วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Jurassic World ( 2015 ) Movie Review


Jurassic World ( 2015 ) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz


"สุดยอดภาพยนตร์ฟาสต์ฟู้ดของฮอลลีวูด"



Jurassic Park เชื่อเลยว่าหลายๆคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ หรืออาจจะเคยได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่บ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งในตอนนั้น การมาของเหล่าไดโนเสาร์ในภาพยนตร์ ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการฮอลลีวูดไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่ง Jurassic World ก็คือการกลับมาที่พยายามจะสร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง


Jurassic World ว่าด้วยเรื่องราวของสวนสนุกจูราสสิคเวิลด์ที่เกิดเหตุไดโนเสาร์หลุดออกมาจึงทำให้ทุกคนตกอยู่ในอันตรายอันใหญ่หลวง 



อย่างแรกที่ Jurassic World แสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและปฏิเสธไม่ได้จริงๆเลย ก็คือทางด้านโปรดัคชั่น และซีจีต่างๆของมัน นี้เป็นภาพยนตร์ที่สรรรค์สร้างซีจีไดโนเสาร์ต่างๆ หรือ การออกแบบฉากต่างๆได้อย่างน่าทึ่ง อลังการงานสร้าง ระดับแถวหน้าของฮอลลีวูดอย่างไม่ต้องสงสัย


ยิ่งผนวกโปรดัคชั่นและซีจีเข้ากับฉากต่อสู้ของไดโนเสาร์ที่โดยเฉพาะในช่วงไคลแมกซ์ของเรื่อง ก็ทำให้ผลออกมาได้ฉากต่อสู้สุดมันส์ ตื่นเต้น และน่าดูชมสุดๆ



แต่ปัญหาของ Jurassic World ก็คือ มีเพียงแค่ โปรดัคชั่น ซีจี และฉากต่อสู้(อันสุดมันส์)ของไดโนเสาร์เท่านั้น ที่ตัวภาพยนตร์ทำออกมาได้อย่างดีและยอดเยี่ยมจริงๆ เมื่อเรามองหรือลงไปสำรวจส่วนอื่นๆของภาพยนตร์เรื่องนี้สิ่งทีเราพบกลับเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จกลวงๆ ปราศจากซึ่งชั้นเชิงหรือความฉลาดใดๆ


เฉกเช่น ตัวละครต่างๆในภาพยนตร์ที่สุดแสนจะจืดชืด แบน ขาดความมีชีวิตหรือความเป็นมนุษย์ ซ้ำร้ายการตัดสินใจบางอย่างของพวกเขาก็ช่างน่ากุมขมับในหลายต่อหลายครั้ง นี้ไม่ใช่ตัวละครที่เราจะรู้สึกสนใจหรือใส่ใจในความเป็นอยู่ของพวกเขาเหมือนที่เราอาจจะเคยรู้สึกกับตัวละครภาคก่อนหน้าเลย นี้ยังไม่นับถึงเรื่องราวความรัก โรแมนติก กุ๊กกิ๊กของสองตัวละครเอกที่ถูกยัดเยียดเข้ามาอย่างน่ารำคาญ และขาดความน่าสนใจอย่างรุนแรง





สิ่งที่น่าตลกเข้าไปอีก ก็คือความพยายามในการยัดเยียดเพลงประกอบภาพยนตร์เอกลักษณ์ของ Jurassic Park เข้ามา ซึ่งมันควรจะทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้น ขนลุกหรือ ฟินอะไรก็ว่าไป


แต่ด้วยความที่มันดันยัดเยียดเข้ามาในฉากเปิดเรื่องและการเล่าเรื่องอันจืดชืดของผู้กำกับ โคลิน เทรเวอร์โรว์ มันก็ทำให้ตัวเพลงประกอบภาพยนตร์กลายเป็นเสมือนซอสมะเขือเทศ ที่พยายามบีบเทอย่างบ้าคลั่งลงไปในอาหารที่รสชาติย่ำแย่จืดชืด แต่ก็ดันมีราคาแพงจนไม่อยากที่จะทิ้งๆไปแทน


ที่น่าสงสัยและน่าตั้งคำถามเข้าไปอีก ก็คือบทภาพยนตร์อันสุดแสนจะย่ำแย่ของ Jurassic World เสมือนทางทีมเขียนบทไปขอยืมบทจากภาพยนตร์เกรดบีอย่างเช่น Dinocroc หรือ Rogue ซึ่งเอาเข้าจริงถ้าหากนี้เป็นภาพยนตร์สัตว์ประหลาดทั่วไปมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรือเรื่องแย่อะไร ซ้ำภาพยนตร์บางเรื่องอย่างเช่น Rogue ก็สนุกและตื่นเต้นดี แต่ไม่ใช่ในภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ มีชื่อยักษ์ใหญ่อย่าง 'Jurassic' แปะอยู่ และที่สำคัญคือไม่ใช่ในภาพยนตร์ที่มีทุนสร้างมากกว่าภาพยนตร์อย่าง Rogue เกือบ 6 เท่า



ในด้านเนื้อหาและประเด็นต่างๆ Jurassic World ก็เป็นภาพยนตร์ที่วิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถามระบบทุนนิยมในบางด้านที่ให้ความสำคัญกับน้ำหนักของเงิน มากกว่าศีลธรรมต่างๆได้น่าสนใจทีเดียว รวมถึงความเชื่อที่ของปลอมหรือของที่มนุษย์พยายามสร้างเลียนแบบธรรมชาตินั้นไม่สามารถที่จะมาทดแทนหรือเทียบกับของแท้หรือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นอย่างแท้จริงได้ ก็เป็นการยืนยันถึงความเล็กกระจิ๋วหลิวของมนุษย์ที่พยายามก้าวข้ามสิ่งที่ตนเองไม่อาจจะควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยม 



ในท้ายที่สุดแล้ว Jurassic World ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่ตอบสนองผู้ชมหลายส่วนในด้านของความบันเทิงอย่างแน่นอน มันเป็นภาพยนตร์ที่ โหวกเหวกโวยวาย ตื่นเต้น ระทึก สนุก และเต็มไปด้วยภาพอันสวยงามอลังการ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลายฉากนั้นพาเอาขนลุกอยู่เหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่มีเพียงแค่นี้เท่านั้นที่ Jurassic World เสนอให้กับเราได้ ถ้าหากคุณหวังว่าจะได้เจอกับเวทย์มนตร์ที่เคยตราตึงคนทั่วโลกจนใครหลายๆ คนยังไม่ลืมจนถึงทุกวันนี้แบบใน Jurassic Park คุณก็คงจะต้องผิดหวังอย่างแน่นอน


Final Score : [ 6 / 10 ]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น