วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

The Grand Budapest Hotel ( 2014 ) Movie Review

The Grand Budapest Hotel ( 2014 ) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz




โรมแรมที่ยอดเยี่ยมที่สุด


              The Grand Budapest Hotel ว่าด้วยเรื่องราวของโรงแรมแห่งหนึ่งในยุโรปที่ต้องเผชิญกับปัญหาระหว่างช่วงสงครามที่นำไปสู่เรื่องราววุ่นวายมากมาย ท่ามกลางนั้น กุสตาฟได้พบกับซีโร่เด็กชายพนักงานโรงแรมที่ผจญภัยไปร่วมทางกับเขา สู่เรื่องราวที่น่าตื่นเต้น

              The Grand Budapest Hotel เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่คอภาพยนตร์หลายคน ตั้งตารอคอยกันมากเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นในด้านของผู้กำกับชื่อดังอย่าง เวส แอนเดอร์สัน หรือตัวอย่างภาพยนตร์ที่ช่างมีสีสันตระการตาเสียเหลือเกิน


แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะเตะตาและทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าสนใจเสียจริงๆสำหรับหลายคน ก็คงจะหนีไม่พ้นทีมนักแสดงชื่อดังและมากฝีมือ ที่เข้ามารวมตัวกันที่โรงแรมแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น บิล เมอรรีย์ , เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน , เอเดรียน โบรดี , วิลเลี่ยม ดาโฟ , เจฟฟ์ โกลด์บลุม , ทิลด้า สวอนตัน , ทอม วิลกินสัน , ฮาร์วีย์ คีเทล , โอเวน วิลสัน ,  เซียร์ชา โรแนน , จู้ด ลอว์ , เอฟ. มัวเรย์ อับราฮัม  นี้ยังเป็นเพียงแค่ดาราส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจากที่กล่าวมาแต่ละท่านนั้นเรียกได้ว่ามีฝีมือระดับมหากาฬ หรือมีชื่อเสียงกันทั้งนั้น แต่หลายๆคนที่กล่าวมานั้นส่วนใหญ่จะรับเป็นคล้ายๆกับบทรับเชิญเสียมากกว่า ส่วนบทหลักและตัวละครหลักจริงๆ จะไปตกอยู่กับที่ โทนี่ เรโวโลริ กับ เรล์ฟ ไฟนส์ 


เมื่อผู้เขียนได้ชมภาพยนตร์แล้ว สิ่งที่สังเกตุได้เป็นอย่างแรกๆเลยในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คือโปรดัคชั่น ดีไซน์ กับ การเคลื่อนไหวของกล้องที่โดดเด่นมากๆ
ในด้านของโปรดัคชั่น ดีไซน์ ก็ต้องขอชมทีมโปรดัคชั่นเสียจริงๆ เพราะพวกเขาออกแบบฉาก โรงแรม สิ่งของต่างๆออกมาได้อย่างน่าทึ่ง น่าตื่นตาตื่นใจเสียจริงๆ และพวกเขาใส่ใจทุกๆรายละเอียด ทุกๆชิ้นส่วนในฉากอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นฉากใดๆก็ตามในภาพยนตร์ คุณมักจะเห็นรายละเอียด ที่คอยบอกเรื่องราวและสร้างสีสันให้กับภาพยนตร์อยู่ตลอดเวลา


อีกส่วนหนึ่งก็คือการเคลื่อนไหวของกล้องในภาพยนตร์ ที่ตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที มักจะมีการเคลื่อนไหวที่ผสมผสานกับเรื่องเล่า และฉากได้อย่างน่าทึ่งตลอดเวลา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก การที่จะต้องวางมุมกล้องต่างๆให้เปะ และสมดุลซ้าย-ขวา บนและล่างอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทีมงานก็ทำหน้าที่นี้ได้อย่างเพอร์เฟ็คที่สุด    
และเมื่อนำจุดเด่นสองสิ่งนี้เข้ามารวมกันระหว่าง โปรดัคชั่น ดีไซน์ที่น่าทึ่ง กับการเคลื่อนไหวของกล้องที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้ตัวภาพยนตร์ The Grand Budapest Hotel กลายเป็นภาพยนตร์ที่สนุกสนาน น่าสนใจ และน่าตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอดเวลา เพราะตัวภาพยนตร์มักจะมีวิธีที่จะสร้างเทคนิคหรือฉากใหม่ๆให้เราได้ตื่นเต้นกับมันอยู่ตลอดเวลานั้นเอง

ในด้านของการกำกับของเวส แอนเดอร์สันแล้วก็ต้องขอชมว่าเขาทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ จากสไตล์การกำกับที่เต็มไปด้วย เสียงหัวเราะ และสีสันอยู่ตลอดเวลา  นอกจากนั้นแล้วการเล่าเรื่องของเขาก็น่าสนใจมากๆเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าตัวภาพยนตร์จะยืนกรานว่ามีจุดหลักว่าเป็นภาพยนตร์แนวตลกก็ตาม แต่เมื่อผู้เขียนได้ชมจริงๆแล้ว กลับพบว่ามันแอบแฝงอารมณ์และสไตล์ต่างๆเอาไว้มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัย , ฆาตกรรม หรือ แม้กระทั่งแฟนตาซี ซึ่งทำให้ตัวภาพยนตร์ชิ้นนี้ของเขานั้นมีความเป็นเอกลักษณ์มากๆเลยทีเดียว

สำหรับท่านใดที่สนใจที่จะชมภาพยนตร์เรื่องนี้โดยที่มีสาเหตุหลักมาจากนักแสดง ก็ต้องขอพูดเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน นักแสดงที่ถูกรับเชิญมาในภาพยนตร์เรื่องนี้ส่วนใหญ่นั้น แต่ละท่านนำแสดงผลงานได้อย่างสนุกสนาน และน่าจดจำไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะ โทนี่ เรโวโลริ กับ เรล์ฟ ไฟนส์ ที่นำแสดงทั้งเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งๆที่ต้องรับบทหนักจากตัวภาพยนตร์ที่มีหลากหลายอารมณ์อยู่ตลอดเวลา


ในด้านของบทภาพยนตร์ The Grand Budapest Hotel นั้น จะว่าไปแล้วหลักๆมันก็ไม่ได้เป็นบทที่จะพลิกแพลงหรือเต็มไปด้วยทฤษฏีต่างๆมากมาย แต่มันกลับเป็นบทที่ค่อนข้างจะมีความเป็นพื้นฐาน เข้าใจง่าย และอาศัยฝีมือและสไตล์ของผู้กำกับ เวส แอนเดอร์สันเป็นตัวเติมแต่งเรื่องราวทางอ้อมเสียมากกว่า จึงทำให้ด้านนี้กลายเป็นด้านที่จะว่าดีแล้วก็คงใช่ จะว่าแย่ก็คงไม่เชิงเสียทีเดียว แต่ในอกด้านหนึ่ง เมื่อเรามานั่งดูรายละเอียดของมันจริงๆแล้ว ตัวภาพยนตร์เองก็ไม่ได้มีเพียงแค่เสียงหัวเราะ หรือสีสันที่สวยงามเท่านั้น แต่มันกลับแฝงไปด้วยการเสียดสีสังคมมนุษย์ และโลกที่โหดร้ายนี้ได้อย่างแสนเจ็บปวดอีกด้วย


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในท้ายที่สุดแล้วภาพยนตร์เรื่อง The Grand Budapest Hotel ช่างเป็นภาพยนตร์ที่น่าจดจำมากที่สุดในปีนี้อีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว จากทีมนักแสดงที่สร้างความตลกขบขันและน่าจดจำทุกๆคน โปรดัคชั่น ดีไซน์ที่ยอดเยี่ยม ตระการตา ผสมผสานกับการเคลื่อนไหวของกล้องที่น่าทึ่ง และปิดท้ายด้วยสไตล์การเล่าเรื่องที่่ชาญฉลาดของผู้กำกับ เวส แอนเดอร์สัน ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่นักชมภาพยนตร์ทุกคนห้ามพลาดเด็ดขาดเลยทีเดียว


Final Score : [ A- ] & [ Must See Badge ]



สามารถ Comment บทวิจารณ์หรือติดต่อผู้เขียนโดยตรงได้ที่ fallsdownzth@gmail.com ครับผม ขอบคุณครับ :) .

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น