"ความรุนแรง เซ็กซ์ และฉากแอ็คชั่น คือจุดขายของภาพยนตร์เรื่องนี้"
ในโลกภาพยนตร์ประเภทแอ็คชั่นแล้ว นอกจากภาพยนตร์แอ็คชั่นทุนหนาอย่าง Transformers, Kingsman: The Secret Service , ภาพยนตร์ของค่ายมาร์เวล และภาพยนตร์แอ็คชั่นอีกมากมายทั้งหลายแล้ว
ก็ยังมีภาพยนตร์แอ็คชั่นอีกประเภทที่เรียกว่า "ภาพยนตร์เกรดบี" อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่นภาพยนตร์ของ โรเบิรต์ ร็อตริเกซ ทั้งหลาย อย่าง Machete, Planet Terror หรือ Grind House (อาจจะยกเว้น Sin City ไว้เป็นกรณีพิเศษ) ซึ่งจุดประสงค์ของภาพยนตร์เกรดบีเหล่านี้โดยส่วนใหญ่ก็คือเพื่อเน้นขายความรุนแรง เซ็กซ์ และอาศัยการลงทุนที่น้อยนั้นเอง และ Everly ก็คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่จัดอยู่ในหมวดนี้นั้นเอง
ก็ยังมีภาพยนตร์แอ็คชั่นอีกประเภทที่เรียกว่า "ภาพยนตร์เกรดบี" อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่นภาพยนตร์ของ โรเบิรต์ ร็อตริเกซ ทั้งหลาย อย่าง Machete, Planet Terror หรือ Grind House (อาจจะยกเว้น Sin City ไว้เป็นกรณีพิเศษ) ซึ่งจุดประสงค์ของภาพยนตร์เกรดบีเหล่านี้โดยส่วนใหญ่ก็คือเพื่อเน้นขายความรุนแรง เซ็กซ์ และอาศัยการลงทุนที่น้อยนั้นเอง และ Everly ก็คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่จัดอยู่ในหมวดนี้นั้นเอง
Everly ( 2014 , โจ ลินช์ ) ว่าด้วยเรื่องราวของ เอเวอรี่ ที่พบว่าตัวเองติดอยู่ในอพารท์เมนต์เก่าโดยที่มีใครบางคนส่งนักฆ่ามาเพื่อพยายามจะปลิดชีพเธอ เธอมีสองทางเลือก ยอมตาย หรือ สู้จนตาย !!
สิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดสิ่งหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้เลย ก็คือความที่มันไม่พยายามจะเป็นมากกว่าภาพยนตร์เกรดบีเลย
Everly เป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างจะชัดเจนมากในด้านของการขายเนื้อหนัง หน้าตาของนักแสดง ฉากฆ่า และฉากทรมาณอันรุนแรง โดยไม่พยายามจะปิดบังหรือหาเหตุผลมาประกอบให้รกหัวมากนัก ซึ่งทำให้ตัวภาพยนตร์ค่อนข้างจะมีทางเดินที่ชัดเจน และนั่นอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องก็เป็นได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ที่มีภาพยนตร์หลายเรื่องพยายามจะไคว้คว้าสูงกว่าที่ตนเองจะไปได้ แล้วสุดท้ายก็ตกลงมาพังไม่เป็นท่า
ซึ่งถือว่าเป็นที่โชคดีของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่หลายสิ่งหลายอย่างค่อนข้างจะทำออกมาได้ดีเสียด้วย ตั้งแต่นักแสดง ซัลม่า ฮาเย็ค ที่ยังคงสาว สวย เซ็กซี่น่ามอง และการแสดงสุดเท่ห์ของเธอที่แทบจะแบกภาพยนตร์ทั้งเรื่องด้วยตัวคนเดียว , ฉากฆ่าและฉากทรมาณทั้งหลายที่ออกแบบมาใช้ได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงการสอดแทรกมุขตลกโปกฮาทั้งหลาย ก็ทำให้ภาพยนตร์รู้สึกเคลื่อนที่ สนุกสนานอยู่ตลอดเวลา
Everly เป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างจะชัดเจนมากในด้านของการขายเนื้อหนัง หน้าตาของนักแสดง ฉากฆ่า และฉากทรมาณอันรุนแรง โดยไม่พยายามจะปิดบังหรือหาเหตุผลมาประกอบให้รกหัวมากนัก ซึ่งทำให้ตัวภาพยนตร์ค่อนข้างจะมีทางเดินที่ชัดเจน และนั่นอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องก็เป็นได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ที่มีภาพยนตร์หลายเรื่องพยายามจะไคว้คว้าสูงกว่าที่ตนเองจะไปได้ แล้วสุดท้ายก็ตกลงมาพังไม่เป็นท่า
ซึ่งถือว่าเป็นที่โชคดีของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่หลายสิ่งหลายอย่างค่อนข้างจะทำออกมาได้ดีเสียด้วย ตั้งแต่นักแสดง ซัลม่า ฮาเย็ค ที่ยังคงสาว สวย เซ็กซี่น่ามอง และการแสดงสุดเท่ห์ของเธอที่แทบจะแบกภาพยนตร์ทั้งเรื่องด้วยตัวคนเดียว , ฉากฆ่าและฉากทรมาณทั้งหลายที่ออกแบบมาใช้ได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงการสอดแทรกมุขตลกโปกฮาทั้งหลาย ก็ทำให้ภาพยนตร์รู้สึกเคลื่อนที่ สนุกสนานอยู่ตลอดเวลา
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ภายใต้ฉากฆ่าอันรุนแรง และการขายตัวละครหญิงใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นเหล่านี้กลับแฝงไปด้วยการพูดถึงการค้าประเวณีในประเทศอเมริกา และพูดถึงสังคมชนชั้นล่างของอเมริกาที่ถูกประเทศและสังคมเขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดีได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่คนอเมริกาใต้ คนผิวสี หรือคนขาวที่ทำอาชีพโสเภณี แถมยังเสียดสีเชื้อชาติอย่างญี่ปุ่น ที่ลงไปยุ่งเกี่ยวกับสังคมชนชั้นต่ำของอเมริกาอีกด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว
แต่ถึงแม้ว่าในช่วงต้นเรื่อง ตัวภาพยนตร์ค่อนข้างจะดำเนินเรื่องได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงการกำกับฉากพลิกตลบไป-มาตลอดของบทก็สนุกและตื่นเต้นดี
พอเข้าช่วงท้ายเรื่องเท่านั้นล่ะ ตัวภาพยนตร์ก็กลับเดินช้าลงจนแทบเกือบจะหยุดเดิน ด้วยการกำกับที่เสมือนหลงทางเอาตอนจะจบเรื่อง ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงในภาพยนตร์แอ็คชั่น / เขย่าขวัญ ที่ต้องอาศัยอารมณ์ร่วมระหว่างผู้ชมกับตัวภาพยนตร์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเหตุทำให้ช่วงท้ายเรื่องค่อนข้างจะให้ความรู้สึกจืดชืด แถมตัวละครร้ายของเรื่องที่ปูมาว่าเก่งนักเก่งหนาตั้งแต่ต้นเรื่อง ก็กลับน่าผิดหวัง ถือได้ว่าเป็นการเริ่มที่ดีแต่เป็นการจบที่ไม่สวยเอาเสียเลย
Everly คือภาพยนตร์แอ็คชั่น / เขย่าขวัญ ที่ไม่พยายามเป็นเหนือกว่าภาพยนตร์เกรดบี และในบางครั้งนั้นก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะการตัดสินใจนี้ ทำให้ตัวภาพยนตร์สามารถที่จะถ่ายทอดเรื่องราวและเนื้อหาส่วนเฉพาะจุดขายของตนเองได้อย่างเต็มที่ จนทำให้ภาพยนตร์ออกมาสนุก ตื่นเต้น และน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา อาจจะน่าเสียดาย ที่ช่วงท้ายเรื่องผู้กำกับ โจ ลินช์ เหมือนจะหลงทาง จนทำให้ความน่าสนใจตกลงไปบ้าง แต่สุดท้ายแล้ว Everly ก็เป็นภาพยนตร์ที่โอเคเลยทีเดียว
Final Score : [ B - ]
พอเข้าช่วงท้ายเรื่องเท่านั้นล่ะ ตัวภาพยนตร์ก็กลับเดินช้าลงจนแทบเกือบจะหยุดเดิน ด้วยการกำกับที่เสมือนหลงทางเอาตอนจะจบเรื่อง ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงในภาพยนตร์แอ็คชั่น / เขย่าขวัญ ที่ต้องอาศัยอารมณ์ร่วมระหว่างผู้ชมกับตัวภาพยนตร์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเหตุทำให้ช่วงท้ายเรื่องค่อนข้างจะให้ความรู้สึกจืดชืด แถมตัวละครร้ายของเรื่องที่ปูมาว่าเก่งนักเก่งหนาตั้งแต่ต้นเรื่อง ก็กลับน่าผิดหวัง ถือได้ว่าเป็นการเริ่มที่ดีแต่เป็นการจบที่ไม่สวยเอาเสียเลย
Everly คือภาพยนตร์แอ็คชั่น / เขย่าขวัญ ที่ไม่พยายามเป็นเหนือกว่าภาพยนตร์เกรดบี และในบางครั้งนั้นก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะการตัดสินใจนี้ ทำให้ตัวภาพยนตร์สามารถที่จะถ่ายทอดเรื่องราวและเนื้อหาส่วนเฉพาะจุดขายของตนเองได้อย่างเต็มที่ จนทำให้ภาพยนตร์ออกมาสนุก ตื่นเต้น และน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา อาจจะน่าเสียดาย ที่ช่วงท้ายเรื่องผู้กำกับ โจ ลินช์ เหมือนจะหลงทาง จนทำให้ความน่าสนใจตกลงไปบ้าง แต่สุดท้ายแล้ว Everly ก็เป็นภาพยนตร์ที่โอเคเลยทีเดียว
Final Score : [ B - ]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น