วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Escape Plan ( 2013 ) Movie Review

Movie Review
พักสงคราม CG แล้วมาสนุกกับ Action Old Style กันดีกว่า !!






Movie Name : Escape Plan ( 2013 ) Action / Thriller / Mystery
Director : Mikael Hafstrom ( 1408 )
Stars : Sylvester Stallone ( Rambo , The Expendable ) , Arnold Schwarzenegger ( The Terminator , Predator ) 
Rating : R ( ความรุนแรงในระดับหนึ่ง , ภาษาที่รุนแรง )






REVIEW



                                                                                  นช่วงหลายๆปีที่ผ่านมานี้นั้น สำหรับวงการภาพยนตร์นั้น ถือได้ว่ามีการพัฒนามากมายในด้านเทคโนโลยีและการถ่ายทำ ซึ่งภาพยนตร์แนว Action หรือ Sci-fi ก็ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์สองชนิดที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ ซึ่งสังเกตุได้จากช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ภาพยนตร์แนวนี้ส่วนใหญ่สมัยนี้จะแข่งกันที่ความอลังการทางด้าน Computer Graphics หรือ CG กันพอตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Avatar , Tron : Legacy , Pacific Rim หรือแม้กระทั่ง Gravity ที่ผู้กำกับต้องนั่งรอโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลยมาถึง 4 ปีเพื่อที่จะรอให้เทคโนโลยีมันพร้อมกับสิ่งที่เขาต้องการจะนำเสนอ นอกจากนั้นภาพยนตร์บางเรื่องเหล่านี้ก็ยังมาพร้อมกับบทที่อลังการมากขึ้น ยิ่งใหญ่มากขึ้นอีกด้วย สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Escape Plan นั้น เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ Action ที่ค่อนข้างจะกลับมาสู่สามัญหรือยุคเก่าแต่เก๋าพอสมควร ที่ไม่ได้เน้นทางด้าน CG เลย แต่เน้นกันที่การต่อย เตะ อาละวาดกันแบบแสดงจริงไม่ได้พึ่ง Computer ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งสำหรับภาพยนตร์ Action ในช่วงนี้ที่น่าสนใจอยู่พอสมควร เพราะนอกจากจะถือว่าเป็นการได้พักสำหรับคนดู สำหรับภาพยนตร์ช่วงท้ายปีที่จะถาโถมใส่มากมายแล้วล่ะก็ การที่เราได้กลับมาสู่อะไรที่ธรรมดาๆบ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เลวเลยทีเดียว



Escape Plan ว่าด้วยเรื่องราวของ เบรสลิน (Stallone) เขาเป็นนักตรวจสอบโครงสร้างการรักษาความปลอดภัย หรือพูดง่ายๆว่า เขานั้นทำอาชีพที่ยอมโดนจับเข้าคุกไปเพื่อที่จะแหกออกมาและพิสูจน์ว่าคุกนั้นๆ ไม่ปลอดภัยพอ จนวันหนึ่งเขาพบว่าตัวเองนั้น อยู่ในคุกที่เรียกได้ว่าปลอดภัยทีสุด ลับที่สุด จนไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะแหกออกมาได้ เขาจะทำอย่างไรที่จะแหกคุกนี้ออกมาให้ได้ หรือเขาจะต้องติดอยู่ในคุกนี้ตลอดไป ?



Escape Plan ต้องขอบอกเลยว่า เป็นภาพยนตร์ที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว นั้นก็คือ"การสร้างความบันเทิง"ให้กับคนดู เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้คงไม่ได้สร้างกะมาชิงรางวัลออสก้า(หรือคงไม่มีใครเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะเหตุผลนี้)อย่างแน่นอน สำหรับใครที่จะเข้าไปเพื่อที่จะผ่อนคลาย หรือ ชมภาพยนตร์ที่สนุก ดูไม่ยาก ก็น่าจะพอใจและคุ้มค่าตั๋วกับภาพยนตร์เรื่องนี้พอสมควร อีกสิ่งเลยที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดีมากกว่าปกติขึ้นไปอีก นั้นก็คือ นักแสดงอย่าง Stallone หรือ Arnold ที่เอาเข้าจริงถ้าหากคุณเป็นแฟนๆสองคนนี้หรือคนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว คุณก็คงจะไม่เสียดายเงินซักเท่าไรนัก ทั้งสองคนนั้นมีฉากบางฉากที่ค่อนข้างน่าจะถูกใจแฟนๆอยู่ทีเดียว (โดยเฉพาะ Arnold ที่เท่จริงๆ) และ มี San Neill !! มาแสดงด้วยอีกต่างหาก (สำหรับผู้เขียนเข้าไปดู Sam Neill พอละฟิน) นอกจากนั้นตัวภาพยนตร์นั้นเรียกได้ว่าหลายๆจุดก็ทำได้ไม่แย่เลยทีเดียว เช่น บทที่ค่อนข้างจะน่าสนใจ และ Unique อยู่บ้างหรือจะเรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ Action ที่มี"บท"อยู่บ้าง รวมไปถึงการที่ภาพยนตร์ผสมความเป็น Mystery การแหกคุก ต่างๆนาๆที่น่าสนใจลงไปบ้างเรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ตัวละครร้ายในภาพยนตร์ที่ถือว่าทำได้ในระดับพอรับได้ซึ่งก็พอจะเห็นความพยายามอยู่บ้างแล้ว(แต่มันไม่เพียงพอที่จะยกระดับไปมากกว่านี้) 



                                                          ทีนี้มาพูดถึงตัวเนื้อผ้า ลายผ้าที่แท้จริงกันบ้างว่าเป็นอย่างไรสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้    อย่างแรกที่ทำได้ค่อนข้างจะไม่ดีนักก็คือ Characters ในภาพยนตร์ อย่าเข้าใจผิดไป Characters เหล่านี้นั้นน่าสนใจพอตัวเลยทีเดียว แต่ปัญหาคือ ภาพยนตร์นั้นให้เวลากับการเล่าตัวละครเหล่านี้น้อยมาก จนคุณแทบจะไม่รู้ถึง Back Story ของตัวละครเหล่านี้เลย ไม่มี Flashback ใดๆทั้งนั้น อย่างมากก็มีแค่คำพูดไม่กี่คำ ซึ่งมันเป็นสาเหตุที่ลากมาถึงสาเหตุที่จะทำให้คุณจะไม่รู้สึกผูกพันธ์หรือสนใจอะไรในตัวละครเหล่านี้ซักเท่าไรเลย เช่น ถ้าหากตัวละครบางตัวตายไปหรือเป็นอะไรไป คุณก็แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะ คุณไม่รู้สึกผูกพันธ์ใดๆกับตัวละครเหล่านี้เลย ซึ่งมันเป็นส่วนสำคัญในภาพยนตร์ๆเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าตัวละครนั้นจะดีเลิศเลอแค่ใดก็ตาม หรือ นักแสดงดีเท่าไรก็ตาม แต่ถ้าหากคนดูไม่รู้สึกร่วมใดๆเลยกับตัวละครนั้น เกือบทุกๆ Element ในภาพยนตร์ก็จะ Drop หรือ น้อยลงตามไปด้วย ถึงแม้ว่าตัวภาพยนตร์จะมีการถ่ายทำในช่วงแรกที่ค่อนข้างจะน่าสนใจ ด้วยการเล่าตัวละครด้วยภาพ แต่นั้นก็เป็นบางส่วนเท่านั้นของตัวละคร และ นั้นมันไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าเพียงพอที่จะเป็นตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่จะทำให้เรารู้สึกร่วมได้เลย 



ในช่วงกลาง-ท้ายเรื่องของภาพยนตร์ที่เร่งมากเกินไป จนทำให้ตัวละครบางตัวแทบจะแบน ไม่น่าสนใจ และคุณไม่สนใจใดๆเลย จนเรียกได้ว่าไม่มีเลยยังได้ ทั้งๆที่จากที่ดูแล้ว ถ้าหากภาพยนตร์ใช้เวลาในการเล่าเรื่อง ปูตัวละคร Back Story ที่ดีกว่านี้ มันจะทำให้เรารู้สึกร่วมไปกับตัวละครเหล่านี้ได้ดีกว่านี้มาก เพียงแต่ว่า ณ ตอนนี้ มันไม่ใช่แบบนั้น.... สุดท้ายเลยก็คือ บางส่วนของตัวภาพยนตร์นั้นใช้เหตุผลในบางจุดที่นำตัวละครออกจากสถานการณ์ที่ลำบาก ได้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าใดนักหรือน้ำหนักของเหตุผลมันยังไม่เพียงพอ เหมือนประมาณว่า "โอ้ เราจะทำอย่างไรดีที่จะทำให้ตัวละครนี้รอดได้ เอาเป็นว่าอ้างแบบนี้ละกันจบ" ซึ่งมันทำให้รู้สึกถึงความขี้เกียจเสียมากกว่า



สุดท้ายนี้แล้ว Escape Plan ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ดี-ไม่แย่ ซะทีเดียว หลายๆสิ่งหลายๆอย่างเช่น บท หรือ ตัวละครร้าย ที่อยู่ในระดับพอรับได้ Characters หรือ ตัวละครที่ค่อนข้างจะแย่แต่ก็ไม่แย่ถึงขนาดที่จะทนดูไม่ได้ สาเหตุจริงๆที่คนหรือผู้ชมจะเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คงจะมาจาก นักแสดงนำระดับแม่เหล็กใหญ่ทั้งสองคนเสียมากกว่า หรือ อย่างน้อยก็เพื่อที่จะเข้าไปชมภาพยนตร์เพื่อผ่อนคลาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็น่าจะถือได้ว่าสอบผ่านอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่ว่าคงไม่ใช่ Top Class หรือ ใกล้เคียงกับ Top Class อย่างแน่นอน 




Final Score : [ C+  ] 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น