Movie Review
ผมรู้ผมเห็น เวอร์ชั่นโคนัน + บลีช !!!
Movie Name : Odd Thomas ( 2013 ) , Mystery / Thriller
Director : Stephen Sommers ( The Mummy , The Mummy Returns , G.I. Joe Rise Of Cobra )
Stars : Anton Yelchin ( Star Trek , Star Trek : Into Darkness ) , Willem Dafoe ( Spider-Man )
Rating : น 15+
MOVIE REVIEW
Odd Thomas เป็นภาพยนตร์ทุนต่ำอีกเรื่องนึงที่เรียกได้ว่าค่อนข้างจะถูกลืมก็ว่าได้ เพราะ ตัวหนังแม้แต่ใน IMDB ก็ยังมีแค่ชื่อ ไม่มีโปสเตอร์ด้วยซ้ำไป แต่ด้วยความที่ว่า บังเอิญผมไปได้ยินมาว่าเขาบอกว่าสนุก ก็เลยลองไปชมดู กันครับ
Odd Thomas นั้นจริงๆแล้วได้ดารามา 2-3 คนที่เราค่อนข้างจะคุ้นหน้าอยู่มาก อย่างเช่น Anton Yelchin ที่ถ้าใครได้ดู Star Trek : Into Darkness ไปแล้วในปีนี้ ก็คงจะคุ้นหน้าเขาอย่างแน่นอน หรือ Willem Dafoe ไม่ว่าจาก Spider-Man หรือเรื่องอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าค่อนข้างจะมีดาราที่ มีชื่อเสียงในระดับนึงเลยทีเดียว
Odd Thomas เป็นภาพยนตร์ทุนต่ำอีกเรื่องหลังจากที่ผมดูจบผมรู้สึกในทันที ว่าช่างน่าเสียดาย ผมอยากดูมันอีก อยากเห็นต่อไปจากนี้อีก เหลือเกิน เพราะ ตัวหนังนั้นทำได้ดีในหลายๆเรื่องแม้กระทั่งหนัง ร้อยล้าน ทำไม่ได้ก็ยังมี
จุดที่ผมชอบที่สุดก็คือ การเอาเรื่องราวของภูติผี มาคล้ายๆกับว่าตีความใหม่ และใช้ลูกเล่นของมันได้อย่างน่าสนใจ น่าติดตามเอามากๆ การดีไซน์ ออกแบบ ถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวสำหรับหนังเรื่องนี้
นอกจากนั้นตัวหนังนั้นยังมีสไตล์เหมือนเป็นภาพยนตร์สืบสวน แต่ไม่ซีเรียส คล้ายๆ โคนันทำนองนั้น ซึ่งการสืบสวนของเขา ทำออกมาได้น่าสนใจ พอตัวเลยทีเดียว
ตัวหนังยังให้ความสนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก ตลอดเวลา และในบางจุด เขาใช้วิธีที่ทำให้คนดูตื่นเต้นได้อย่างน่าสนใจ ฉลาด อยู่มากเลยทีเดียว แถมไม่รู้เพราะ ผู้กำกับคือ Stephen Simmons แห่ง The Mummy ด้วย ที่แอบมีอะไรหลายๆอย่างโคตรจะเหมือน มัมมี่ ใน The Mummy แบบจงใจสุดๆ เรียกได้ว่าแฟนๆ Mummy อาจจะแอบตกใจเล็กน้อย
การเปิดเรื่องของหนังในช่วง 30 วิ แรกค่อนข้างธรรมดาจนผมเริ่มเป็นห่วง นี้มันจะกลายเป็นแค่หนังธรรมดาๆ ที่ดูผ่านแล้วจบ อีกเรื่องไหมเนี้ย แต่อีก 1 นาทีถัดมา ผมกลับเริ่มสนใจมันมากๆ อย่างรวดเร็ว ตัวหนังมีวิธีการเปิดเรื่องที่น่าสนใจ น่าติดตามอยู่มาก และนักแสดงถือว่าทำได้ดีมากๆ ไม่ว่าจะ Anton Yelchin ที่ผมว่าเขาเล่นได้ค่อนข้างดีทีเดียวเลยล่ะ
บทในเรื่อง Odd Thomas ก็ถือว่าทำได้ดีมากๆแล้วในเวลาเพียง 90 กว่านาที ทั้งๆที่เป็นหนังสืบสวน และ ยังถือว่าทำได้ดีเกินคาดสำหรับหนังทุนต่ำ แบบเกินคาดจริงๆ แต่นั้นก็แลกมาด้วยบางสิ่งเช่นกัน
ถึงแม้ในช่วงกลางๆเรื่อง ตัวหนังเหมือนจะดรอปลงไปบ้าง เพราะเหมือนเปลี่ยนจาก Action ไปเป็น สืบสวนกระทันหัน แต่ในช่วงท้ายของหนัง เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ทำให้ผมอยากสนับสนุนหนังเรื่องนี้มากขึ้นจริงๆ เพราะ มันสุดยอด สนุก ตื่นเต้น ได้อย่างเหลือเชื่อ จนทำให้ผมลืมคิดว่านี้เป็นหนังทุนต่ำเลยทีเดียว แต่ด้วยความทุนต่ำนั้นเอง เขาจึงใช้ความคิด ความครีเอทีฟ เพื่อที่จะให้หนังมันดี หนังมันสนุก ในแบบที่ไม่ต้องเสียงบมากมายนัก
ด้วยเหตุที่ว่า ตัวหนังนั้น ในเหตุที่งบน้อย และ เวลามีจำกัด จึงมี สองทางเลือก 1. ทำหนังบทแค่ธรรมดาๆ ทั่วๆไป แต่คนดูเข้าถึงง่าย ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไร ทำเหมือนหนังทุนต่ำตามตลาดทั่วๆไป ไม่ต้องคิดอะไรใหม่ๆก็ได้เงินสบายๆ หรือ 2. ทำหนังให้บทดีขึ้นมาอีกมาก แต่อาจจะประสบปัญหาเวลาไม่พอ ทำให้คนดูอาจจะเข้าถึงได้ไม่สุด และต้องยอมคิดหนักขึ้น ตั้งใจมากขึ้น และ เสี่ยง ซึ่งถ้าเป็น ผู้กำกับทั่วๆไป หรือ คนทั่วๆไป อาจจะเลือก ข้อ 1 แต่ Odd Thomas เลือก ข้อ 2 ครับ
ตัวบทเรียกได้ว่าทำได้ดีมากๆ น่าสนใจ น่าติดตาม ฉลาด และ ดีกว่าที่คาดเอาไว้มากๆ แต่เพราะการที่บทของเขา นั้นทำได้ซับซ้อนมากเกินไปสำหรับหนังเวลาเพียง 90 นาที (แต่ไม่ได้ซับซ้อนขนาดดูงงขนาดนั้น แต่ซับซ้อนกว่าหนังสืบสวนตามตลาดทั่วไปส่วนใหญ่ครับ) ทำให้หลายๆจุดหนังเหมือนถูกเร่งมากจนเกินไป ทำให้บางอย่างขาดหายไประหว่างทางบ้าง เช่น ตัวละครที่คนดูจะรู้สึกต่อพวกเขาน้อยลงอย่างแน่นอน หลายๆจุดที่เร่งมากจนเกินไปจนรู้สึกได้
แต่ไม่รู้ทำไมแต่ผมคิดว่า ตัวหนัง แนวหนัง และบทของหนัง เหมาะจะไปเป็น TV-Series เสียมากกว่า เพราะ TV-Series นั้นมีเวลามากกว่ามาก ที่เราจะรู้จักตัวละคร สร้างความสัมพันธ์ไปจนถึงตอนจบที่จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับตัวละครอย่างมาก และ นั้นก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากสำหรับคนดูเช่นกัน แต่ตัวหนังนั้นเริ่มมาเหมือนมีมาแล้ว 50% ทำให้รู้สึกว่าถูกเร่งไปพอสมควร แต่ตัวหนังก็พยายามอย่างมาก จนผมคิดว่าเขาทำได้ดีมากๆแล้ว เพียงแต่ มันไม่พอจริงๆ สำหรับ 90 นาที ในตัวหนังที่มีโอกาสที่จะ ดีเทล ได้เยอะขนาดนี้
นอกจากนั้น มีหลายๆอย่างในตัวหนังที่ไม่ค่อยจะ Make Sense ซักเท่าไรนัก ถ้าหากแค่ดูผ่านๆก็คงจะไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าหากเรามานั่งนึกดีๆจะรู้ว่า อืม มันไม่ค่อย Make Sense จริงๆ บางสิ่งมาจากเพราะ ตัวหนังเร่งเกินไป และ บางสิ่งมาจากตัวหนังไม่ได้อธิบายบ้าง
และในหลายๆฉากผมรู้สึกได้ว่า หลายๆสิ่งมันดูจัดฉากมากจนเกินไปหน่อย อาจจะทำให้รู้สึกแปลกๆได้บ้าง แต่ก็ไม่กระทบต่อการชมภาพยนตร์เท่าไรนัก
Odd Thomas เป็นภาพยนตร์ที่ สนุก ตื่นเต้น ตลก ด้วยบทและการตีความที่น่าสนใจ น่าติดตาม รวมถึงยอมเสียสละบางสิ่งไปเพื่อสิ่งที่ดีขึ้นอย่างกล้าหาญ เขาทำทุกสิ่งที่เขาทำได้แล้วจริงๆแต่เพียงมันไม่เพียงพอจริงๆสำหรับ เวลาเพียง 90 นาที ที่จะบรรยายความสุดยอดของหนังเรื่องนี้ ไม่พอจริงๆ ผมอยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านลองไปชม Odd Thomas กันดู เพราะผมว่านี้เป็นภาพยนตร์ทุนต่ำอีกเรื่อง ที่ค่อนข้างถูกมองข้ามอย่างมาก ทั้งๆที่มันดีกว่าที่คิดเอาไว้มาก
สิ่งที่ผมถูกใจมากที่สุดใน Odd Thomas คือ เขาเลือกที่จะยอมเสียหลายๆสิ่งไป เพื่อ หลายๆอย่างที่ดีขึ้น น่าสนใจขึ้น ในขณะที่หนังทุนต่ำส่วนใหญ่ก็แค่ทำตามหนังทุนต่ำที่ผ่านๆมา ไม่คิดอะไรแปลกใหม่ปล่อยๆผ่านไป
The Best Quote from " Odd Thomas "
"- "
+จุดที่ภาพยนตร์ทำได้ดี :
+ บทที่น่าสนใจ น่าติดตาม ฉลาด ไม่ดูถูกคนดู ทั้งๆที่เป็นหนังทุนต่ำ
+ การเปิดเรื่องที่ตื่นเต้น สนุก
+ ตัวหนังมีความ สนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก ตลก อยู่ตลอดเวลา
+ นักแสดงหลักที่แสดงได้ดี
+ การตีความที่น่าสนใจ และ ไอเดียการนำมาใช้ที่น่าติดตาม
+ ตัวหนังพยายามทำทุกอย่างแล้วเท่าที่ทำได้ แม้จะโดนจำกัดในด้าน งบ และ เวลา
-จุดที่ดูเหมือนจะไปไม่รอด :
- เนื่องจากตัวหนังต้องการที่จะมีบทที่ดีกว่าแค่บทธรรมดาๆทั่วๆไป จึงยอมเสียเวลาไปกับบท แต่นั้นก็แลกมาด้วย เวลาหลายๆส่วนในหนังที่ทำให้คนดูผูกพันธ์ไปกับตัวละคร
- หลายๆอย่างดูถูกเร่งไปหมดเนื่องจากเวลาที่จำกัด
- บางอย่างยังไม่ Make Sense เท่าใดนัก
- ฉากในหนังดูเหมือนถูก Set มากจนเกินไป
Final Score : [ B ] & [ I Didn't See It Coming Badge ]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น