"มนุษย์เอย เจ้าคือสิ่งใด"
สำหรับเมื่อก่อน ความเชื่อซึ่งมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่สูงส่ง เต็มไปด้วยสติปัญญาและเหตุผล ดูจะเป็นสิ่งที่ปฏิเสธได้ยากเหลือเกิน จากประวัติศาสตร์และการคิดค้นอันน่าทึ่งของเผ่าพันธุ์เรามากมาย
แต่ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าความเชื่อนี้เริ่มที่จะสั่นคลอน ถูกต่อกรและตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนออกมาในโลกของภาพยนตร์อยู่หลายต่อหลายครั้ง เช่นกระแสภาพยนตร์ 'ดิสโธเปีย' ทั้งหลาย ชวนให้เราหันกลับไปมองอดีต นั่งครุ่นคิดถึงการกระทำจากเผ่าพันธุ์อันสูงส่งของเรา และตั้งคำถามว่า 'คุณค่าของความเป็นมนุษย์มันคืออะไร และวัดได้อย่างไรกันแน่' จากความเชื่อ ? จากฐานะทางสังคม ? จากหน้าตา ? หรือสิ่งใดกันแน่
The Look of Silence เป็นภาพยนตร์สารคดีที่ชวนให้เราครุ่นคิดอยู่กับคำถามนี้เรื่อยไปแม้กระทั่งเมื่อแสงที่สาดส่องบนจอภาพยนตร์จะดับลงไปแล้ว
The Look of Silence เป็นภาพยนตร์ที่มีพลังอันเปี่ยมล้น ถึงแม้ว่าวิธีการถ่ายทอด เล่าเรื่องราวต่างๆจะค่อนข้างเรียบง่าย ให้ความรู้สึกถูกจัดฉากไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความลึกซึ้งในประเด็นที่พูดถึงลดลงไปเลยแม้แต่น้อย ที่น่าชื่นชมคือมันได้ผสมผสานและนำเสนอมุมมองใหม่ของครอบครัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย และตัวฆาตกรได้อย่างน่าสนใจ ลึกซึ้ง และรอบด้าน
ซึ่งด้วยการนำเสนอมุมมองที่รอบด้านเช่นนี้นั้นเอง มันก็ทำให้เกิดการปะทะกันของความคิดประเด็นต่างๆตลอดเวลาในภาพยนตร์ หลายสิ่งหลายอย่างก็ชวนให้เรารู้สึกสะอึกอยู่ไม่น้อย ดูเหมือนว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์สามารถที่จะทำเรื่องที่ดีและน่าภูมิใจได้มากมาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเผ่าพันธุ์อันสูงส่งนี้เองที่กระทำการบางอย่างที่โหดร้ายเสียยิ่งกว่าสิ่งที่เราตราหน้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานซะอีก ทำให้สถานะของมนุษย์ในปัจจุบันเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ที่แม้แต่เราเองก็ไม่แน่ใจว่าคืออะไรกันแน่
สุดท้ายแล้ว The Look of Silence เป็นภาพยนตร์สารคดีที่คนไทยทุกคนควรชม ไม่ใช่แค่เพราะว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเพราะเนื้อหาอันลึกซึ้งของมัน ซึ่งก็น่าจะทำให้ผู้ชมและโดยเฉพาะคนไทยได้อะไรกลับไปครุ่นคิด หรือกระทั่งเปลี่ยนมุมมองของท่านไปสิ้นเชิงอย่างแน่นอน
Final Score : [ 9 / 10 ]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น