หลังจากผมดูด้วยตัวเองผมกลับไม่คิดแบบนั้นผมคิดว่านี้แหละคือภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ดูได้ทุกเพศทุกวัยและสนุกถึงแม้จะไม่มีความคลาสสิคหรือCGระดับอารต์และหากินกับการผจญภัยก็ตามแต่ยังไงผมก็ขอหลงกล Dreamworks เรือยไปถ้าความสนุกมันจะสนุกมากกว่าหนังออสก้าหลายๆเรื่องหลายพันเท่า โดยที่คนดูหลายๆท่านต้องเข้าใจว่าภาพยนตร์อนิเมชั่นของฝรั่งตอนนี้เขาไม่ได้แข่งกันที่ CG แล้ว แต่แข่งกันที่ระดับความอาร์ตของภาพยนตร์หรือความแปลกใหม่ที่ไม่มีใครเหมือนและความประทับใจหลังจากดูต่างหากก็ได้แก่พวก Mary and Max ( คะแนน 8.2 ) หรือภาพยนตร์อนิเมชั่นที่รายได้อันดับ 1 ของโลกและแทรงรายได้ภาพยนตร์อภิมหายักษ์หลายเรื่องไปแบบชิวๆนั้นก็คือ Toy Story อันนั้นก็ต้องยอมรับจริงๆว่าเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ทั้งได้ความสนุกและเรียกน้ำตาคนดูได้อย่างดีจริงๆ

(ENGLISH)

The Good : - Awesome CG
- Funning & Thrilling all The Time
- Puss Eyes !!!
- Action and Adventure Scene is Great

The Bad : - Not much memorial after seeing
- Bit of Repetitive Story


Totally Score : B ( Awesome ) 

Suggestion : If you love Puss just see it you will not be regret by seeing it.

Thank you to : Puss In Boots ( 2011 ) Dreamworks , IMDB for information , Siamzone for picture.

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Mamma Mia! The Movie ( 2008 ) Movie Review

Movie Review


Movie Name : Mamma Mia! ( 2008 ) The Movie / Universal Studios / Musical / Comedy
Director : Phyllida Lloyd 
Stars :Amanda Seyfried ( In Time , Red Riding Hood ) , Meryl Streep ( Iron lady , It's complicated )
Pierce Brosnan ( James Bond : Die Another Day ) , Colin Firth ( The King Speech ) , Stellan Skarsgard ( Thor , The Girl with the tattoo dragon , The Avengers )
Rating : PG-13 ( For Some Sexual Language )

Review:
(THAI)

Mamma Mia! เป็นภาพยนตร์ที่ถูกสร้างมาจากละครเวทีมิวสิคคอลชื่้อดังโดยการนำนักแสดงดังๆมาดึงดูดคนดูนั่นเอง เนื้อเรื่องก็เป็นประมาณว่า โซฟี (อแมนด้า) นั่นกำลังจะแต่งงานแต่ตัวโซฟีเองไม่รู้เลยว่าใครคือพ่อที่แท้จริงของเธอตั้งแต่เกิดมาแล้วบังเอิญเธอไปเจอสมุดของแม่ของเธอพอดีก็เลยเชิญคนที่คิดว่ามีโอกาสจะเป็นพ่อของพวกเธอมาที่เกาะโดยเธอคิดว่าเมื่อได้เห็นเธอจะรู้ทันทีว่าใครเป็นพ่อที่แท้จริงของเธอแต่เรื่องกลับไม่ง่ายแบบนั้นเมื่อเธอทำโดยไม่ได้บอกแม่หรือเจ้าบ่าวของเธอเรื่องราววุ่นวายจึงเกิดขึ้นท่ามกลางการค้นหาที่ยังไม่แน่ชัด

Entertain Score **.* (2.5) / ***** ( Okay ) : ด้านความสนุกนั้น Mamma Mia! ในช่วงแรกๆถึงกลางๆเรื่องทำได้ดีมากทำให้เราสนุกและคล้อยไปกับทำนองเพลงอันแสนไพเราะแต่ก็ได้แค่ช่วงแรกๆที่เราดูครั้งแรกเท่านั้นสำหรับคนที่เคยดูมาแล้วหรือเคยฟังละครเวทีมาแล้วอาจจะไม่ชอบก็เป็นได้เพราะว่าจริงๆแล้วการร้องเพลงนอกจาก อแมนด้าที่ร้องได้เข้าถึงจริงๆคนอื่นๆก็ร้องได้ไม่ดีนักยิ่ง บรอสแนนยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เพราะเขาพยายามมากเกินไปและยิ่งด้วยการพยายามยัดนักแสดงดังๆมาแทนที่จะใส่นักแสดงที่ร้องเพลงเป็นจริงๆเข้ามาทำให้หนังยิ่งน่าเบื่อหลังจากช่วงหลังๆนอกจากนั้นเพลงแต่ละเพลงมีความแตกต่างกันน้อยมากและโทนของเพลงทั้งเรื่องก็มีแค่โทนเดียวคือสนุกสนานและเนื้อเพลงที่ไม่ได้มีอะไรมากมายทำให้หลังจากเราฟังไปสักเพลงสองเพลงก็เกิดอาการเบื่อจนอยากให้รีบๆจบ

Plot & Story Score ** / ***** ( Common ) : ด้านบทแล้วก็ยังถือว่าธรรมดามากไม่มีอะไรมากมายแต่ยังดีที่ยังมีเหตุการณ์ประปรายให้พอสนุกได้บ้างแต่ถึงแม้จบแล้วตัวหนังเองก็ไม่เปิดเผยทั้งหมดทำให้อาจจะค้างคา

CG & Pictures Score ** / ***** ( Common ) : ด้านภาพนั่นหลายๆมุมถือว่าทำได้สวยดีแต่เช่นเคยหลังจากผ่านไปครึ่งเรื่องคุณก็จะเอียนกับมันเพราะทั้งเรื่องมีอยู่แค่ 2อย่างคือ หินกับน้ำนอกจากนั้นมุมที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันสวยจริงๆก็ยังไม่มีอีกด้วย

Music Score (Special) ** / ***** ( Common ) : ในเรื่อง Mamma Mia! นั่นเรื่องเพลงและการ้องเพลงถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะถ้าหากมันล้มเหลวแล้วละก็ทั้งเรื่องก็จะล้มครืนไปทั้งเรื่องต่อให้นักแสดงหน้าตาดีแค่ไหนก็ไม่ช่วยอะไรซึ่งนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของภาพยนตร์มิวสิคคัลที่ใช้พลังดารามากเกินไปทั้งๆที่ดาราเหล่านั้นไม่ใช่ดาราที่จะมีประสิทธิภาพพอที่จะเล่นหนังมิวสิคคัลได้โดยในฝั่งนักแสดงหญิงนั้น
อแมนด้าเป็นคนเดียวจริงๆภายในเรื่องที่สามารถเข้าถึงและร้องได้อย่างดีโดยเสียงของเธอไพเราะอย่างไม่น่าเชื่อแถมการแสดงก็ยังดีอีก มาถึงคิวก็ Meryl โดยรวมก็ร้องได้พอรับได้แต่หลายๆฉากการคุมเสียงของเธอทำได้แย่ทำให้ฟังดูไม่เป็นเพลงด้วยซ้ำนอกจากนั้นเสียวของเธอก็หนักเกินไปที่จะร้องเพลงแบบนี้ยังดีที่ส่วนใหญ่ในฉากที่เธอต้องร้องมีนักแสดงสมทบอีกสองคนที่ร้องได้ดีช่วยพยุงเอาไว้ไม่ให้แย่ไปกว่านี้ มาถึงด้านดาราชายต้องบอกตรงๆว่าดาราชายทุกคนร้องได้ค่อนข้างแย่และน่าผิดหวัง คู่หมั้นของโซฟี ก็ร้องได้ไม่มีอารมณ์ บรอสแนนก็จริงจังมากเกินไปจนทำให้เสียงแข็งทื่อ จะมีก็แต่ โคลิน และ สการ์การ์ด ที่ร้องได้โอเคกว่าหลายๆคนมาก โดยเฉพาะ โคลินที่ร้องได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยรวมแล้ว Mamma Mia! The Movie ด้านการร้องเอาจริงๆผ่านแค่ อแมนด้าเท่านั้นที่เหลือยังต้องฝึกอีกมากและถ้าคุณดูหนังเรื่องนี้้เพราะอยากฟังเพลงแล้วล่ะก็ยังไงส่วนตัวผมแนะนำว่าให้ไปหาแผ่นเฉพาะของมิวสิคคัลมาดูดีกว่าครับ

Final Score : ** / ***** ( Common ) : Mamma Mia ! The Movie ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างน่าผิดหวังด้วยการใช้พลังหน้าตาของดารามากเกินไปโดยละเลยความสำคัญของหนังที่แท้จริงคือตัวเพลงและเสียงร้องทำให้เกือบ 60% ของหนังน่าเบื่อและทำให้คนดูรู้สึกเบื่อโดยเฉพาะตัวผมคนเขียนที่บอกตรงๆหลังจาก40นาทีผ่านไปที่เหลือผมแทบอยากจะกรอดูให้จบๆไปเพราะมันน่าเบื่อเอามากๆยังโชคดีที่เรื่องนี้มีอแมนด้า ที่เสียงโคตาระไพเราะกับทำนองที่น่าสนใจคอยช่วยเอาไว้มิเช่นนั้นก็คงหล่นไปเหลือ 1 คะแนนแน่ครับ

(ENGLISH)

The Good : - Amanda singing is Great !!
- Interesting Music
- Lot of favorite,famous Actor and Actress
- Colin and Skarsgard Singing is pretty good

The Bad : - Meryl singing is almost bad
- Almost all of Actor singing is bad and awful ( Especially Brosnan he's take it too serious)
- after about 40 minutes the movie is boring
- 90% of entire movie has only one single tone of music (that is funny)
- 95% of entire movie is on the same place so after you reveal everything it's so boring
- plot and story is just okay nothing interesting

Suggestion : If you just want to see your favorite actor or actress singing no matter how awful it is , this movie is okay to see but if you want to hear beautiful voice and music this is not the place you should come because 80% of music in this movie is awful it's may interesting in first 40minutes but after that it's so boring you will force yourself to see it untill movie end , if you really want to hear the music of Mamma Mia! may be you should go find the original (Musical one not the Movie) and hear , it avoid this one.

Totally Score : C ( Okay )

Thank you to : Mamma Mia! ( 2008 ) Universal Studios , IMDB for information , Siamzone for picture.
Special : วันนี้วันที่ผมเขียนบทความนี้เป็นวันที่ 13 มิถุนายน พอดีและบังเอิญเหลือเกินเป็นวันเกิดของหนึ่งในนักแสดงเรื่อง Mamma Mia! พอดีคนๆนั้นเขาเคยแสดง The Girl with the dragon tattoo นอกจากนั้นยังแสดง Thor และ The Avengers ไปหมาดๆอีกด้วยคนๆนั้นก็คือ Stellan Skarsgard นั่นเองครับ !! Happy Birthday ด้วยคร้าบบ (อีกหนึ่งนักแสดงดีผู้เขียนชอบเป็นการส่วนตัวและเป็นเหตุผลหลักๆที่ผมดู Mamma Mia ! The Movie ครับ) โดยวันนี้ป๋าแกอายุ 61 ปีแล้วครับผม !!


Today when i wrote this article is 13 june and today is the day of one of Mamma Mia ! The Movie Actor Birthday by coincidence , he is Stellan Skarsgard !! (61 years old ) Happy Birthday Stellan !!

วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

PROMETHEUS ( 2012 ) Movie Review

Movie Review


Movie Name : PROMETHEUS ( 2012 ) 20th century fox , Sci-Fi / Horror
Director : Ridley Scott ( Alien , Gladiator )
Stars : Michael fassbender ( X-Men : First Class ) , Noomi Rapace ( Sherlock Homes  2 )
Rating :  R ( Some violent , gore , blood , terrified scene )

Review
(THAI)

PROMETHEUS นั่นเป็นเรื่องราวต้นกำเนิดของซีรียส์ชื่อดัง Alien ที่มีมาหลายภาครวมทั้งภาคยำกระจายแบบ AVP อีกด้วย โดยภาพยนตร์จะเล่าถึงต้นกำเนิดของ Alien ว่าเกิดมาได้อย่างไรด้วยเหตุการณ์ที่กลุ่มนักสำรวจกลุ่มหนึ่งได้ค้นพบรูปภาพอารยธรรมโบราณและได้ค้นพบว่ามันคือสารเชิญจาก "ผู้สร้าง" ของพวกเรานั้นเองทำให้พวกเขาก็ไปตามคำเชิญนั้นโดยที่ไม่รู้เลยว่าการที่ไปค้นหาความจริงเกี่ยวกับผู้สร้างเรานั่นอาจจะเป็นต้นกำเนิดหายนะที่จะทำให้พวกเราทุกคนต้องจบชีวิตก็เป็นได้ !!?


Entertain Score **** / ***** ( Great ) : ด้านความบันเทิงหรือสนุกนั้น Prometheus นั้นทำได้อย่างสุดยอดมากถึงแม้จะไม่มีฉากแอ๊คชั่นตูมตามอลังการหรือการฟันเฉือนเฉือนกันแต่เป็นการที่บทนั้นทำออกมาได้อย่างดีและด้วยเหตุการณ์ต่างๆในภาพยนตร์ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและอยากรู้ตอนต่อไปตลอดเวลาโดยที่คาดเดาไม่ออกเลยว่าจะจบแบบไหนเพราะเหมือนเหตุการณ์ที่จากการสำรวจธรรมดากลายเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะคาดคิดได้ถ้าท่านใดชอบภาพยนตร์แนวๆตื่นเต้นเนื้อเรื่องดีๆคงจะชอบเรื่องนี้เป็นแน่แท้ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าบางคนนั้นติดภาพเรื่อง Alien มาจาก AVP ซึ่งเป็นหนังการเอาสองเรื่องมายำเพื่อสนุกเฉยๆ บอกไว้ก่อนเลยว่าฉากฟันไล่ล่ากันเละเทะไม่มีในเรื่องนี้อย่างแน่นอนท่านใดที่จะเข้าไปเพื่อชมฉากเหล่านี้แนะนำว่าให้ไปดูเรื่องอื่นดีกว่าครับ (ผมไม่อยากให้เกิดกระแสว่าหนังห่วยนะครับเพราะบอกตามตรงแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันบางท่านเข้าไปดูฉากฟันกันแต่เข้าไปเจออีกอย่างก็มาว่าหนังห่วยผมว่ามันไม่ใช่นะครับ) แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามส่วนใหญ่ของภาพยนตร์จะดำเนินเรื่องไปแบบสำรวจในความมืดคือค่อยๆเป็นค่อยๆไปเหมือนภาพยนตร์ผีอย่าง Paranormal ที่ทุกอย่างจะเริ่มจากปกติดีไม่มีอะไรจนไปถึงเลวร้ายสุดขีดโดยที่ Prometheus ต่างกับภาพยนตร์แนวผีอื่นๆตรงที่จะเน้นความเป็น Sci-fi มากกว่ามากทำให้เวลาของหนังทั้งหมดอยู่ที่ราวๆ 2ชม.อาจจะทำให้รู้สึกอืดอยู่บ้างและสถานที่ในภาพยนตร์ก็มีอยู่แค่ไม่กี่ที่ทำให้รู้สึกเบื่ออยู่บ้าง และอาจจะเบื่อมากๆสำหรับคนที่ไม่ชอบฟังเนื้อเรื่อง และข้อดีอีกอย่างก็คือนักแสดงทุกคนนั่นทุ่มเท่เอามากๆแสดงได้สมบทบาทโดยเฉพาะไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ ที่เล่นได้เหมือนหุ่นยนตร์จริงๆ จะสังเกตุว่าหน้าตาของเขาทั้งเรื่องนั่นหน้าเฉยๆตลอดทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมช่วงนี้รู้สึกงานจะเยอะเหลือเกิน

Plot & Story Score ****.* ( 4.5 ) / ***** ( Almost Perfect ) : บทและเนื้อเรื่องของ Prometheus นั้นสำคัญมากที่สุดในทุกหัวข้อเปรียบเสมือนตัวยานเองที่ถ้ายานไม่ดีไม่ว่าจะไปยังไงก็ไม่รอดแต่กลับกัน Prometheus นั่นกลับทำเรื่องออกมาได้อย่างสุดยอดและลงตัวสุดๆและทำออกมาทำให้คนดูรู้สึกตื่นเต้นและติดตามตลอดเวลา และคุณจะเดาไม่ออกเลยว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร ด้วยเหตุการณ์ที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆสร้างความกดดันให้คนดูได้เป็นอย่างดี และยังแอบแฝงข้อคิดอีกด้วย แต่ถึงกระนั่นยังมีบางจุดของภาพยนตร์ที่ไม่เคลียร์ แต่ ทำไมถึงไม่เคลียร์นะหรอ ? ก็เพราะว่า Prometheus นั่นจริงๆแล้วถูกแยกออกมา 2 ภาคครับนั่นก็คือมีภาคต่อแน่ๆ แต่ตอนนี้ยังไม่มีประกาศอะไรออกมา ยังไงก็คงต้องดูเรื่องรายได้กันก่อนแหละ ถ้าเกิดรายได้ดีล่ะก็รับรองมีต่อแน่นอนครับ เสริมนิดว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้นั่นมีอะไรมากมายกว่าที่เราคิดเยอะครับ นอกจากทิ้งคำถามไว้มากมายแล้วยังไงถ้าท่านใดชอบมากๆลองค้นหาข้อมูลตามอินเทอร์เน็ตดูก็ได้ครับมีหลายๆท่านวิเคราะห์เอาไว้เยอะเหมือนกันครับ

CG & Pictures Score ***.* ( 3.5 ) / ***** ( Almost Great ) : ด้าน CG และภาพของ Prometheus นั่นอย่างที่เรารู้ๆกันดีว่ามันคือ Alien แน่นอนเพราะฉะนั้นภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยความมืดหรือโทนมืดๆ นอกจากนั่นฉากส่วนใหญ่ก็มีอยู่ไม่กี่ที่ แต่ถึงกระนั่นฉากหลายๆฉากก็ทำออกมาได้อลังการจริงๆทำให้เรารู้สึกดึงดูดเข้าไปในหนังได้พอสมควร แต่ถึงกระนั่นก็ยังคงทำออกมาได้ไม่รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่อลังจริงๆซักเท่าไร แต่ถ้าหนังเอเลี่ยนแล้วมีสายรุ้งสุดสวยออกมาล่ะก็ ก็คงไม่ดีแน่ใช่ไหมครับ ?
นอกจากนั่นเอเลี่ยนส่วนใหญ่ของภาพยนตร์ที่เราดูกันนั้นไม่ได้เป็น CG ครับแต่เป็นหุ่นจริงๆเพราะเท่าที่ทราบมาคือท่านผู้กำกับ ริดลีย์ สก๊อตต์ ไม่ค่อยชอบใช้ CG ซักเท่าไร

Final Score **** / ***** ( Great ) : นี้คือภาพยนตร์ต้นกำเนิดเอเลี่ยนที่สาวกเอเลี่ยนห้ามพลาดและสำหรับท่านใดที่ชอบดูภาพยนตร์ตื่นเต้นๆ เนื้อเรื่องดีๆ ล่ะก็คงต้องชอบเรื่องนี้แบบที่ผมชอบเป็นแน่แท้ด้วยฉากที่ตื่นเต้น น่าติดตาม และการตามหาจุดเริ่มต้นนั่นเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก แต่กลับกันถ้าหากจะนับถึงความมันส์ หรือฉากไล่ล่าต่างๆ ก็ถือว่าแทบจะไม่มีเลยเพราะฉะนั่นสำหรับหลายๆท่านมันอาจจะเป็นหนังที่สุดแสนจะน่าเบื่อก็เป็นได้

(ENGLISH)

The Good : - Almost Perfect Plot & Story
- Exciting all the time
- Acting is Great
- Everythings is great

The Bad : - Almost no Action Scene
- Same and Same location

Suggestion : If you are the one who like great plot & story or you just fan of the alien you have to see this movie , But if you like AVP style ( lot of Action scene ) you may sick of this movie because there is not much action scene almost entire movie is talk , finding the truth and run.

Totally Score B+ ( Great )

thank you to : PROMETHEUS ( 2012 ) 20th fox and ridley scott , IMDB for information and nangdee.com for picture.

วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

John Carter ( 2012 ) Movie Review

Movie Review


Movie Name : John Carter ( 2012 ) Walt Disney Pictures , Adventure / Action
Director : Andrew Stanton ( Wall-E )
Stars : Taylor Kitsch ( BattleShip ) , Lynn Collins 
Rating : PG-13

Review
(THAI)

Entertaining Score ** / ***** ( Common ) : John Carter ด้านความสนุกแล้วทำได้ค่อนข้างแย่โดยเฉพาะถ้าคุณชมภาพยนตร์อย่าง Avatar มาแล้วเพราะมันแทบจะเหมือนกันไปซะหมดแค่เปลี่ยนมาอยู่บนทะเลทรายแค่นั้นเองแถมยังแย่กว่าด้วยเพราะฉากแต่ละฉากดำเนินไปด้วยความอืดเหลือเกินมีบางฉากที่พอจะสนุกอยู่บ้างแต่ไม่มีฉากไหนที่รู้สึกตรึงเราไว้กับภาพยนตร์อย่างที่ Avatar ทำได้เลย

Plot & Story Score *** / ***** ( Good ) : ด้านบทนั่น John Carter ถือว่าทำได้น่าสนใจและน่าติดตามดีถือแม้จะเหมือนกับ Avatar เอามากๆแต่การเล่าเรื่องนั้นค่อนข้างจะแตกต่างกันอยู่บ้างแต่สิ่งที่แย่ก็คือการที่จะทำให้คนดูรู้สึกไปกับตัวละครนั่นทำได้แย่เพราะการปูเรื่องที่ทำให้คนดูรู้สึกผูกพันธุ์กับตัวละครยังแย่ทำให้หลายๆฉากที่ควรจะดีกลับแย่ไปในทันทีนอกจากนั่นเมื่อโดนเปรียบเทียบกับ Avatar ก็ยิ่งทำให้ดูแย่เข้าไปอีกถือว่าเป็นหนังที่มาผิดช่วงจริงๆ

CG & Pictures Score ** / ***** ( Common ) : ด้าน CG และภาพนั่นถ้าคุณจะมาหา CG เทพหรือภาพสวยๆงามๆล่ะก็คุณมาผิดที่แล้วล่ะครับเพราะแทบจะทั้งเรื่องมีแต่ทรายกับทรายแถมตัวสัตว์ประหลาดต่างๆก็ไม่ได้ดูน่าตกใจน่าตื่นเต้นอะไรแถมยังดูน่าเบื่อซ้ำซากอีกต่างหากและอีกแล้วยิ่งเอาไปเปรียบเทียบกับ Avatar ที่เต็มไปด้วยมนตร์และภาพสวยสดงดงามก็ยิ่งดูแย่เข้าไปอีก

Final Score **.* (2.5)  / ***** ( Okay ) : John Carter คือภาพยนตร์ที่ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควรนอกจากนั้นการที่สร้างหลังจาก Avatar โด่งดังแล้ว หรืออาศัยความละม้ายคล้ายคลึงกับ Avatar เป็นตัวเพิ่มรายได้แล้วล่ะก็เป็นการคิดที่ผิดถนัดเอามากๆเพราะเนื่องจากหลายๆอย่างยังทำออกมาได้ไม่ดีพอและไม่น่าสนใจบวกกับการเปรียบเทียบที่เห็นได้ชัดยิ่งทำให้ John Carter ออกมาดูแย่ขนาดที่เกือบจะขาดทุนย่อยยับแล้ว (รายได้ในอเมริกาช่วง 2 สัปดาห์แรกรวมกันยังได้น้อยก่วาหนังอนิเมชั่นเรื่องเดียวที่เพิ่งเปิดตัวในตอนนั้นอีก !!)ส่วนตัวผมเองแล้วยังไม่ค่อยถูกใจฉากจบซักเท่าไรทั้งๆที่อุสาห์ทำฉากที่จบที่ช็อคคนดูและสามารถนำเอาไปพูดต่อๆกันทำให้เกิดรายได้มากขึ้นแต่กลับเพิ่มฉากเข้าไปทำลายโอกาสดีๆซะอย่างนั้น...จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับหลายๆเรื่องใน John Carter 

(ENGLISH)

The Good : - Interesting Story
- Bit of fun

The Bad : - Almost of it is Boring
- Boring CG 
- If compare with Avatar it's like compare sky with dust
- Almost Plot & Story is Avatar dust version

Totally Score : C ( Okay )

Suggestion: It's hard to recommend this movie to anyone especially if you have seen Avatar because it's a lot of worst than Avatar but totally it's okay to see it if you really want to but don't expect so much just watch and enjoy with it.

Thank you to : John Carter ( 2012 ) Walt Disney Pictures , Siamzone for picture , IMDB for information. 

วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Snow White and the Huntsman (2012) Movie Review

Movies Review




Movie Name : Snow White and the Huntsman ( 2012 ) Universal Studios / Adventure / Fantasy
Director : Rupert Sanders
Stars : Kristen Stewart ( Twilight ) , Christ Hemsworth ( Thor , The Avengers ) ,Charlize Theron ( Hancock)
Rating: PG-13
Review:
(THAI)
                                              Snow White and the Huntsman เป็นเรื่องราวแบบใหม่ของสโนว์ไวท์ที่ถูกนำมาตีความใหม่ว่าด้วยเรื่องราวของสโนว์ไวท์ที่มีบิดาเป็นพระราชาแต่วันหนึ่งมารดาของสโนว์ไวท์ก็เกิดเสียชีวิตขึ้นด้วยความเศร้าโศรกของพระราชาจึงทำให้ไปตกกลลวงของแม่มดทำให้พระองค์ถูกฆ่าและทำให้อาณาจักรทั้งหมดตกอยู่ในกำมือของแม่มด ส่วนสโนว์ไวท์ก็ถูกจองจำอยู่ในหอคอยในปราสาท สโนว์ไวท์จึงต้องหาทางที่จะออกมาจากปราสาทและกอบกู้อาณาจักรคืนมาจากแม่มดชั่วร้ายให้ได้


Entertain Score ** / ***** ( Common ) : ในด้านของความสนุกและความบันเทิงที่ได้จาก สโนว์ไวท์กับนายพรานนั้นถือว่าทำได้ไม่ดีนักเนื่องจากทั้งเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้มีบางช่วงเท่านั้นที่รู้สึกสนุกและน่าติดตามแต่หลายๆช่วงกลับอืดและน่าเบื่อไม่มีพลังพอที่จะทำให้คนดูรู้สึกตามไปกับตัวหนังได้เลยจริงๆแล้วไม่ใช่ความผิดของนักแสดงเลยเพราะว่าจริงๆแล้วสิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังอยู่ได้ก็คือการแสดงของ คริสเตียน คริส และ ชาร์ริส ที่เล่นได้สมบทบาทถึงแม้บทจะล้มไม่เป็นท่าก็ตาม โดยเฉพาะชาร์ริสที่สวยและโหดเหี้ยมได้สมบทบาทสุดๆจนทำให้คุณรู้สึกเชื่อจริงๆว่านี้แหละคือโฉมงามและปีศาจที่แท้จริง

Plot & Story Score * / ***** ( Worst ) :  ในด้านบทของสโนว์ไวท์กับนายพรานถือว่าทำได้น่าสนใจถ้าดูจากภายนอกแต่เมื่อมาสัมผัสจริงๆแล้วกลับแย่กว่าที่คิดเยอะเพราะการนำ สโนว์ไวท์ + เจ้าหญิงนิทรา + โจนส์ ออฟ อารค์ มาผสมด้วยกันจากนั้นโยนเข้าไปในโคลนคงไม่ใช้เรื่องดีนักเพราะจากการที่ผสมมากเกินไปทำให้หนังรู้สึกเละไปหมดไม่รู้ว่าตรงไหนคือตรงไหนไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างจะด้วยมนตร์จากสโนว์ไวท์ กับ เจ้าหญิงนิทราก็ถูกความดาร์คของภาพยนตร์กลบจนหมด จะว่าด้วยฉากแอ๊คชั่นอย่าง โจนส์ ออฟ อารค์ ก็มีนิดเดียวและยังถูกบีบจนดูแย่เอามากๆอีก จนทำให้กลายเป็นองค์ประกอบการผสมที่แย่และเข้าขั้นเลวร้าย จะมีเพียงจุดเล็กๆอย่างปมของแม่มดเท่านั้นที่ทำออกมาน่าสนใจและดูสมเหตุสมผล


CG & Picture Score ** / ***** ( Common ) : ในด้านของ CG และภาพ ฉากต่างๆทำออกมาได้ค่อนข้างดีแต่เมื่อเทียบกับภาพยนตร์แนว Fantasy อื่นๆที่เราได้เห็นแล้วอย่างเช่น Narnia , Harry Potter , Pirates of the Caribbean แล้วทำให้เรารู้สึกได้เลยว่ามนตร์ตราใน CG และฉากต่างๆของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำออกมาซ้ำซากไม่มีอะไรแปลกใหม่และไม่ได้สวยและอลังการอย่างหลายๆเรื่องด้าน CG เองก็ถูกทำมาได้ไม่ค่อยจะดีนักและยังมีหลายๆองค์ประกอบที่ใช้อย่างไม่คุ้มค่าจึงที่เรื่องที่น่าเสียดายมาก

Final Score *.* ( 1.5 ) / ***** ( 5 ) ( Bad ) : Snow White and the Huntsman เป็นภาพยนตร์ที่มีความคิดแหวกแนวดีและน่าสนใจแต่กลับทำออกมาได้ล้มเหลวและดูจนมั่วซั่วไปหมดอาจจะเพราะฝีมือของผู้กำกับยังไม่ดีก็เป็นได้เนื่องจากกำกับเป็นเรื่องแรกด้วยบทที่แย่บวกกับCGที่ซ้ำซากและการดำเนินเรื่องที่น่าเบื่อทำให้ Snow White and the Huntsman เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ล้มเหลวด้านคุณภาพอย่างมากยังดีที่ยังพอมีราศีและพลังของนักแสดงที่พอจะช่วยไม่ให้เละไปกว่านี้ได้แต่ถึงอย่างไรก็ยังน่าผิดหวังและน่าเสียดายกับโอกาสและความคิดแบบนี้ที่ควรจะเน้นไปทางด้านใดด้านหนึ่งมากกว่าการผสมกันจนแยกไม่ออกความสมเหตุสมผลของหนังก็เลวร้ายสุดๆ (ไม่อยากจะยกตัวอย่างครับแต่เยอะมาก)

(ENGLISH)

The Good : - Good CG 
- Interesting Story
- Good Acting from Actor's and Actress ( Especially Charlize ( The Witch ) )

The Bad : - Boring
- Bad Story and Plot
- CG is poor and repetitive if compare with others fantasy movies
- Snow White + Sleeping Beauty + Joan of Arc = Failed
- There are not much Action Scene and it's awful 
- Almost of entire movie not make sense 

Suggestion : Avoid this movie if you don't want to waste your money but if you really want to see it just go and see actor's or actress that you like others than that is awful.

Totally Score : D + ( Bad )


Thank you to : Snow White and the Huntsman (2012) Universal pictures , Siamzone for pictures , Trailer from youtube

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

War Horse ( 2011 ) Movie Review

Movies Review




Movie Name : War Horse ( 2011 ) Dreamworks Picture , Drama / War
Director : Steven Spielberg ( E.T , The Adventure of Tin Tin)
Star : Jeremy Irvine , Tom Hiddleston ( Thor , The Avengers ) , David Thewlis ( Harry Potter )
Rating : PG-13


Review :
(THAI) 

War Horse เป็นเรื่องราวความสัมพันธุ์ระหว่างเด็กผู้ชายคนหนึ่งนาม อัลเบิรด์ ที่ได้เจอกับม้าตัวหนึ่งชื่อโจอี้ที่พ่อของเขาซื้อมาเพื่อใช้งาน ทำให้เกิดความสัมพันธุ์ขึ้นระหว่างอัลเบิรด์กับโจอี้ แต่เรื่องราวกลับเริ่มเลวร้ายขึ้นเมื่อเกิดสงครามขึ้นทำให้โจอี้และอัลเบิรด์ต้องพลัดพรากจากกัน โดยอัลเบิรด์สัญญาว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องหาโจอี้ให้เจอให้ได้ สัญญานี้จะเป็นจริงหรือไม่ ? ติดตามได้ใน War Horse ม้าศึก

Entertain Score **** / ***** ( Perfect ) : 
ในด้านความสนุกนั้นคุณจะรู้สึกลอยตามไปกับตัวหนังตลอดเวลา
โดยจะมีช่วงอืดๆบ้างอยู่ช่วงแรกแต่หลังจากนั้นคุณจะรู้สึกลุ้นและตื่นเต้นตลอดเวลาด้วยเหตุการณ์ต่างๆผ่านโจอี้ และอัลเบิรด์ที่ทั้งกดดันและน่าเศร้าจนเรียกได้ว่าถ้าใครดูหนังเรื่องนี้จบแล้วยังไม่ร้องไห้ถือว่าเก่งมากแล้วล่ะ (เพราะจากที่ฟังมาหลายๆคนนี้เสียกระดาษทิชชู่ไปหลายม้วนละ)


Plot & Story Score ***** / ***** ( Perfect ) : 
ในภาพยนตร์แนวเช่นนี้ที่ไม่ได้เน้น CG สวยงามหรือแอ๊คชั่นตูมตามอลังการ การที่จะมีบทดีๆเท่านั้นที่จะช่วยได้ และWar Horseก็ทำได้ดีซะด้วยด้วยเหตุการณ์ต่างๆที่ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดเพราะส่วนใหญ่เรื่องราวจะถูกเล่าผ่านตัวโจอี้ หรือม้านั้นเองโดยที่ไม่ต้องมีคำพูดอะไรมากมายก็ทำให้หลายๆคนคล้อยตาม และรู้สึกหดหู่เศร้าและดีใจไปพร้อมกันได้อย่างง่ายดายทำให้คุณรู้สึกประทับใจในหนังเรื่องนี้แม้จะจบไปแล้วก็ตาม

CG & Pictures Score ***** / ***** ( Perfect ) : 
ในWar Horseตัดเรื่องCGไปได้เลยที่เหลือก็การเล่าเรื่องผ่านภาพต่างๆที่ช่างน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นมุมกล้องต่างๆ หรือสถานที่ถ่ายทำต่างๆที่สวยงามและงดงามหรือแม้กระทั่งบางที่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงจุดนั้นๆ เป็นอะไรที่อธิบายยากจริงๆถึงความงดงามของมัน

Final Score ***** / ***** ( Perfect ) : 
War Horse คือภาพยนตร์อันดับ 1 ในใจของผมเลยสำหรับด้านDramaที่ช่างไร้คำบรรยายนอกจากนั้น Soundtrackที่อลังการและสวยงามทำให้ผมรู้สึกประทับใจไม่รู้ลืมจริงๆสมกับการเข้าชิงถึง6สาขาใน Oscarปีที่ผ่านมาถึงแม้จะกลับบ้านไปมือเปล่าก็ตามแต่สำหรับผมเรื่องนี้ต่อให้ได้ทุกสาขาก็ไม่สมกับความสุดยอดของมันจริงๆ ต้องบอกตามตรงว่านี้เป็นผลงานชิ้นโบว์ทองอีกเรื่องของ Steven Spielberg (ซึ้งเป็นผกก.ในดวงใจของผม) จริงๆ

(ENGLISH)

The Good : - Great Story and Emotional Story
- Beautiful Pictures
- Great Soundtrack
- Make you Cry very easy
- Epic Movie

The Bad : - If you not love animals enough sometimes it's hard to get what movie want to show you
- almost every things in this movies is about Joey (Horse) 

Totally Score A ( Perfect )


Thank you to : War Horse ( 2011 ) DreamWorks pictures , Trailer from youtube

Kingdoms of Amalur : Reckoning Game Review

Games Review




Game Name : Kingdoms of Amalur : Reckoning ( 2012 ) Action / Open-World RPG 
Developer and Publishers : 38 Studios / Big Huge Game / EA
Platforms : PC / PS3 / Xbox 360
Others : Single - Player / DLC / 30 - 200 Hrs.
Rating : M


Kingdoms of Amalur : Reckoning Official Trailer

Reviews:
(THAI)

Kingdoms of Amalur : Reckoning เป็นเกมส์ประเภท Open World RPG อีกเกมของปีนี้
ซึ้งผสมผสานความเป็น Action ลงไปด้วย ด้วยเนื้อเรื่องที่ว่า คุณตายจากสงคราม (ซึ่งหลักๆก็มี Mortal ก็คือมนุษย์นั้นแหละ และ Fae ซึ่งแยกออกเป็นตัวดีและตัวร้าย)และถูกชุบชีวิตขึ้นมาด้วย Well of Souls แต่หลังจากถูกชุบชีวิตขึ้นมาคุณลืมทุกสิ่งทุกอย่างในโลกแห่ง Amalur ทุกคนต่างถูกกำหนดชะตาเอาไว้แล้วแต่คุณกลับเป็นคนเดียวที่ไม่ถูกลิขิตชะตาและนอกจากนั้นคุณยังทำให้ชะตาของคนรอบๆข้างคุณเปลี่ยนไปอีกด้วย (เช่นคนนี้ควรจะตายแต่ไม่ตายเพราะเรามาช่วย) 

Gameplay & System Score **** / ***** ( Great ) :
ด้านเกมเพลย์และระบบของเกมเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆถ้าคุณเล่นเกมRPGมาเยอะๆจนเบื่อการนั่งกดคำสั่งหรือเอียนกับมันแล้วAmalurเป็นเกมที่คุณต้องลองอย่างแน่นอน ด้วยระบบการต่อสู้แบบ Action คล้ายๆกับMonster HunterและDevilMayCryซึ่งทำออกมาได้ลื่นไหลมากๆนอกจากนั้นสกิลต่างๆก็สวยงามตั้งแต่ต้นไม่มีประเภทท้ายเกมถึงจะสวยอีกแล้วเกมนี้ระบบการต่อสู้คุณสามารถถืออาวุธได้2ชนิดในเวลาเดียวกันและสามารถคอมโบได้อย่างง่ายดายอีกด้วยเช่นคุณสามารถจะฟันศัตรูด้วยดาบให้ลอยขึ้นไปบนฟ้าจากนั้นก็ยิงต่อธนูนอกจากนั้นยังมีระบบ Fate หรือก็คือระบบอาชีพที่จะมีโบนัสให้เช่นถ้าคุณอัพสกิลสายเวทย์จำนวนหนึ่งแล้ว การแดชของคุณก็จะเปลี่ยนเป็นการ Blink หรือเทเลพอรต์ระยะใกล้แทนนอกจากนั้นคุณยังสามารถใช้สายสกิลของสายอื่นได้อีกด้วยเช่นการลากศัตรูมาด้วยสกิลของสาย Might จากนั้นก็ยิงศัตรูด้วยสายฟ้าจากสายเวทย์ ไม่ใช้ว่าคุณเลือกอันไหนแล้วอีกสายใช้ไม่ได้อีกต่อไปนอกจากนั้นก็ยังมีระบบอื่นๆที่น่าสนใจมากๆเช่น Lorestone ที่จะทำให้คุณรู้เรื่องราวของสถานที่นั้นๆมากขึ้น นอกจากนั้นคุณไม่ต้องห่วงว่าถ้าจะเปลี่ยนสายแล้วต้องมานั่งเล่นใหม่เพราะตัวเกมมีระบบReset Skill ให้ด้วย ด้วยการจ่ายเงินนิดๆหน่อยที่หาได้ไม่ยากสักเท่าไร ทำให้เราสามารถเปลี่ยนวิธีการเล่นได้อย่างง่ายได้และรวดเร็ว แต่Amalurก็มีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น เวลาเราดูเควสแล้วต้องการจะดูว่าเราควรจะไปจุดไหนของแผนที่ แต่เราต้องมานั่งกดกลับไปกลับมาแทนที่จะมีให้อยู่ข้างๆนอกจากนั้นเลเวลของเกมนี้ยังตันแค่ 40 ซึ้งมันดูเหมือนเยอะใช่ไหมครับ แต่หลังจากเล่นไปได้ซักพักคุณจะรู้ว่ามันเร็วมากๆอย่างมาก 40-50 ชม. ก็น่าจะ ตันกันหมดแล้ว (ในขณะที่ถ้าเก็บรายละเอียดเล่นทุกเควสมันล่อไปซะ100-200 ชม.) นั้นก็คืออีก 60กว่า ชม.ที่เหลือคุณก็เลิกหวังเลเวลอัพไปได้เลย
นอกจากนั้นระบบการเลือกตอบในเควสต่างๆจบแทบจะเหมือนกันหมด ไม่เหมือนเกมส์อย่าง Skyrim
ที่การตอบของคุณจะมีผลกับสิ่งที่จะเกิดต่อไปมาก

Plot & Story Score *** / ***** ( Good )
ด้านบทและเนื้อเรื่องของ Amalur ถือว่าน่าสนใจเอามากๆคุณตายและถูกชุบชีวิตขึ้นมาโดยที่ดันไม่มีชะตาถูกกำหนดเอาไว้นั่นก็คือชะตากรรมอยู่ในมือของคุณไม่ได้ถูกกำหนดไว้เหมือนเช่นคนอื่น ทำให้ทั้งเกมส์จะเน้นไปที่คุณเป็นใครและคุณตายด้วยน้ำมือใคร ? นอกจากนั้นเควสต่างๆในเกมก็น่าสนใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการทรยศการเคลือบแคลงสงใสทำให้เรารู้สึกอยากจะรู้ตอนต่อไปตลอดเวลา แต่ถึงกระนั้น
นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรมากมาย เควสส่วนใหญ่ก็ประเภท ช่วยคนนี้ คนนู้น ไปฆ่านู้นนี้

CG & Pictures Score *** / ***** ( Good ) : 
ด้านกราฟฟิคของเกมAmalurถือว่าทำได้ออกมาสวยพอใช้ได้คล้ายๆกับการ์ตูน+แฟนตาซีโคตรๆ ซึ้งดูเป็นธรรมชาติและสวยดี ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยมีอาการเฟรมเรตตกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย แต่กลับกัน CG แบบนี้เวลาเราเล่นไปเรื่อยๆจะทำให้รู้สึกเบื่อมากๆเพราะว่าแต่ละที่มันแทบจะเหมือนกันหมด แทบจะไม่มีความแตกต่างเลย

Final Score **** / ***** ( Great ) : 
Kingdoms of Amalur : Reckoning เป็นเกมแนวโลกกว้างผสมกับแอ๊คชั่นที่สนุกมากๆๆๆอีกเกมส์ด้วยระบบการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใครที่คุณไม่ต้องมานั่งกดคำสั่งตลอดเวลาหรือโจมตีศัตรูด้วยอาวุธเดิมๆ สกิลเดิมๆทั้งเกมส์ เนื้อเรื่องที่น่าสนใจ แต่ข้อเสียของ Amalur หลักๆก็คือการที่บอสแต่ละตัวของเกม มันก็คือคนธรรมดาเนี้ยแหละ ทำให้รู้สึกน่าเบื่ออยู่บ้างนอกจากนั้นในระดับ Normal เกมก็รู้สึกไม่ยากเท่าไรเลย โดยเฉพาะบอสบางตัวที่ฆ่าง่ายกว่ามินิ-บอสบางตัวอีก แต่อย่างไรก็ตามความสนุกของมันทำให้ผมนั่งรอใจจดใจจ่อ Kingdoms of amalur 2

(ENGLISH)

The Good :  - Great Gameplay and Fighting job System
- 30 - 200 Hrs of play
- Good CG
- Good Soundtrack

The Bad : - Same CG over and over again
- Boss is not Boss (it's another fae !!!)
- Every choice got the same end.

Suggestion : If you want to try a new stuff like Action + Open World RPG you have to try this !!
the fighting system in this game is awesome and great but it's like half of RPG is goes to fighting
so it's not like Skyrim that very very hardcore RPG but you have to try this one before thinks that
this game sucks trust me you gonna spent a lot of hours to this games.

Totally Score B+ ( Great )



Thankyou to Kingdoms of amalur (2012) EA , 38 Studios , Big Huge Games , Trailer from youtube

BattleShip (2012) Movie Review

Movies Review

Movie Name : Battleship ( 2012 ) Universal Studios / Action / Sci - Fi
Director: Peter Berg ( Hancock 2008 ) 
Star: Liam neeson ( Taken , Wrath of Titans ) , Taylor Kitsch ( John Carter ) , Rihanna
Rating : PG-13


Battleship Official Trailer

Review:
(THAI)
Battleship เป็นภาพยนตร์ฟอรม์ยักษ์อีกเรื่องของปีนี้ 2012 โดยสร้างมาจากเกมชื่อดัง
และนี้ก็เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่ง ของ Hasbro จาก Transformers โดย ภาพยนตร์จะเล่าเรื่องราว
เกี่ยวกับทหารเรือนายหนึ่งกับกองทัพจำนวนหนึ่งซึ่งบังเอิญญญญ บังเอิญ ซ้อมรบ และดันไปเจอกับ
ยานกองทัพเอเลี่ยนเข้าให้จนเกิดสงครามขึ้น

Entertain Score *** / **** ( Good ) : 
ด้านความสนุกและความตื่นเต้นนั้น Battleship ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว เราจะรู้สึกสนุกและลุ้นไปกับตัวเอกตลอดเวลา ด้วยฉากที่ตื่นเต้น และตูมตามตลอดเวลา ตามสไตล์ Transformers แต่ก็ถ้าคุณเป็นคนที่ดูภาพยนตร์อย่าง Transformers มาเยอะแล้ว คุณก็จะไม่รู้สึกสนุกสักเท่าไรเพราะแต่ละฉากก็แทบจะไม่ต่างกันซักเท่าไร แถมยังมีฉากที่ Copy & Paste มาจาก Transformers 3 อีกด้วย

Plot & Story Score * / ***** ( Worst ) : 
ด้านบทแล้ว Battleship ยังถือว่าด้อยอยู่มากนอกจากจะซ้ำๆซากๆจากหนังแนวเอเลี่ยนบุกโลกทั่วไปแล้วยังมีจุดด้อยในหลายๆเรื่องและทิ้งคำถามเอาไว้อีกจำนานมากด้วยความที่บทนั้นทำมาไม่ดี จริงๆแล้วมันก็คือ Transformers ฉบับเรือนั้นแหละแต่เอาเข้าจริงๆแล้วคงไม่มีใครมาดู Battleship เพื่อจะมาดูบทหรอกใช่ไหม ?


CG / Pictures Score ** / ***** ( Common ) 
ด้านกราฟฟิคและภาพของBattleshipถือว่าทำได้ค่อนข้างธรรมดาและน่าผิดหวังถ้าคุณคิดว่าCGเรื่องนี้จะเท่าหรือมากกว่าTransformersละก็เตรียมตัวผิดหวังได้เลยCGนั้นถือว่าไม่ได้น่าเกลียดมากแต่ก็ยังดูธรรมดาและเมื่อเทียบกับCGของTransformersก็ยิ่งแย่เข้าไปอีกนอกจากCGหุ่นที่แทบจะเห็นอยู่สีเดียวคือแดงกับเทานอกนั้นก็คือท้องฟ้าสีฟ้าแค่นั้นเอง

Final Score **.* ( 2.5 ) / ***** ( 5 ) ( Okay ) : 
Battleshipถือเป็นภาพยนตร์แนวSci - Fiที่ถ้าใครชอบTransformersน่าจะถูกใจได้ไม่ยากแต่อย่าคาดหวังอะไรมาก จริงๆแล้วเรื่องนี้ไม่ควรนำไปเทียบกับTransformersอยู่แล้วเพราะอย่าลืมนะครับว่าTransformersมีมาถึง 3 ภาคแล้วโดยเฉพาะเรื่อง บทที่ไม่ได้มีอะไรเลยถ้าคุณคิดจะดู Battleship ควรเข้าไปหาความสนุกเท่านั้น นอกจากนั้นแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงดีกว่าครับ

(ENGLISH)

The Good : - entertaining is good you will fell exciting almost all the time.
- Good CG
- Some sort of Transformers like

The Bad :  - CG is not deep as Transformers
- bad and repetitive plot / story
- copy and paste scene from Transformers

Suggestion : If you love Transformers(TF) you may love Battleship with all TF stuff but CG is still just average or normally with bad plot and the worst things is this movies copy & paste scene from TF
don't expect too much things you will get from this movies and you can enjoy with it.

Totally Score C+ ( Good )

Others Stuff : Battleship มีต่อหลังเครดิตทั้งหมดนะครับ แต่แนะนำว่าถ้ารีบก็ไม่ต้องดูก็ได้ครับเพราะ
มันก็คือหาเรื่องทำภาคต่อนั้นแหละ แถมยังทำออกมาแย่ เพราะมันไม่สมเหตุสมผลซะเลย

There's scene after end credit but it's okay to not watch it's because it's just another try to make another
Battleship 2 and it's really bad end credit scene i have ever seen (because it's not make sense)





Thank you to : Battleship ( 2012 ) Universal studios , picture from Siamzone.com  , trailer from youtube