วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Fantastic Four ( 2015 ) Movie Review



Fantastic Four ( 2015 ) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz


"Failtastic Four"



 ชื่อเลยว่าท่านใดที่พอจะติดตามข่าวสารในวงการภาพยนตร์กันเป็นประจำอยู่บ้าง ก็น่าจะได้ยินเรื่องราวของภาพยนตร์ Fantastic Four ฉบับรีบู้ทนี้อยู่ไม่ใช่น้อย เพียงแต่ว่าเรื่องราวที่ว่านั้นกลายเป็นกระแสที่ตัวภาพยนตร์ถูกถล่มและสับอย่างเละเทะจากนักวิจารณ์ต่างประเทศด้วยคะแนนอันต่ำเตี้ยเรี้ยดินซะมากกว่า จนตัวผู้กำกับ จอรช์ แทรงค์ ต้องถึงกับออกมาบ่นอุบและเกิดเป็นกระแสดราม่าระหว่างเจ้าตัวกับสตูดิโอกันเลยทีเดียว


Fantastic Four ฉบับรีเมค ยังคงว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เดินทางข้ามไปสู่อีกมิติหนึ่ง ซึ่งก็ดันเกิดเหตุร้ายขึ้นมา เมื่อพวกเขารู้สึกตัวอีกทีพวกเขาก็ได้รับพลังพิเศษมา แต่ในระหว่างนั้นเองภัยอันตรายใหม่ก็กำลังคืบคลานเข้ามา พวกเขาจึงต้องรวมพลังกันเพื่อหยุดภัยอันตรายนี้ให้ได้



เอาจริงๆ สิ่งหนึ่งที่อดเห็นด้วยไม่ได้สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบของ Fantastic Four เลย ก็คือความล้มเหลวของการเป็นภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ และเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของมัน


ตั้งแต่ฉากแอ็คชั่นที่น้อยแสนน้อย น้อยจนไม่แน่ใจว่าฉากต่อยตีปล่อยพลังทั้งเรื่องจะร่วมกันเกิน 5 นาทีไหม ยันฉากแอ็คชั่นเวลาเล็กกระจิ๊ดริดเหล่านี้ก็ยังทำออกมาได้จืดชืด สุดแสนจะธรรมดาไม่สมกับการปูเรื่องมาซะอลังการงานสร้าง ซึ่งเป็นผลทำให้ครึ่งหลังของภาพยนตร์ซึ่งเป็นจุดรวมฉากแอ็คชั่นกลายเป็นช่วงรวมพลังฮีโร่ที่ดูไปหลับไป ปราศจากซึ่งความน่าตื่นเต้นหรือกระทั่งรู้สึกได้ถึงภัยอันตรายของเหล่าตัวละครแต่อย่างใด


หรือกระทั่งการสร้างโลกของเหล่าฮีโร่ทั้ง 4 และโลกอีกมิติ ก็ช่างดูเล็กนิดเดียวอย่างกับแค่เดินไปอีกห้องหนึ่ง  ไม่มีความอลังการหรือความน่าทึ่งใดๆเลย หนำซ้ำตัวละครผู้ใหญ่โลกมนุษย์ในภาพยนตร์ก็ดูจะมีแต่พวกประเภทความคิดไดโนเสาร์เต่าล้านปี ที่คิดอะไรก็ชั่วร้ายหรือล้าหลังไปซะหมดโดยปราศจากเหตุและผลที่ฟังขึ้นมารองรับ นี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนประสบการณ์ของผู้กำกับ จอรช์ แทรงค์ ที่ไม่สามารถควบคุมงานภาพยนตร์ที่มีขนาดใหญ่ได้เลยแม้แต่น้อย



อีกสิ่งหนึ่งที่หลายๆคนพูดถึงสำหรับ Fantastic Four ฉบับใหม่นี้ ก็คือตัวละครอย่าง ด็อกเตอร์ดูม หรือ วิคเตอร์ วอน ดูม ซึ่งพูดตรงๆเลยว่านี้เป็นอีกหนึ่งตัวละครร้ายที่สุดแสนจะแบนรายอย่างกับพื้นถนน ปราศจากความน่าสนใจ หรือ ความน่าเห็นใจแต่อย่างใด ซึ่งเป็นเหตุมาจากการที่ตัวละครถูกยัดๆเข้ามาระหว่างกลางเรื่องโดยขาดการปูเรื่องราวของตัวละครอย่างจริงจัง 


โชคยังดีที่ Fantastic Four ยังคงมีบางด้านที่พอจะคลายความง่วงนอนได้บ้าง อย่างเช่นเหล่าตัวละครเอกทั้ง 4 ที่ต่างมีความสัมพันธ์อันน่าสนใจ เช่น ความเชื่อใจและความสัมพันธ์ตั้งแต่วัยเยาว์ระหว่าง รี้ด รีชารต์ กับ เบน กริมม์ หรือ การยอมรับในซึ่งกันและกันแม้จะไม่ได้มีเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันของ ซูซาน กับ จอหน์นี่ สตอร์ม ทั้งสองสายสัมพันธ์นี้ถูกเล่าและปูออกมาได้อย่างน่าติดตาม และเหล่านักแสดงก็ถ่ายทอดอารมณ์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ ไมลส์ เทลเลอร์ ซึ่งเคยสร้างความประทับใจให้เรามาแล้วใน Whiplash 




สุดท้ายแล้ว Fantastic Four ฉบับรีบู้ทใหม่ล่าสุดนี้ของค่าย 20 Century Fox ก็ไม่ได้เป็นภาพยนตร์ระดับยอดแย่แห่งปี อย่างที่กระแสหลายทิศทางได้พูดไว้ นี้ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่จัดว่ายังคงดูได้ในระดับหนึ่งถ้าหากไม่คาดหวังในด้านของความเป็นภาพยนตร์บล็อคบัสเตอร์มากนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าคุณภาพที่ออกมานั้น ต่ำกว่าที่คาดไว้มากพอสมควร อย่างน้อยก็ในด้านของโปรดัคชั่นที่ล้มไม่เป็นท่าเอาเสียเลย ณ เวลานี้ก็คงจะต้องดูกันต่อไปว่าอนาคตของภาพยนตร์ชุดนี้จะเป็นอย่างไร


Final Score : [ 5.5 / 10 ]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น