วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2556

Oblivion ( 2013 ) Movie Review

Movie Review
ปฏิบัติการโลกกู้คน !?





Movie Name :  Oblivion ( 2013 ) , Action / Sci-Fi / Adventure , Universal Pictures
Director : Joseph Kosinski ( Tron : Legacy ) Also Work with Screenplay
Stars : Tom Cruise ( MI4 , Valkyrie ) , Morgan Freeman ( Olympus Has Fallen , Wanted ) , Olga Kurylenko ( Hitman , Quantam of Solace ) , Andrea Riseborough ( W.E. )
Rating : PG -13  






REVIEW THAI




                                                                       Oblivion เป็นภาพยนตร์ แนว Action / Sci-Fi / Adventure  อีกเรื่องหนึ่งของปีนี้ที่เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างจะใหญ่มาก นอกจาก พลังดาราอย่าง Tom Cruise ที่ช่วงนี้รู้สึกจะมีแต่หนังดีๆแหะ แถมยังเป็นแนวใกล้ๆเคียงกันซะด้วย เช่น Jack Reacher หรือ Mission Impossible : Ghost Protocal รวมไปถึง Morgan Freeman ที่เราเพิ่งจะได้ชมเขาเล่นใน Olympus Has Fallen หมาดๆนี้เอง



ในคราวนี้ Oblivion ได้ตัวผู้กำกับอย่าง Joseph Kosinski มาเป็นผู้กำกับ แถมยังเป็นหนึ่งในผู้เขียนบทเองด้วยอีกต่างหาก ซึ่งเขาคนนี้เคยมีฝีมือมาแล้วจาก Tron : Legacy นั่นเอง แถมเขายังถูกทาบทามให้เป็นผู้กำกับ Tron ภาคต่อไปที่มีลือๆกันว่าจะเข้าฉายในปี 2014 นี้อีกต่างหาก เพราะ ฉะนั้น ก็คงวางใจได้ระดับหนึ่งว่าคงไม่ออกมาเน่าเละเทะ(มาก)นัก



Oblivion ว่าด้วยเรื่องราวของ แจ๊ค ที่เขาเป็นหน่วย"เก็บกวาด" โลกหลังจากที่โลกนั้นมีสงครามกับต่างดาวจนทำให้โลกตอนนี้เต็มไปด้วยซากไปหมดแล้ว แต่เขาก็เริ่มตั้งข้อสงสัยในตัวของเขาเอง และ การที่เขาทำเช่นนั้นอาจจะนำพาหายนะมาสู่ตัวเขาเอง หรือ อาจจะเป็นเพียงโอกาสเพียงไม่กี่ 1 ในล้าน ก็เป็นได้ !?




ต้องขอเริ่มจากของหวานชิวๆกันก่อน จุดแรกที่ผมประทับใจกับ Oblivion มากๆเลยก็คือ ด้านภาพ ที่ต้องขอชม Director of Photography จริงๆ ว่าแทบๆจะทุกช๊อตต่างๆมันช่างสวยงาม และ วางเสกล ได้เปะๆสุดๆ ถึงแม้ว่ามันจะมาก...ไปนิดสสส์นึง จนดูเหมือนทุกอย่างมันถูกจัดฉากมากเกินไป แต่ก็ขอชมจริงๆว่ามันสวยสุดๆ ยิ่งดูในโรง Imax นี้แบบ โอ้ว !
ต่อมาเลยก็คือ ฉากต่อสู้ในเรื่องแหม่หลายๆคนอาจจะรอจุดนี้้อยู่ ใน Oblivion ทำฉากต่อสู้ออกมาได้น่าสนใจ สนุก น่าตื่นเต้นสุดๆ แถมยังไม่ดูโง่ๆ ปยอ. ยิ่งแบบช่างหัวทุกสรรพสิ่งบนโลก แบบหนังบางเรื่อง ถึงแม้ฉากบางจุดแทบจะ Copy / Paste กันมาจาก Star Wars ก็ตาม (จะว่าไป Oblivion มี กลิ่นอายของ Star Wars เยอะมาก .... )


การเริ่มเรื่องนั้นทำได้ค่อนข้างจะดี ทำให้คุณรู้สึกสนใจ และ รู้สึกอยากจะติดตามไปเรื่อยๆว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น อีกจุดนีงเลยที่ต้องขอชมและอาจจะชอบเป็นการส่วนตัว เลยก็คือ การออกแบบ หุ่นต่างๆ ยานต่างๆ สถานที่ต่างๆ มันช่างดูสมจริง เคลื่อนไหวแบบมีชีวิต แต่ก็ยังคงเป็นหุ่นยนตร์ได้ดี (งงไหมนี้) ผมค่อนข้างชอบการออกแบบมากๆ



แต่.........สิ่งที่หยุด Oblivion เอาไว้สำหรับกลายเป็นภาพยนตร์ Sci-Fi แห่งปี จุดที่ร้ายแรงที่สุดเลยก็คือ การที่ตัวหนังนั้นตั้งเป้าเอาไว้สูงเกินไปมากกว่าตัวบทที่จะสามารถไปถึงจุดนั้นได้จริงๆ โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า "โลกมีค่าควรให้ต่อสู้" ในคำพูดมันช่างดูทรงพลัง น่าสนใจ น่าติดตาม และ ดูยิ่งใหญ่สุดๆ แต่เมื่อเอาเข้าจริง กลับแทบจะไม่มีอะไรมากมายนัก แถมคำพูดนั้นดูเหมือนจะไปไกลและสูงกว่าที่หนังเป็นจริงๆเอาไว้ค่อนข้างมาก



อีกจุดก็คือ ความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ ช่วงแรกมันค่อนข้างจะน่าสนใจมากๆ แต่พอหลังจาก 1 ชม. หรือ 2 ชม. ผ่านไป มันจะโคตรน่าเบื่อ ไม่น่าสนใจเลยแม้แต่น้อยสุดๆ แถมยิ่งแย่มันกลับฉุดตัวหนังให้ดูน่าสนใจน้อยลงไปอีก


การตัดต่อ/เล่าเรื่อง ของหนังที่ค่อนข้างแย่ในหลายๆจุด ทำให้คนดูแม้กระทั่งผมที่ดูหนังมาเยอะ ยัง งง สุดๆว่าตกลงมันยังไงกันแน่ การตัดสลับไปสลับมา ในบางจุดดูเร่งมากจนเกินไป ทำให้สับสน และ ทำให้เสียอารมณ์ในการดูอย่างมาก สำหรับคนที่สนใจในเนื้อเรื่อง


ตอนจบ...ฉากจบ... เป็นอะไรที่อืมม์...จริงๆมันก็ไม่ได้แย่มากมาย แต่มันเหมือนถูกจัดวางมามากเกินไป ทำให้ฉากจบที่ควรจะเป็นอะไรที่เราควรที่จะ ตื่นตา ตกใจ ตลึง เหมือนถูกสะกดเอาไว้ และทำให้เกิดอาการอยากที่จะ ซื้อ Blu-Ray / DVD มาดูที่บ้านอีกซัก 10 - 20 รอบ แต่ Oblivion ฉากจบกลับแทบจะถูกเดาได้ในช่วง เกือบๆ 2 ชม. ของหนัง (ซึ่งจริงๆมันก็ใกล้จะจบแล้วล่ะ) แถมฉากจบ ดูเหมือนไม่ได้ถูกขัดเกลามาอย่างดีนัก มันช่างดูเหมือนออกแนวขี้เกียจ และ ไม่ได้ตื่นตาอะไรเลย กลับดู ธรรมดา ทำให้ตอนจบคุณดูจบแล้วก็ "อืม... อืม... แล้ว ??"
เทียบกับฉากต่อสู้ในบางจุด เอามาสลับกันตอนจบ ยังน่าสนุกกว่าเยอะ



Oblivion เป็นภาพยนตร์ Action / Sci-Fi / Adventure ที่ภายนอกมันช่างดูดีไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็นภาพที่สวยงาม และ ถูกจัดมาอย่างดีสุดๆ ฉาก Action ที่สนุก ตื่นเต้น น่าลุ้น การออกแบบสถานที่ หุ่นต่างๆ ยานต่างๆ ที่ทำออกมาได้ดี การเริ่มเรื่องที่น่าสนใจ และ คำโฆษณาที่ยิ่งใหญ่อลังการ แต่สิ่งที่อยู่ลึกเข้าไปจริงๆแล้ว กลับไม่ค่อยมีอะไรมากซักเท่าใดนัก เต็มไปด้วย เนื้อเรื่องที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง ตัวละครที่ไร้ความน่าสนใจหลังจากช่วงแรก การตัดต่อที่แย่ทำให้สับสนในการเล่าเรื่องอย่างมาก และ ฉากจบที่สุดแสนจะงั้นๆสำหรับหนังแนวนี้และขนาดใหญ่ขนาดนี้




The Best Quote from " Oblivion "

"Are you still the effective team ? "
" No , we're not the effective team. "




+ สิ่งที่ทำได้ดี :
+ ภาพที่สวยงามสุดๆ ฉากต่างๆที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี
+ การออกแบบหุ่น สถานที่ ยานต่างๆ ที่น่าสนใจ และ ดูมีชีวิต
+ การเล่าเรื่องในช่วงแรกที่น่าสนใจ
+ ฉาก Action ที่สนุก ตื่นเต้น น่าติดตาม



- สิ่งที่ดูเหมือนจะไปไม่รอด :
- การตัดต่อที่แย่ ทำให้หลายๆฉากที่เป็นเนื้อเรื่อง ไม่เข้าใจ สับสน และ พางงสุดๆ
- ความสัมพันธ์ของตัวละครหลังจากช่วงแรก จะเป็นอะไรที่ลากหนังดิ่งลงเหว เพราะ มันน่าเบื่อไม่น่าติดตาม สุดๆ
- เนื้อเรื่องที่โฆษณาเอาไว้ยิ่งใหญ่เกินจริง ในเมื่อความเป็นจริงแล้วตัวหนังไม่ได้มีอะไรมากมายซับซ้อนนัก แค่ทำให้มันดูเหมือนมีมากมายและซับซ้อนก็เท่านั้น
- ฉากจบสุดแสนจะธรรมดา และน่าผิดหวัง สำหรับภาพยนตร์ที่ใหญ่ในระดับนี้



Final Score :  [ C+ ]




Thank You to : Oblivion ( 2013 ) , IMDB for information

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น