วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

X-Men: Apocalypse (2559) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz




ดำเนินกันมาถึงจุดไตรภาคเป็นที่เรียบร้อยสำหรับแฟรนไชส์ X-Men ฉบับใหม่ของ ไบรอัน ซิงเกอร์ ที่ถูกปลุกขึ้นมาในปี 2011 กับภาค First Class ซึ่งอาจจะยังคงเรียกได้ว่าเป็นภาคที่ยอดเยี่ยมที่สุดภาคหนึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะของแฟรนไชส์ X-Men แต่รวมไปถึงภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งหมดในขณะนี้


น่าเสียดายที่ภาคที่สอง Days of Future Past ไม่สามารถที่จะคงความยอดเยี่ยมเอาไว้ได้ ผสมผสานกับตลาดภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ปัจจุบันที่ค่อนข้างมีตัวเลือกที่เยอะ ยังไม่นับถึงคะแนนเปิดตัวจากฝั่งนักวิจารณ์ของภาคนี้ที่ดูค่อนข้างน่าเป็นห่วง จนเป็นเหตุทำให้เราไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการมาของภาคที่สาม Apocalypse ซักเท่าไรนัก X-Men: Apocalypse ถ้าสังเกตุและวิเคราะห์ในหลายๆด้าน ก็อดที่จะแอบเปรียบเทียบกับ Avengers: Age of Ultron ของทางฝั่ง Marvel ไม่ได้ เนื่องจากมันมีความคล้ายคลึงกันพอสมควร เช่น ตัวร้ายที่ทรงพลังสามารถกำราบทีมฮีโร่ของเราได้อย่างราบคาบ ฮีโร่หรือตัวละครใหม่ที่เข้าไปสวามิภักต่อเหล่าร้าย วิธีการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของโลกปัจจุบัน ไปจนถึงการสอดแทรกประเด็นเทคโนโลยีไร้สายในยุคปัจจุบัน


แต่ถ้าหากเทียบกันกับ Age of Ultron แล้ว สิ่งที่ Apocalypse ดูจะเป็นต่อกว่าก็หนีไม่พ้นด้านตัวร้ายอย่าง อะพอคคาลิปส์ ซึ่งดูร้ายกาจและทรงพลังมากกว่าอัลตรอนที่เอาแต่พล่ามแล้วพล่ามอีก
ในด้านฉากแอ็คชั่นของ Apocalypse ถ้าหากท่านใดคาดหวังว่ามันจะมีตลอดทั้งเรื่องก็คงจะต้องปาดน้ำตากันไปตามระเบียบ แต่ฉาก Climax ท้ายเรื่องที่ค่อนข้างอลังการ ก็น่าจะเป็นตัวช่วยเกาให้หายคันกันได้อยู่บ้าง

จุดหนึ่งที่ต้องขอยกเครดิตให้อย่างเต็มใจในความเทพอย่างสุดขีดของเขา ก็คือเจ้าหนุ่มวัยรุ่น ควิกซิลเวอร์ ซึ่งยังคงโคตรเทพ โคตรฮาและเป็นตัวขโมยซีนระดับมาสเตอร์พีซอย่างแท้จริง ในมิติหนึ่งอาจเรียกได้ว่า เขาเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ช่วงต้นเรื่องอันแสนอืดชืดของ Apocalypse มีสีสันขึ้นมาได้อย่างทันตาเห็น และยังคงเป็นจุดที่ Marvel ยังคงไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ในขณะนี้ ถึงกระนั้นก็ตาม Apocalypse ก็ยังคงมีปัญหาที่คอยรุมเร้าตัวภาพยนตร์ให้ไม่สามารถที่จะไปไกลได้มากนักอยู่หลายจุด จุดใหญ่ๆที่ต้องพูดถึงก็คงจะหนีไม่พ้นด้านบทภาพยนตร์ และตัวผู้กำกับ ไบรอัน ซิงเกอร์


จุดที่เป็นปัญหาของ ไบรอัน ซิงเกอร์ หลักๆแล้วก็หนีไม่พ้นการเล่าเรื่อง การวางปมขัดแย้ง และการผูกปมแต่ละตัวละครนั้นค่อนข้างขาดชั้นเชิง ตรงไปตรงมาจนเกินไป ยิ่งพอผนวกกับบทภาพยนตร์ ที่ขาดความสดใหม่ และค่อนข้างเชยมากๆแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนนั่งดูภาพยนตร์เมื่อ 5 ถึง 10 ปีที่แล้วอย่างมาก ที่แปลกยิ่งกว่าก็คือการสอดแทรก 'พลังแห่งผองเพื่อน' เข้ามาจนตกใจ นึกว่านั่งอ่านมังงะหรือดูอนิเมะอะไรซักอย่างอยู่


โชคยังดีที่ทีมนักแสดงทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นหน้าเก่าอย่าง ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ หรือหน้าใหม่อย่าง ออสการ์ ไอแซค ผู้รับบทเป็นอะพอคคาลิปส์ และไท เชอริแดน ผู้รับบทเป็นไซคลอปส์ สามารถที่จะทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม จนทำให้อย่างน้อย ตัวละครของพวกเขาก็น่าสนใจและน่าติดตามขึ้นมาบ้าง


เมื่อพิจารณาองค์ประกอบต่างๆที่มีทั้งล้มเหลวและประสบผลสำเร็จแล้ว ผลสรุปการผสมผสานสิ่งต่างๆเข้าด้วยกันของ X-Men: Apocalypse ก็คือภาพยนตร์ที่ดูจะสอบผ่านเพียงในด้านของความบันเทิงชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด ซึ่งเพียงเท่านี้อาจไม่เพียงพอสำหรับตลาดภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ที่กำลังแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายและได้ก้าวล้ำหน้าแฟรนไชส์อันล้าหลังนี้ไปแล้วหลายก้าว Final Score: [ 6.5 ]

1 ความคิดเห็น: