วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

Deemo ( 2014 ) Game Review

Deemo ( 2014 ) Game Review



"ถึงแม้ว่านี้อาจจะไม่ใช่เกมดนตรีที่ลงทุนสูงมากนัก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่คอเกมดนตรีทั้งหลายห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด"


        สำหรับคนที่ชอบเล่นเกมประเภทดนตรีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เราก็มักจะชอบตามหาเกมดนตรีที่น่าลองและน่าเล่นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะท่านที่ไม่มีเครื่องเกมอย่าง PSP หรือ PSVita ที่มีเกมอย่าง DJMAX ให้เล่น ซึ่งเครื่องเกมพกพาที่น่าจะใกล้ตัวมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นสมารท์โฟนนั่นเอง


โดยเกมนี้มีชื่อว่า Deemo นั่นเอง ซึ่งเป็นเกมของค่าย Rayark Inc. จากประเทศไต้หวัน และเคยมีผลงานเกมดนตรีบนมือถือมาก่อนแล้วในชื่อของ Cytus ลงให้กับทั้ง Android และ iOS



แต่สิ่งที่แยกตัวเกม Deemo ออกมาจากเกมดนตรีอื่นๆ และสร้างความเป็นลักษณ์ของตัวมันเองเลย ก็คือการที่นี้คือเกมที่เน้นรูปแบบเพลงเปียโนเป็นหลัก เรียกได้ว่าทุกเพลงจะมีเสียงเพลง และเครื่องเล่นเปียโนเป็นหลักนั้นเอง แทนที่จะเป็นออกแนวเทคโนแบบ DJMAX หรือ Cytus

ซึ่งถ้าให้ท่านใดที่ชอบฟังเพลงหรือชอบฟังเครื่องดนตรีประเภทเปียโนอยู่แล้ว นี้จะเป็นเกมที่เติมเต็มความฝันของคุณในการได้ฟังและเล่นเกมเสมือนเราได้ลงไปดีดเปียโนด้วยตนเองเลยทีเดียว

ซ้ำบทเพลงต่างๆก็ถูกสร้างสรรค์ด้วยศิลปินมากความสามารถ ที่สามารถสร้างสรรค์บทเพลงอันน่าทึ่ง ไพเราะ น่าจดจำ เฉกเช่นเพลงอย่าง Pure White ซึ่งได้ผู้แต่งเพลงมากความสามารถจากประเทศไต้หวันอย่าง V.K. มาบรรเลง หรือเพลง Saika ซึ่งเป็นเพลงที่ผสมผสานโน้ตเปียโนกับเทคโนให้ออกมารุนแรงของศิลปิน Rabpit เป็นต้น เรียกได้ว่าเล่นไปซักพักนี้แทบจะต้องรีบหาตัวอัลบั้มต้นฉบับมาฟังกันเลยทีเดียวเชียว



ในด้านของระบบการเล่น Deemo ก็ยังคงมีการเล่นที่เข้าใจง่ายเช่นเคย โดยระหว่างเล่นจะมีตัวโน้ตสีดำตกลงมาตามที่ต่างๆให้เรากดตามจังหวะเพลง ส่วนโน้ตสีทองก็ให้ใช้นิ้วลากตามโน้ตแทน ซึ่งถึงแม้ว่าระบบการเล่นจะเข้าใจง่าย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเกมจะง่ายแต่อย่างใด โดยเฉพาะหลังจากเพลงเลเวล 7 ขึ้นไปซึ่งมีโน้ตที่โหดร้ายทารุณพอสมควร จึงทำให้ตัวเกมค่อนข้างจะท้าทายและสนุกตลอดเวลา

ถึงกระนั้นก็ตาม Deemo เป็นเกมที่มีข้อเสียที่ร้ายแรงเอามากๆอยู่ข้อหนึ่ง ซึ่งข้อเสียข้อนั้น ก็คือการที่ตัวโน้ตไม่ได้เป็นตัวกำหนดเสียงเพลงต่างๆในเกมจริง

อธิบายง่ายๆก็คือ โดยปกติแล้ว อย่างเช่น DJMAX เวลาตัวโน้ตต่างๆที่ตกลงมาให้เรากดตามจังหวะ พอเรากดได้ โน้ตตัวนั้นก็จะแสดงเสียงประจำโน้ตหรือเครื่องดนตรีออกมา ผสมกับเพลงหลักออกมาเป็นตัวเพลงเต็มๆ แต่ใน Deemo มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะต่อให้คุณปล่อยผ่านโน้ตที่ตกลงมาซักกี่ร้อยตัว ตัวโน้ตและเครื่องดนตรีก็ยังคงเล่นต่อไปเหมือนเดิม ซ้ำยังไม่มีทีท่าที่จะขึ้น Game Over เลยอีกด้วย



เสมือนว่าตัวเกมมีเพลงมาให้แล้วเต็มๆ แต่แค่แสดงภาพเป็นโน้ตให้เรากดเล่นเฉยๆ โดยไม่ได้ส่งผลถึงตัวเพลงจริงๆ ในขณะที่เกมอย่าง DJMAX ถ้าเรากดพลาด ในหลายๆครั้งเราจะทราบทันทีเลย เพราะว่าเสียงโน้ตตัวนั้นๆจะหายไป  ซึ่งนี้ก็แสดงได้ถึงตัวระบบการเล่นของ Deemo ที่ดูหลอกตา เสมือนว่าจะมีระบบที่ลึกซึ้ง ยอดเยี่ยม แต่เอาเข้าจริงกลับค่อนข้างจะว่างเปล่าซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเหมือนกัน คาดว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ น่าจะมาจากด้านงบประมาณ เนื่องจากผู้พัฒนาก็เป็นทีมผู้พัฒนาค่ายอินดี้เล็กๆเท่านั้น


มาพูดถึงในส่วนของราคาตัวเกมกันบ้าง โดยตัวเกมตอนแรกจะสามารถโหลดมาเล่นได้ด้วยราคาประมาณ 60 บาท ซึ่งจะปลดล็อคเฉพาะในส่วนของ Book Collection 1 หรือคิดง่ายๆว่าก็คือเล่นได้จำกัดเฉพาะบางเพลงเท่านั้น โดย Collection 1 จะมีเพลงให้เล่นด้วยกัน 27 เพลงด้วยกัน ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว



โดยในตัวเกมพอเล่นไปซักพักจะมีเสมือนฉากอนิเมชั่นเนื้อเรื่องเล็กน้อยให้ดูอีกด้วย ซึ่งค่อนข้างจะสวยงามทีเดียว ถึงแม้ว่าตัวเนื้อเรื่องอาจจะค่อนข้างพื้นๆและน้อยมากพอสมควร แต่ถ้าคิดว่าเป็นของแถมไปก็ยังถือว่าพอรับได้อยู่

นอกเหนือจากนั้นแล้วท่านยังสามารถซื้อเพลง Collection อื่นๆในเกมได้อีกด้วย แต่ราคาค่อนข้างจะสูงทีเดียวคือ ประมาณชุดละ 120 กว่าบาท แถม Collection อื่นนอกจากอันแรก จะมีอยู่ไม่กี่เพลงเท่านั้น ประมาณ 6 เพลง แต่ท่านสามารถเข้าไปดูตัวอย่างเพลงทั้งหมดได้ในเกมเลย ซึ่งถามว่าคุ้มไหม ก็คงคุ้มถ้าหากท่านชอบเพลงชุดนั้น อย่างเช่น Collection 6 ของศิลปิน V.K. ซึ่งผู้เขียนชอบมากๆเลยทีเดียว โดย ณ เวลานี้ตัวเกมมีอยู่ทั้งหมดด้วยกัน  12 Collection ด้วยกันครับ

ในด้านตัวบัคของตัวเกมเท่าที่เจอหนักสุดก็คงจะเป็นเวลาที่เราหยุดเกมกลางคันระหว่างเล่น เช่นสลับหน้าเกมไปเล่น Facebook หรืออื่นๆ พอกลับเข้ามากดเล่นเกมต่อ ตัวเกมจะเกิดอาการที่ตัวเพลงกับตัวโน้ตไม่ตรงกัน เสมือนเพลงไปแล้วท่อนถัดไป แต่ตัวโน้ตที่ให้กดยังอยู่ท่อนก่อนหน้าอยู่เลย ซึ่งสร้างความน่ารำคาญให้พอสมควรเลยทีเดียว โดยเฉพาะเกมบนสมารท์โฟนที่บางครั้งเราเล่นอยู่ อาจจะมีใครโทรมา ทำให้เกมต้องหยุดทันที และพอเรากลับเข้ามาต้องมาเจอบัคแบบนี้ก็คงพาอารมณ์เสียน่าดู 


โดยรวมแล้วถึงแม้ว่า Deemo จะไม่ใช่เกมที่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์นัก ด้วยระบบการเล่นที่ค่อนข้างจะหลอกตาผู้เล่น และราคาตัวเพลง Collection แยกที่ค่อนข้างจะสูง แต่สุดท้ายแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ด้วยความไพเราะของตัวบทเพลง และตัวระบบการเล่นที่สนุกใช้ได้ ก็ทำให้เกมๆนี้ กลายเป็นเกมที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะแฟนเกมดนตรีทั้งหลาย


Final Score : [ B + ]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น