TV-Series Review
Arrow TV-Series ( Season 1 & Season 2 ) Review
" My name is Oliver Queen. For five years I was stranded on an island with only one goal - survive. Now I will fulfill my father's dying wish - to use the list of names he left me and bring down those who are poisoning my city. To do this, I must become someone else. I must become something else. " - Oliver Queen
ในขณะที่ค่ายซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง Marvel กำลังประสบความสำเร็จอย่างมากในวงการภาพยนตร์ จากการที่มีภาพยนตร์เข้าฉายหลายต่อหลายเรื่อง และปิดท้ายด้วยภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่อย่าง The Avengers ( ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ) หรือ ภาพยนตร์ใหม่อย่าง Guardians of the Galaxy ที่ใกล้วันฉายเข้าไปทุกๆที่แล้ว ฝั่ง DC เองก็รู้สึกจะประสบปัญหาหลายด้านกับวงการภาพยนตร์เหลือเกิน
ถ้านับนอกจาก Superman กับ Batman แล้ว ดูเหมือนทุกอย่างมันจะไม่ราบรื่นไปเสียหมด อย่างเช่น ภาพยนตร์หนึ่งในตัวละครสำคัญของ DC อย่าง Green Lantern ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ซ้ำภาพยนตร์รวมซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง Justice League ยังถูกเลื่อนยาวไปถึงปี 2016 อีกต่างหาก นี้ยังไม่รวมถึงการที่หลายๆตัวละครในทีมยังไม่มีการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการในโลกภาพยนตร์เลยหรือบางตัวละครก็มีข่าวลือว่าจะทำแต่ก็ต้องยกเลิกไปในท้ายที่สุดอย่าง Wonder Woman จึงเรียกได้ว่าค่อนข้างจะเป็นหายนะสำหรับ DC และ Warner Bros. ผู้ถือลิขสิทธิ์อย่างแท้จริง
แต่ในขณะนั้นเองก็ดูเหมือนจะมีแสงสว่างส่องความหวังให้กับทางค่าย DC อีกครั้งจากการที่มีการเปิดตัว TV-Series หนึ่งในตัวละครหลักของ DC อีกหนึ่งตัวกับ Green Arrow (ซึ่งใน TV-Series เปลี่ยนเป็น The Arrow) ซึ่งต้องขอพูดก่อนเลยว่าตัวผู้เขียนเองแทบจะไม่เคยหรือเรียกว่าไม่เคยเลยจะดีกว่า ในการอ่านการ์ตูนของ Green Arrow จริงๆ หรือแม้กระทั่งการ์ตูนของ DC อย่างมากก็จะมีนิดๆหน่อยๆเท่านั้น ถ้าหากมีข้อมูลส่วนใดผิดไปก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ซึ่งเมื่อ Arrow TV-Series ได้ออกฉายที่อเมริกาในช่อง CW ผลปรากฏว่าโด่งดังและมีผลตอบรับที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก จึงไม่แปลกเลยที่จะมี Season ต่อมา ซึ่ง ณ ขณะนี้เพิ่งจะจบ Season 2 ไปได้ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้นั้นเอง
และแน่นอนเมื่อมันประสบความสำเร็จ ทาง DC จึงขยายความสำเร็จโดยการอาศัยความโด่งดัง Arrow TV-Series ไปนำสู่ TV-Series Spin-off อันใหม่กับอีกหนึ่งตัวละครสำคัญของ DC อย่าง "The Flash" (ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นใน Internet กันแล้ว) จึงเรียกได้ว่าการก้าวไปในโลก TV-Series ครั้งนี้ เป็นการก้าวที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับโชว์ของ Marvel อย่าง Agents of Shield ที่ผู้เขียนชมได้ 3 ตอนเลิกเพราะมันช่างเต็มไปด้วยการพยายามจะขายภาพยนตร์ และมันช่างสุดแสนจะดาษ น่าเบื่อเหลือเกิน (ขออภัยแฟน Marvel)
ในความคิดเห็นของผู้เขียน การที่ตัว Arrow TV-Series ประสบความสำเร็จนั้น หลักๆน่าจะมาจากการที่มันค่อนข้างที่จะแตกต่างจากตัวละครใน Comic ที่ผู้เขียนเดาเอาเองจากการที่เคยเล่นเกม Injustice : God Among Us ว่า Green Arrow เป็นตัวละครที่ตลก โปกฮา บันเทิงพอตัวทีเดียว แต่ใน TV-Series มันกลับไม่ใช่เช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย ที่จริงแล้วมันเป็นหนึ่งใน TV-Series ที่มีช่องว่างให้เราหัวเราะได้น้อยเหลือเกิน เพราะมันช่างเต็มไปด้วยบทที่จริงจัง มืดมน , ตัวละครที่เสียหาย แตกหัก และจุดขัดแย้งในแต่ละ Season ที่นำมาเพียงแต่โศกนาฏกรรมที่จะนำไปสู่โศกนาฏกรรมอันใหม่ ซึ่ง Arrow TV-Series นั้นทำในจุดนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว
ในด้านของคุณภาพของ TV-Series แล้วต้องขอชื่นชมเลยว่าผู้กำกับ , Producer , นักแสดง , คนเขียนบท และผู้สร้าง ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเสียจริงๆในแทบจะทุกๆด้าน โดยเฉพาะการค่อยๆสร้างปมปัญหาต่างๆ ทัศนะคติต่างๆให้กับทุกๆตัวละคร จนในท้ายที่สุดปัญหาทุกอย่างมันจะมาปะทุขึ้นอย่างรุนแรง และมาปะทะกันในตอนจบของ Season นั้นๆซึ่งนำไปสู่เรื่องราวใหม่ๆได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งนอกจากมันจะทำให้บทโดยรวมไม่ดูสุดแสนจะ Cliche , ขี้เกียจ และสร้างมาแบบชุ่ยๆเอาทำจบเป็นทีละตอนไปแบบ TV-Series หลายๆเรื่อง มันยังทำให้แต่ละตัวละครมีความเป็น "มนุษย์" ขึ้นอย่างมากมาย โดยเฉพาะหลังจบ Season 1 ที่ตัว TV-Series ทำให้เราหลงรักตัวละครเอกในโชว์ และเกลียดตัวร้ายประจำโชว์ได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่รู้ตัวเลย
แต่ตัวละครที่น่าสนใจมากที่สุด และลึกมากที่สุดในทีวีโชว์เลย ก็คงจะหนีไม่พ้นพ่อหนุ่มพันล้าน Oliver Queen หรือ "The Arrow" ของเรา โดยเฉพาะการพัฒนาทางความคิดและความขัดแย้งภายในจิตใจของเขาในแต่ละ Season ที่ช่างเป็นการเสียดสีและแดกดันโลกปัจจุบันเหลือเกิน โดยเฉพาะความคิดที่ว่า "เพราะเขาเห็นด้านดีในคนอื่นมากจนเกินไป จนมันกลับมาทำร้ายตัวเขาเอง"
สำหรับฉาก Action ต่างๆใน Arrow แล้ว ก็ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่านี้คือ TV-Series ไม่ใช่ภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ เพราะฉะนั้นการที่คุณหวัง CG โคตรอลังการงานสร้าง ระเบิดตูมตามทุกตอน คุณจะต้องผิดหวังอย่างแน่นอน จริงๆแล้วไม่ต้องเป็น TV-Series หรอก Theme หลักของ DC มันก็ไม่ใช่แบบนั้นอยู่แล้ว ชื่อก็บอกอยู่ Detective Comics
ฉากต่างๆใน The Arrow และเทคนิค Special Effect ต่างๆจึงค่อนข้างที่จะอยู่ในระดับเฉยๆหรือพอรับได้อยู่บ้าง และมีการใช้เทคนิคโกงคนดูอยู่หลายครั้งอยู่เหมือนกันเช่นกันตัดเร็วๆ หรือการใช้มุมกล้องหลบ ซึ่งในส่วนนี้ก็พอที่จะเข้าใจได้ในด้านงบประมาณ ในส่วนของคิวบู้ ฉาก Action ก็ถือว่าทำได้ไม่เลวเลย แต่ละฉากดูสนุก ตื่นเต้นอยู่บ่อยครั้ง มุมกล้องและการถ่ายทำที่ถือว่าอยู่ในระดับโอเคกำลังดี ไม่ส่ายไปส่ายมาจนน่ารำคาญ
ในด้านของการให้ความสำคัญหรือเนื้อเรื่องในแต่ละตอนก็จัดได้ว่าทีมงาน Arrow จัดสรรได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ทุกๆตอนให้ความรู้สึกว่าคิดและเขียนบทมาอย่างดีตลอดเวลา ไม่ใช่ตอนหนึ่งน่าเบื่อ อีกตอนหนึ่งโคตรสนุก หรือประเภทแบบ TV-Series The Walking Dead ช่วง Season หลังๆที่ทั้งตอนมีความน่าสนใจแค่ตอนเปิดเรื่องว่าจากตอนจบตอนที่แล้วจะเป็นอย่างไร และตอนท้ายเรื่องที่ทำให้คุณรู้สึกจะต้องอยากดูตอนต่อไปอย่างไม่มีทางเลือกทั้งๆที่ในช่วงระหว่าง ต้นเรื่อง กับ ท้ายเรื่องมันช่างน่าเบื่่อเหลือเกินก็ตาม
ในแต่ละตอนนั้น ตัวทีวีโชว์มากจะสร้างจุดขัดแย้งขึ้นมาจุดหนึ่งตามปกติและให้ตัวละครเข้าไปเผชิญและแก้ไขจุดขัดแย้งนั้นๆ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในทุกๆตอนที่จบลง ความคิดอะไรบางอย่าง หรือบางสิ่งบางอย่างในทุกๆตัวละครในทีวีโชว์จะเปลี่ยนแปลงไป และ ในบางตอนที่เราจะได้เห็นอีกด้านหนึ่งของพวกเขาไม่่ว่าจะเป็นตัวดีหรือตัวร้ายก็ตามเป็นต้น ซึ่งในระหว่างตอนเองเราก็จะได้เห็นความขัดแย้งและการคลายปัญหาของตัวละครเหล่านี้ที่สนุกสนานอยู่ตลอดเวลา และน่าติดตามตลอดเวลาอีกด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับ Arrow TV-Series มากๆเลยก็คือการที่ทุกตอนในทีวีโชว์นั้น ไม่ได้เล่าแค่เรื่องปัจจุบัน แต่เล่าคู่ขนานไปกับอดีตด้วยการ Flashback ของตัวละครอีกด้วย ซึ่งมันทำให้ตัวทีวีโชว์ นอกจากจะน่าสนใจที่ว่า Season นี้ปัจจุบันจะจบลงอย่างไรแล้ว เราจะยังได้ทราบว่าอดีตของตัวละครนี้จบลงอย่างไร และมีที่มาที่ไปอย่างไร ถึงมามีจุดจบเช่นนี้อีกด้วย ซึ่งมันทำให้ตัวทีวีโชว์น่าสนใจขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว
นอกจากนั้นแล้วภายใต้ฮู้ดสีเขียวหรือ TV-Series นี้เองก็ยังแฝงไปด้วยความหมายและข้อคิดมากมายอีกด้วย โดยหลักๆนั้นตัวทีวีโชว์มักจะกรีดร้องว่า "ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด" เสมอๆ นอกจากนั้นแล้ว ในทุกๆ Season นั้นมันก็จะแฝงข้อคิดประจำแต่ละ Season เอาไว้อีกด้วย อย่างเช่น Season แรกที่พูดถึง "การฆ่าไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขใดๆเลย แต่มันนำมาซึ่งหายนะที่ไม่สิ้นสุดต่างหาก" หรือ Season สองที่เพิ่งจบไปหมาดๆ ที่พูดถึง "การปล่อยวางจากความเคียดแค้น" เป็นต้น จึงเรียกได้ว่านอกจากดูสนุกแล้ว ยังแฝงไปด้วยคุณภาพเนื้อๆอีกด้วย
ในด้านของนักแสดงเองโดยรวมทุกคนก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควร ไม่มีการ Over Acting จนเกินเหตุ หรือนักแสดงคนใดที่โผล่มาแล้วทำให้รู้สึกน่าเบื่อเลย
แต่แน่นอนทุกอย่างในโลกไม่มีอะไรที่ Perfect ซึ่ง Arrow เองก็เช่นกัน โดยข้อเสียส่วนใหญ่ของทีวีโชว์นั้น มาจากการที่มันเป็น TV-Series เนี้ยแหละทำให้มีเวลาที่น้อยในการที่จะลงลึกไปในตัวละครมากๆ เพราะมีตัวละครที่ต้องการจะเล่ามากมายเหลือเกิน หรืองบประมาณที่มีขีดจำกัดกว่าภาพยนตร์อย่างมาก จึงทำให้ฉากบางฉากมีความสมจริงน้อยลง
แต่สิ่งที่โดดเด่นออกมาในด้านข้อเสียแล้ว ดูเหมือนจะเป็นความง่ายดาย Convenience ของมัน ในหลายๆครั้งที่ตัวโชว์มีเวลาในการสร้างความน่าเชื่อถือหรือมูลในจุดต่างๆ ปมต่างๆไม่พอ มันมักจะใช้วิธีการยัดๆเข้าไปหรือพยายามตัดบทแบบง่ายๆจนเกินไป จนทำให้หลายๆอย่างนั้นไร้น้ำหนัก และทำให้จุดจบหรือจุดคลี่คลายในบางครั้งมันไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร อย่างเช่นการที่ตัวเอกเข้าไปทำลายอะไรซักอย่างหนึ่งที่สำคัญต่อเนื้อเรื่องหลักใน Season นั้นๆมาก แต่มันกลับให้เวลาปูฉากๆนั้น สิ่งๆนั้นน้อยมาก จนเราไม่ได้รู้สึกว่ามันสำคัญใดๆเลย และมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากจากเวลาที่มีเพียง 40 นาทีในแต่ละตอน จึงทำให้เราไม่ได้สนใจ หรือใยดีกับสิ่งๆนั้นเลย มันจึงไร้ความหมายไปในที่สุด
หรือบางตัวละครอย่างเช่น Slade Wilson ที่แฟนๆ Comics น่าจะรู้จักดีในชื่อ "Deathstroke" ที่จริงๆแล้วเขาเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจ และมีการปูที่ยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว จนผู้เขียน"เกือบ"จะสงสารเขาแล้วแท้ๆ แต่ในฉากที่สำคัญที่สุดของจุดขัดแย้งของตัวละครนี้มันกลับช่างทำออกมาได้อย่างลวกๆสุดๆ จนผู้เขียนรู้สึกว่ามันไม่ได้สมเหตุสมผลเลย และปมขัดแย้งนั้นๆมันก็เหมือนจะไม่ได้พยายามที่จะ "โน้มน้าว" ให้เราเชื่อถือเลย มันเหมือนกับว่าอยู่ดีๆก็เกิดขึ้นโดยไม่ได้มีการปูที่ดีมากก่อนเลย ซึ่งมันลดความน่าสนใจของตัวละครนี้ลงอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่"โคตร"น่าเสียดาย ก็หวังว่าใน Season ต่อๆไปตัวทีวีโชว์จะให้เวลาในการปูตัวละครเหล่านี้มากกว่านี้
สรุปโดยรวมใน Season 1 ถือว่าน่าประทับใจมากๆเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าตอนจบประจำ Season จะค่อนข้างขี้โกงในการหาเรื่องทำ Season ต่อไปบ้างแต่ก็ถือว่าเพลิดเพลินดี ใน Season แรกนี้ ในด้านที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นประเด็นการเก็บความลับของ The Arrow ไม่ให้ใครรู้ ที่ปูออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและบีบหัวใจผู้ชมทุกครั้ง
สำหรับใน Season 2 หลายๆอย่างค่อนข้างจะดีขึ้นจาก Season หนึ่งอยู่พอตัวไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องที่ฉลาดมากขึ้น ใช้ตัวละครได้ยอดเยี่ยมมากขึ้น ปมขัดแย้งที่น่าสนใจมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมาตกม้าตายอย่างแรงกับตัวละครร้ายไปบ้าง แต่ก็ถือว่าโดยรวมอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจเลยทีเดียว โดยเฉพาะตอนจบประจำ Season ที่ทำได้ดีเลยทีเดียว แต่ไม่รู้ทำไมตอนแรกสุดของแต่ละ Season ใน Arrow มักจะน่าเบื่อเสมอๆ ซึ่ง Season 2 ก็เป็นเช่นกัน
ในท้ายที่สุด ทีวีซีรียส์ของอเมริกา Arrow ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งทีวีซีรียส์ที่น่าติดตามไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว จากการที่มันสนุก ตื่นเต้น และแทบที่จะสร้างมาตราฐานใหม่ให้กับ TV-Series ที่เน้นความบันเทิงเป็นหลักเลยทีเดียว ใช่มันไม่ได้ Perfect มันยังคงมีหลายๆปัญหาที่ TV-Series มักจะเผชิญอยู่เสมอเช่นกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี้เป็นอีกหนึ่ง TV-Series ที่ยอดเยี่ยมและติดงอมแงมเสียจริงๆ นอกจากนั้นแล้วการที่ผู้เขียนได้เห็นความพยายามของค่าย Warner Bros. กับ DC ในการที่จะแข่งขันกับ Marvel และได้เฝ้ามองการก้าวต่อไปของพวกเขาอยู่ไกลๆนั้น มันช่างสุดแสนจะบันเทิงเหลือเกิน การต่อสู้ของค่ายหนังสือการ์ตูนที่ไม่ได้อยู่แต่ในหนังสืออีกต่อไปแล้วมันช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน
Final Score : Season 1 [ B+ ] , Season 2 [ A - ] & Must See Badge
สามารถ Comment บทวิจารณ์หรือติดต่อผู้เขียนโดยตรงได้ที่ fallsdownzth@gmail.com ครับผม ขอบคุณครับ :) .
สามารถ Comment บทวิจารณ์หรือติดต่อผู้เขียนโดยตรงได้ที่ fallsdownzth@gmail.com ครับผม ขอบคุณครับ :) .
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น