Series Review
Street Fighter : Assassin's Fist ( 2014 ) TV-Series บทวิจารณ์โดย FallsDownz
เปิดตัวซีรียส์ที่น่าทึ่งที่สุดของ Street Fighter
ถ้าหากพูดถึงประวัติศาสตร์เกมแล้วล่ะก็ มันก็มักจะมีเกมที่ผุดขึ้นมาในหัวของเราหลายๆเกมเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Super Mario , Final Fantasy , Tekken หรืออีกเกมที่โด่งดังและยังมีชีวิตมาถึงปัจจุบันอย่าง Street Fighter
Street Fighter เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีอายุยาวนานมากๆ โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 1987 ซึ่งเรียกได้ว่ามีอายุเกือบจะ 30 ปีแล้วเลยทีเดียวเชียว ซึ่งเกม Street Fighter นี้ โด่งดังจนถึงขนาดที่มีภาพยนตร์สั้นแบบ Fan Made หรือแฟนๆเกมทำขึ้นเองมากมาย รวมไปถึงภาพยนตร์จอเงินด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนของภาพยนตร์นั้น ต้องพูดเลยว่าล้มเหลวมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นฉบับปี 1994 หรือ ฉบับล่าสุดอย่าง Street Fighter : The Legend of Chun-Li ที่ออกมาแย่จนแฟนๆพากันเบือนหน้าหนี
ต้องพูดเลยว่าทางผู้เขียนนั้น ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารของ Street Fighter : Assassin's Fist เท่าไรนัก พอจะรู้มาบ้างว่ามีการคืบหน้าบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดตั้งตารอคอยอะไร จนบังเอิญว่าช่อง Machinima ใน Youtube ได้นำซีรียส์นี้มาฉายใน Internet พอดีก็เลยได้มีโอกาสชม ซึ่งต้องขอสารภาพเลยว่า ส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างจะชอบไปทาง Tekken มากกว่าพูดเลย แต่หลังจากได้ชม TV-Series นี้ ทำให้รู้สึกว่า Tekken ควรจะทำอะไรบ้างได้แล้วล่ะ เพราะมีคู่แข่งที่น่ากลัวมากๆเหลือเกิน
สิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดใน Street Fighter : Assassin's Fist เลยก็คือ บทของมัน ที่ช่างเขียนได้อย่าง "Perfect" เสียจริงๆ ถึงแม้ว่าทางผู้เขียนจะไม่ได้เป็นแฟน และรู้เรื่องราวมากมาย พื้นหลังของ Street Fighter มากนัก แต่ TV-Series นี้ ทำให้ผู้เขียนรู้สึกอยากจะกลับไปหาข้อมูลของตัวละครเหล่านี้เสียจริงๆ
โดยบทหลักๆของ Street Fighter : Assassin's Fist จะพูดถึงเรื่องราวของตัวเอกประจำเกมอย่าง Ryu กับ Ken ที่อยู่ในช่วงเริ่มฝึกวิชาการต่อสู้ของพวกเขา ซึ่งแต่ละคนก็มีปัญหาภายในจิตใจของตัวเองที่จะต้องฝันฝ่าออกไปให้ได้
ในส่วนของการกำกับแล้วต้องขอชมผู้กำกับ Joey Ansah จริงๆที่ทำหน้าที่ได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งในด้านการกำกับ และในด้านการแสดงเป็น "Akuma" สิ่งที่ผู้เขียนชอบมากๆในสไตล์การกำกับของเขาเลยก็คือ การที่เขาให้เวลากับตัวละครในการที่จะค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้เรารู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครเหล่านี้ เสมือนฝันฝ่าไปพร้อมกับพวกเขา และมันยังทำให้เราเชื่ออย่างสนิทใจในท้ายที่สุดอีกด้วย ว่าพวกเขาสามารถที่จะต่อสู้ได้อย่างดุเดือด และออกท่าไม้ตายอย่าง Shouryuken / Hado-Ken ได้ เพราะเราได้เห็นพวกเขาฝึกมามากมาย ฝันฝ่ามามากมาย จนกว่าจะมาถึงจุดนี้จริงๆ
นอกจากนั้นแล้วการกำกับฉาก Action ของเขายังสวยงาม น่าทึ่ง สนุก และตื่นเต้นสุดๆอีกด้วย ที่สำคัญ มันไม่เต็มไปด้วยการใช้เทคนิคสั่นกล้องสุดแสนน่ารำคาญแบบที่ Hollywood หรือผู้กำกับบางคนทำ ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องขอชม Acting Coach หรือ คนคุมคิวบู้ด้วย ที่กำกับคิวและท่าทางต่างๆได้อย่างน่าทึ่ง สมจริงเสมือนในเกมจริงๆ
แต่สิ่งที่ผู้เขียนติดหนึบจริงๆกับซีรียส์นี้เลย ก็คงจะหนีไม่พ้นเนื้อเรื่องที่แสนเข้มข้นของมัน เรื่องราวของเส้นทางแห่งพลัง ความมืด การใฝ่หาพลัง รวมไปถึงความเคียดแค้น ทั้งยังมีรักสามเศร้าอีกด้วย ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้มันช่างเขียนและถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเสียเหลือเกิน จนเราอดที่จะรักตัวละครเหล่านี้ไม่ได้เสียจริงๆ และเราจะพูดว่าตัวเองนั่งลุ้นทุกครั้งว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อไป
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องขอชมจริงๆเลยก็คือในด้านของนักแสดง ที่ต้องพูดเลยว่า พวก TV-Series หรือ Mini Series และ Fan Made ทั้งหลายแหล่นั้น ส่วนใหญ่จะได้นักแสดงแบบไม่ค่อยจะดีนัก และไม่ค่อยจะเหมาะกับบทนักซักเท่าไร ซึ่งมันดึงเราออกจากตัวเนื้อหาอยู่พอสมควร แต่ Street Fighter : Assassin's Fist นั้น หาทีมนักแสดงคุณภาพและเหมาะสมได้อย่างยอดเยี่ยมเสียจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น Ken , Ryu , Goken หรือ Sayaka แต่ 2 คนที่ต้องขอชมจากใจเลยก็คือ Gotetsu ซึ่งรับบทเป็นอาจารย์ของ Goken และ Goki ในเรื่อง ที่นำแสดงได้อย่างน่าทึ่ง น่าเชื่อถือ และน่าเกรงขามเสียจริงๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่าในส่วนคิวบู้คุณ Togo Igawa ได้เล่นเองรึเปล่า (เดาว่าคงไม่) แต่เขาทำหน้าที่ในการแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ ถึงแม้จะอายุมากแล้วก็ตาม
อีกคนหนึ่งที่ประทับใจผู้เขียนเป็นพิเศษก็คือ Gaku Space ซึ่งรับบทเป็น Goki เขาแสดงผลงานการแสดงได้อย่างน่าทึ่งจริงๆ ซึ่งเรียกได้ว่าทั้งเรื่อง เขาเป็นคนที่รับบทหนักที่สุดก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นจะต้องแสดงอารมณ์ชิงชัง ล้มเหลว โกรธ และถูกครอบงำ ซึ่งเขาก็นำแสดงในส่วนนี้ได้อย่างน่าเชื่อถือมากๆ จนผู้เขียนอดไม่ได้ที่จะแอบเห็นใจ และสงสารตัวละครนี้อยู่พอสมควร
แต่...แน่นอนว่ามันก็ต้องมีข้อเสียเช่นเดียวกัน
จุดแรกที่ผู้เขียนรู้สึกติดขัดอยู่พอสมควรก็คือ การใช้การข้ามเวลาในบทมากจนเกินไป อย่างเช่น ตัวละครนี้ฝึกอยู่ แล้วก็ขึ้นข้อความ ผ่านไป กี่ปีก็ว่าไป แล้วก็ฝึกเสร็จแล้ว เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้ โอเคถ้าหากมันมีซักครั้งหนึ่ง ยังไม่เป็นไร พอจะเข้าใจได้ แต่นี้มีถึง 2-3 ครั้ง มันสร้างความห่างของช่วงเวลามากจนเกินไป จนทำให้รู้สึกว่าปมขัดแย้งที่ถูกสร้างเอาไว้ มันไม่ได้เพิ่มความเข้มข้นขึ้นเลยอย่างน่าเสียดาย และมันทำให้รู้สึกว่าถูกตัดขาดจากบทภาพยนตร์อยู่พอสมควร เนื่องจากการใช้เทคนิคเช่นนี้ที่มากจนเกินไป
อีกส่วนหนึ่งก็คือการพัฒนาของ Goki ไปสู่ Akuma (ถึงจุดนี้คงไม่สปอยล์แล้วมั้ง ?)ที่ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอยู่พอตัว จาก Goki ที่เป็นนักแสดงญี่ปุ่น อยู่ดีๆพอเป็น Akuma ก็กลายเป็นฝรั่งอย่างหน้าตาเฉย ถึงแม้ว่าจะบอกว่าตัวเขาเหมาะกับการเป็น Akuma มากกว่าก็ตาม แต่ความแตกต่างมันก็มากจนเกินไป จนทำให้รู้สึกแปลกประหลาด และถูกดึงออกจากตัวละครอยู่พอสมควร
ในท้ายที่สุดแล้ว Street Fighter : Assassin's Fist ก็เหลือเอาไว้แต่ความประทับใจ ใช่มันไม่ได้ Perfect มันยังคงมีข้อเสียบางข้อในด้านของการกำกับ และนักแสดงอยู่บ้าง แต่ในด้านที่ตัวมันควรจะทำให้"ถูกต้อง"อย่าง บทภาพยนตร์ และการกำกับส่วนใหญ่นั้น พวกเขาช่างทำได้อย่างยอดเยี่ยมจนพอที่จะก้าวข้ามผ่านข้อเสียเหล่านั้นไปได้อย่างง่ายได้ ซึ่งในตอนนี้ได้ข่าวมาว่า ถ้าหากซีรียส์นี้ประสบความสำเร็จเขาจะเดินหน้าสร้างภาคต่อ โดยในคราวต่อไปจะเป็นเรื่องราวของอีกหนึ่งตัวละครหลักอย่าง Chun-Li !! เรียกได้ว่าน่าติดตามเสียจริงๆ
สำหรับใครที่เป็นแฟนเกม Street Fighter ก็อย่าลืมไปช่วยกันติดตามผลงานของพวกเขาด้วยนะครับบบ
Final Score : [ A- ] & [ Must See Badge ]
สามารถ Comment บทวิจารณ์หรือติดต่อผู้เขียนโดยตรงได้ที่ fallsdownzth@gmail.com ครับผม ขอบคุณครับ :) .
สามารถ Comment บทวิจารณ์หรือติดต่อผู้เขียนโดยตรงได้ที่ fallsdownzth@gmail.com ครับผม ขอบคุณครับ :) .
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น