วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Deus Ex : Human Revolution ( 2011 ) Game Review

Game Review
Deus EX : Human Revolution ( 2011 ) Game Review
Platform : PS3 , Xbox 360 , PC

มนุษย์ , เทคโนโลยี , ธรรมชาติ เรื่องราวที่มาบรรจบกัน



          Deus Ex : Human Revolution เป็นอีกหนึ่งเกมที่โด่งดังมากๆเลยทีเดียว มีกระแสพูดถึงมากมายมาโดยตลอด แม้กระทั่งปัจจุบันที่ตัวเกมผ่านมาแล้วถึง 3 ปี ก็ยังมีกระแสข่าวลือภาคต่อ และข่าวต่างๆของตัวเกมซีรียส์ Deus Ex ออกมาตลอดเลยทีเดียว

สิ่งที่เป็นจุดโดดเด่นใน Deus Ex : Human Revolution เลยก็คือ ความอิสระของมัน ไม่ว่าจะเป็นเกมเพลย์  หรือ แม้กระทั่งการให้ตัวเลือกกับผู้เล่นที่จะตัดสินใจในเรื่องราวต่างๆในตัวเกมอีกด้วย

โดยในเกมเพลย์นั้น ตัวเกมจะใช้มุมมองบุคคลที่ 1 หรือเปรียบเสมือนเราเล่นเป็นตัวละครเอกจริงๆ เห็นทุกอย่างเหมือนกับที่เขาเห็นจริงๆ สลับกับมุมมองบุคคลที่ 3 บ้างในบางจุดเช่นเวลาหลบศัตรูเป็นต้น ซึ่งตัวเกมเพลย์ของมันนั้น แทบจะไม่มีการบังคับอะไรเลย คุณอยากจะเป็นสายลับซ่อนเร้นด้วยการ เข้าไปอย่างเงียบๆ แอบศัตรูทุกคน และผ่านไปโดยไม่ต้องฆ่าใครเลยงั้นหรือ ?? ย่อมได้ !!  หรือ ถ้าหากคุณเป็นคนฮาร์ดคอร์ จะวิ่งเข้าไปปาระเบิด สาดกระสุนเลยก็ยังได้อีกเช่นเดียวกัน รวมถึงการออกแบบฉากในตัวเกมนั้น ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน มันมักจะมีทางที่ซ่อนอยู่ให้เราคอยค้นหาตลอดๆ รวมถึง A.I. ที่ท้าทายและค่อนข้างฉลาด ถ้าหากคุณส่งเสียงนิดหน่อยพวกมันก็จะเริ่มระวังตัวแล้ว และถ้าหากคุณเผลอไปทำให้พวกมันรู้ตัวว่าคุณอยู่แถวนั้นล่ะก็ เตรียมตัวเตรียมใจได้เลย เพราะ พวกมันจะมาหาคุณอย่างแน่นอน (หรือดักปิดทางที่คุณต้องการจะไป)

เกมเพลย์อีกส่วนนั้นจะมีการที่ให้เราโต้ตอบกับตัวละครบางตัวในเกม เพื่อที่จะทำภารกิจ หรือ Quest ย่อย อีกด้วย ซึ่งภารกิจเหล่านี้ ถึงแม้จะเป็นภารกิจเล็กๆตามทาง แต่ก็เขียนบทออกมาได้ดี และน่าสนใจตลอดเวลา และในบางครั้งตัวเกมจะให้เราได้โต้ตอบกับตัวละครหลักอื่นๆในเกม โดยให้อิสระกับเราในการที่จะตอบคำถาม โน้มน้าวตัวละครเหล่านี้ ซึ่งนอกจากมันจะส่งผลถึงตอนจบของตัวเกมแล้ว มันยังทำให้เราได้รู้ความคิดของตัวละครเหล่านี้อีกด้วย ว่าในท้ายที่สุด เราควรจะตัดสินใจอย่างไร

นอกจากนั้นแล้วตัวเกมยังมีอาวุธต่างๆ ไอเทมต่างๆ รวมถึงสกิลต่างๆ มากมายที่ทำให้การเล่นนั้นน่าสนใจ และน่าสนุกยิ่งขึ้น เช่นอาวุธไรเฟิลยาสลบ , ปืนเลเซอร์ , Shotgun หรือ สกิลอย่าง หายตัว , มองเห็นทะลุกำแพง และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสร้างสีสรรค์ให้กับตัวเกมอย่างมาก โดยที่แต่ละสกิล/ปืนมีประโยชน์แตกต่างกันออกไป แต่ก็ไม่ได้โกงจนเกินเหตุที่จะทำให้เกมกลายเป็น Easy Mode ตัวเกมยังท้าท้ายอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะศัตรูในท้ายเกมบางตัวที่ 1-1 แบบไม่วางแผนไว้ก่อน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว (ตัวเอกร่วงก่อน)

สิ่งที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นมากๆอีกจุดหนึ่งของ Deus Ex : Human Revolution รวมถึงน่าจะเป็นจุดที่ทำไมหลายๆคนยังจดจำเกมๆนี้ได้เป็นอย่างดี ก็คือ เนื้อเรื่องของมัน ที่พูดถึงเรื่องราวของ เทคโนโลยี , มนุษย์ , สิ่งแวดล้อม และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งในหลายๆประเด็นนั้น ค่อนข้างจะจิกกัดโลกปัจจุบันได้อย่างเจ็บแสบอยู่เหมือนกัน รวมไปถึงการตั้งคำถามในประเด็นหลายๆอย่าง เช่น มนุษย์ควรจะมีสิทธิเสรีภาพจริงหรือ ? , เทคโนโลยี เป็นสิ่งที่ดีจริงๆหรือ ? เป็นต้น ซึ่งด้วยความที่ตัวเกมนั้นเปิดอิสระให้อย่างมาก กับผู้เล่น คุณจึงมีสิทธิเลือกว่าคุณเชื่อในแบบใด และทุกๆคำตอบ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดหรือถูกเลยแม้แต่น้อย ขึ้นอยู่กับคุณเท่านั้นว่าคุณ "เชื่อในแบบใด" 

ต่ก็ต้องพูดเลยว่า ตัวผู้เขียนเอง ประสบปัญหากับการเล่นเกม Deus Ex : Human Revolution อยู่พอสมควรในหลายๆจุด

จุดแรกเลยก็คือ ด้วยการที่มันสลับไปมาระหว่างมุมมองบุคคลที่ 1 และ 3 มันทำให้การเล่นติดต่อกันนั้นๆ พาเอามึนหัวและคลื่นไส้อยู่พอสมควร โดยเฉพาะมุมมองบุคคลที่ 1 ของเกมนี้ ที่ไม่ค่อยจะประนีประนอมผู้เล่นซักเท่าไร สำหรับท่านใดที่สนใจก็ลองโหลดเดโม มาลองดูก่อนก็ได้ว่าเป็นอาการนี้ไหม

จุดที่สองก็คือ เกมเพลย์ของมัน ใช่ยอมรับเลยว่ามันเป็นเกมเพลย์ที่ให้อิสระกับผู้เล่นมากๆ แต่พอเล่นไปนานๆเข้า มันทำให้ผู้เขียนตั้งคำถามอยู่เหมือนกันว่ามัน "อิสระ" จริงๆหรือ ? โดยเฉพาะอย่างที่บอกไปแล้ว ว่าในท้ายเกมการ ตัวต่อตัว กับศัตรูบางตัวถึงแม้จะไม่ใช่บอส แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ยกเว้นจะใช้อาวุธหรือสกิลเข้าช่วย เพราะศัตรูเหล่านี้บางตัวมันค่อนข้างที่จะหนา และอัดหนักอยู่พอสมควร ยิ่งมาหลายๆคนนี้แทบจะเผ่นป่าราบกันเลยทีเดียว ซึ่งในส่วนของผู้เขียนเองยังพอสลับๆระหว่างซ่อนเร้น กับ บู้ๆได้ แต่มันทำให้สงสัยว่า แล้วผู้เล่นที่ชอบแต่บู้ลุยแหลกอย่างเดียวล่ะจะทำยังไง เพราะในบางครั้งก็รู้สึกว่าตัวเกมไม่ค่อยจะ อิสระอย่างที่มันบอกซักเท่าไร แต่ในจุดนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เพราะทำได้ยาก (ยกเว้นจะทำระบบแบบให้เลือกเลยตั้งแต่ตอนเริ่มเกมว่าจะเป็น ซ่อนเร้น หรือ บู้ ซึ่งคงเป็นไปได้ยากและคงดูไม่ดีแน่ๆ) การที่ผู้สร้างเกม จะต้องทำเกมเพลย์ออกมาให้สมดุลระหว่าง ซ่อนเร้น กับ บู้ล้างผลาญ มันเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะถ้าหากศัตรูอ่อนแอเกินไป การซ่อนเร้นก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าศัตรูเก่งเกินไป การบู้ลางผลาญก็ไม่มีประโยชน์อีกเช่นกัน จึงเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจอยู่พอสมควร แต่ก็เป็นจุดที่ผู้เขียนค่อนข้างจะตั้งคำถามอยู่ดีในท้ายที่สุด

จุดสุดท้ายเลยก็คือ ตอนจบของตัวเกม โดยตอนจบของตัวเกมชนิดที่ให้ผู้เล่นเลือกเองนั้น มันควรจะเป็นแบบที่มันเท่าเทียมกัน และถกเถียงได้ลำบาก หรือพูดง่ายๆว่าแต่ละข้อมันก็ดูเหมือนจะมีทั้งถูกและผิด พอๆกันหมด จึงนำไปสู่การตัดสินใจว่า คุณ เลือกที่จะเชื่ออะไรมากกว่า แต่ผู้เขียนกลับคิดว่า ตัวเลือกในตอนท้ายของตัวเกม ไม่ได้ให้ความรู้สึกเท่าเทียมกันขนาดนั้นเลย บางทางเลือกกลับให้ความรู้สึกว่ามันไปไกลจนเกินไป และดูไม่เป็นธรรมมากจนเกินไป เหมือนผู้สร้างหรือผู้เขียนบท เอาทัศนะคติของตัวเองใส่เข้าไปในทางเลือกเหล่านั้นด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างมาก เพราะจุดๆนั้น มันควรจะเป็นสิ่งที่ผู้เล่นเลือกและเติมแต่งด้วยตัวเอง ไม่ใช่ผู้สร้างหรือผู้เขียนบทเป็นคนวางกรอบเอาไว้ ซึ่งมันทำให้ตอนจบรู้สึกไม่น่าจดจำเท่าที่ควรอย่างน่าเสียดาย 


นท้ายที่สุดแล้ว Deus Ex : Human Revolution ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่่ยอดเยี่ยม และน่าจดจำสมคำร่ำลือ ไม่ว่าจะในด้านเกมเพลย์ หรือ เนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยม แต่ถ้าถามผู้เขียนนั้น ส่วนตัวไม่ได้ประทับใจอะไรมากเท่าไรนัก ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่ดี แต่ก็ไม่ได้ชนิดต้องเล่น มิเช่นนั้นนอนตายตาไม่หลับ ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากปัญหาบางส่วนของเกม  ถึงกระนั้นก็ตาม ถ้าหากท่านสนใจในตัวเกม Deus Ex : Human Revolution ก็สามารถที่จะหามาเล่นได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไรเลย โดยเฉพาะถ้าหากรอได้ถึงตอน Steam ลดราคา 70-80% ยิ่งไม่ต้องคิดอะไรเลย 

Final Score : [ B + ] 


สามารถ Comment บทวิจารณ์หรือติดต่อผู้เขียนโดยตรงได้ที่ fallsdownzth@gmail.com ครับผม ขอบคุณครับ :) .

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น