วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

After Earth ( 2013 ) Movie Review

MOVIE REVIEW
M.Night.....OH GOD... WHAT HAVE YOU DONE !!?!




Movie Name : After Earth ( 2013 ) , Columbia Pictures , Adventure 
Director : M.Night Shyamalan ( The Last Airbender , The Sixth Sense )
Stars : Will Smith  ( I Am Legend ) , Jaden Smith ( Karate Kid ) 
Rating : PG-13





REVIEW



                                                                                    After Earth เป็นภาพยนตร์ของผู้กำกับ M.Night Syamalan ที่เป็นผู้กำกับคนหนึ่งที่ทำให้คนทั่วโลกสับสนมาก ในช่วงแรกๆนั้นภาพยนตร์ของเขาแต่ละเรื่องถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่เป็นตำนาน จนถึงกับไม่ว่าใครๆก็ต้องรู้จักภาพยนตร์ของเขา อย่างเช่น The Sixth Sense , Unbreakable หรือ The Signs แต่หลังจากนั้นไม่รู้พี่แกไปทำอะไรมาก็ไม่ทราบ ฝีมือการกำกับก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยทีเดียว เขากลับสร้างผลงานที่แสนเจ็บปวดให้แก่แฟนๆ รวมไปถึง The Last Airbender ที่เป็นการ์ตูนโปรดของ ผู้เขียนเลยก็ว่าได้ เพราะมันสนุกมากๆ แต่พอพี่แกเอาไปทำหนังแค่นั้นหละ ดูไปแทบอยากจะร้องไห้ ต่อให้คุณไม่ได้ดูการ์ตูนมาก่อนคุณก็รู้ว่า The Last Airbender มันแย่แค่ไหน  และคราวนี้ After Earth ได้สองพ่อลูก Will Smith และ Jaden Smith มา ไม่แน่ !! เรื่องนี้อาจจะเป็นความหวังใหม่สำหรับแฟนๆ M.Night ก็เป็นได้ แต่................... ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เพราะมันไม่เป็นเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย......


After Earth เป็นภาพยนตร์ที่ผมขอบอกตามตรงว่าเลวร้ายกว่าภาพยนตร์เกรด B เสียอีก ไม่ว่าจะบท ตัวละคร ความน่าสนใจ ความสนุก สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยก็คือ มันไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ทุกๆสิ่ง บท ตัวละคร มันไม่มีตัวตนเลยแม้แต่น้อย บทที่ไม่มีอะไรเลย ไม่สมเหตุสมผลซักจุด ยิ่งดูยิ่งขัดกันเองไปมา ในหลายๆจุดมันทำให้คุณรู้สึกทรมาณเหลือเกินที่จะนั่งดู เพราะบทมันช่างปยอ สุดจะทนเหลือเกิน


ตัวละครก็เลวร้ายไม่แพ้กัน ไม่ทราบว่าหนังเรื่องนี้พยายามจะแข่งให้แย่ที่สุดกันหรืออย่างไรไม่ทราบ เพราะ ตัวละครนั้นทั้งเรื่องขอบอกตรงๆครับ มีอยู่แค่นั้นแหละ 2 ตัวละคร ที่เหลือ มีมาทำไมไม่ทราบก็ไม่รู้ ไม่มีก็ยังได้ ถ้า 2 ตัวละครนั้นดีจริงๆละก็ มันก็คงจะพอรับได้ใช่ไหมละครับ แต่ไม่เลย แม้แต่ 2 ตัวละครนี้ก็ยังเลวร้ายสุดๆ เป็นตัวละครพ่อ-ลูกที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมเคยดูมา ไม่ทราบว่าไอ้การที่แกเอาความคิดที่ว่า ตัวละครที่ไร้อารมณ์มาเนี้ยมันเป็นดาบสองคมรึเปล่า เพราะ ถ้าทำดีก็เวิรค์ไป แต่ถ้าทำไม่ดีก็โคตรแห่งเฟล ซึ่งในกรณีนี้เป็นอย่างหลัง ตัวละครทั้งสองตัว นั้น คนนึงก็แทบจะไร้ซึ่งอารมณ์ทั้งเรื่องตลอด 24 ชม. และ ช่างน่าเบื่อเหลือเกินที่จะทนดูตัวละครนี้ อีกตัวละครหนึ่ง ก็อารมณ์แปรปรวนแบบหาเหตุผลไม่ได้เลยแม้แต่น้อย และ มันเหมือนเป็นตัวละครที่ยิ่งดูยิ่งรู้สึกน่ารำคาญอย่างมาก ยิ่งกว่าตัวละครอีกตัวละครเสียอีก และความสัมพันธ์พ่อ-ลูก ในเรื่องนี้นั้น ตั้งแต่ต้นจนจบ ความสัมพันธ์ = 0 ทั้งเรื่องไม่มีการพัฒนาใดๆ แต่หนังก็ยังพยายามยัดเยียดเข้ามาให้คนดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรคุณก็ไม่มีวันเชื่อเลยแม้แต่น้อย ว่าสองคนนี้ในตอนท้ายจะเข้าใจกันได้เลย ไม่มีวันจริงๆ ต่อให้เป็นหนังห่วยแตก เกรด B แค่ไหน อย่างน้อยมันก็ต้องมีการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครบ้างแม้กระติ๊ดดดนึงก็ยังมี แต่หนังเรื่องนี้ ไม่มีเลย ไม่มีแม้แต่น้อย



ความสมเหตุสมผลในหนังก็แทบจะเป็น 0 เช่นกัน หลายๆสิ่งหลายๆอย่างทำให้คุณรู้สึกว่า มันเป็นไปได้ยังไง แต่หนังก็กลับไม่คิดที่จะอธิบายมัน ทำให้ผมรู้สึกว่าหลายๆสิ่งในภาพยนตร์มันก็คือมีไปอย่างนั้น ไม่มีเหตุผล ไม่มีคำอธิบายใดๆ ยิ่งทำให้การดูหนังเรื่องนี้ดูช่างลำบากมากขึ้นเพราะ ทุกๆการกระทำในภาพยนตร์มันดูจะขัดกันเองไปมากันเสียหมด


ความสนุกของหนังเรื่องนี้ต้องบอกว่าแทบจะไม่มีเลยมากกว่า มันจะกลายเป็นนั่งดูอย่างทรมาณเสียมากกว่า จนบางท่านอาจจะนั่งคิดว่า "เมื่อไรมันจะจบฟะ" ก็เป็นไปได้ หนังช่างอืดเหลือเกินในหลายๆช่วง ยิ่งผนวกกับบทและตัวละครที่ไม่มีค่าใดๆเลย ทำให้คุณอดที่จะรู้สึกอยากจะขำอย่างคนบ้าไม่ได้ แม้แต่ในช่วงแรกของภาพยนตร์นั้นก็ถือว่าเปิดเรื่องมาได้แย่แล้วผมก็ได้แต่ภาวนาว่า อย่างน้อยมันก็คงไม่แย่กว่านี้ จนมันแย่กว่านี้จนได้...

การแสดงถือว่าทั้งคู่ทำได้ในระดับแบบน่าแปลกใจ Will Smith นั้นถือว่าค่อนข้างแย่ผมเข้าใจว่าเขาพยายามที่จะแสดงให้เป็นตัวละครให้ได้ แต่ไม่รู้เพราะว่าตัวละครนั้นถูกเขียนมาแย่มากๆด้วยหรือเปล่า ทำให้การแสดงของเขาดูแย่ไปในถนัดตา ส่วน Jaden Smith แสดงได้อย่างขึ้นๆลงๆสุดๆ ในหลายๆช่วงแสดงได้แย่ แต่บางช่วงก็แสดงได้โอเค-ดี 


สิ่งที่ทำให้ผมปวดร้าวและเจ็บปวดมากที่สุดเลยสำหรับ M.Night สำหรับเรื่อง After Earth เลยนั้นก็คือ ผมเข้าใจว่าเขาพยายามเหลือเกินที่จะทำให้หนังมันออกมาดี ในหลายๆฉากเขาก็ทำได้ไม่ถึงกับเลวนัก และ ตัวหนังมี Potential สูงมาก คือ มีโอกาสที่จะไปได้ไกล และ สุดยอดมากกว่านี้หลายเท่า ผมเห็นหลายๆสิ่งในภาพยนตร์ที่ช่างน่าเสียดายเหลือเกินที่มันถูกใช้อย่างผิดที่ผิดทางอย่างมาก ทั้งๆที่ถ้าใช้มันถูกทางล่ะก็มันจะเป็นภาพยนตร์ที่สุดยอดอีกเรื่องหนึ่งแท้ๆ แต่มันกลับไปไม่รอด ด้วยองค์ประกอบที่ใช้ผิดที่ผิดทางไปหมด บทและตัวละครที่แทบจะมีค่าเป็น 0 ความสนุกยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงแค่ดูให้ไม่รู้สึกเบื่อก็จะแย่ หรือ ขำในความอนาจของบทและตัวละครก็จะแย่แล้ว แถมในหนังยังมีฉาก Jump Scare หรือ ฉากตกใจแบบที่ใช้มุขเดียวกับหนังผีไทยมาใช้ด้วยทำให้ผมตั้งข้อสงสัยว่า นี้พี่แกจะลดระดับจาก Hollywood มาเท่าหนังไทยแล้วหรอ.....



After Earth เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งในครึ่งปีแรก 2013 นี้ที่คงไปเข้าชิง ภาพยนตร์ยอดแย่แห่งปีเป็นแน่แท้ร่วมกับ A Good Day To Die Hard และ Movie 43 (ที่เขาว่ากันว่าเป็นภาพยนตร์ที่ห่วยแตกที่สุดตลอดกาล)  After Earth นั้นเป็นภาพยนตร์ที่ไม่มีสิ่งใดๆเลย บทที่ไร้ความหมาย ไม่อธิบายใดๆ และขัดกันไปมา ตัวละครที่ไม่น่าสนใจ แถมยังเลวร้าย และ ยังไร้เหตุผลเป็นที่สุด ความสัมพันธ์ของตัวละครที่เป็น 0 ตั้งแต่ต้นยันจบ ความสนุกที่แทบจะหาไม่ได้ หรือว่านี้จะเป็นจุดจบแล้ว สำหรับ M.Night Shyamalan ?


The Best Quote from " After Earth "

" Danger is Real ,but Fear is a choice "




+ จุดที่ภาพยนตร์ทำได้ดี :
+ Soundtrack ที่ทำให้ตื่นเต้นและสนุกได้บ้างในฉากสุดท้าย
+ ภาพที่สวยในบางฉาก


- จุดที่ดูเหมือนจะไปไม่รอด :
- บทที่ไม่มีอะไรเลย ไร้เหตุผล ไร้คำอธิบาย ก็มันมีอยู่ตรงนั้นแหละจะถามอะไรมากมาย !!
- ความสมเหตุสมผลที่แทบจะเป็น 0 ทำให้หลายๆจุดในภาพยนตร์รู้สึกขัดกันเอง 
- ตัวละครสุดแสนน่าเบื่อ ทั้งคู่เป็นตัวละครที่ไม่รู้คิดออกมาได้ยังไง อย่าว่าแต่ภายในจิตใจ หรือ Conflict เลย แค่ธรรมดาพื้นๆก็จะแย่แล้ว
- แถมทั้งเรื่องมันก็มีอยู่แค่สองตัวละครนั้นเท่านั้นแหละ !! ที่เหลือไร้ความหมาย !!
- การแสดงที่ขึ้นๆลงๆของทั้งสอง
- ทำให้คุณรู้สึกขำในความน่าอนาจของ บท และ ตัวละคร ในหลายๆฉากที่ไม่สมเหตุสมผล และ ไม่รู้คิดได้อย่างไร
- ความสนุกที่แทบจะหาไม่ได้ แค่เพียงไม่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อ หรือ ขำอย่างคนบ้าก็เต็มทนแล้ว
- Potential หรือ ความเป็นไปได้ในภาพยนตร์ที่ช่างน่าเสียดาย ที่ถูกใช้ผิดที่ผิดทางสุดๆ
- ความสัมพันธ์ของตัวละครที่ไม่มีการพัฒนาใดๆ เป็น 0 ตั้งแต่ต้นยันจบ แต่หนังก็พยายามยัดเยียดให้คุณ แต่ในท้ายที่สุดคุณก็ไม่สามารถเชื่อมันได้อยู่ดี 
- มี Jump Scare หรือ ฉากตกใจที่ใช้มุขน่าอนาจๆแบบหนังไทย...



Final Score : [ D ] & [ GARBAGE BADGE ]




Thank you to : After Earth ( 2013 ) , Columbia Pictures , IMDB for information

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น