"โลกจินตนาการอันบ้าคลั่ง"
เป็นอีกครั้งหนึ่ง กับภาพยนตร์ซึ่งเป็นผลงานการกำกับครั้งแรกของดารานักแสดงชื่อดัง ในปีที่ผ่านมาก็มีภาพยนตร์ The Water Diviner ของ รัซเซล โครว์ และคราวนี้ก็เป็นทีของ ไรอัน กอสลิ่ง ซึ่งนอกจากจะลงมากำกับเองแล้ว เขายังเขียนบทภาพยนตร์ด้วยตัวเองอีกด้วย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า รูปแบบการกำกับ เล่าเรื่อง และทัศนะคติหลายๆอย่างของตัว ไรอัน กอสลิ่ง ค่อนข้างที่จะได้รับผลกระทบมาจากผู้ร่วมงานเก่าของเขา นิโคลัส ไวดิง รีฟิน พอตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างจะช้า แต่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เนื้อหาอันจริงจังสะท้อนด้านมืดของมนุษย์และสังคมที่ตกต่ำ ซึ่งทำให้แนวทางการกำกับของเขา ออกไปทางภาพยนตร์นอกกระแสมากกว่าภาพยนตร์กระแสหลัก ซึ่งเป็นอะไรที่น่าติดตามและน่าสนใจมากทีเดียว
Lost River ว่าด้วยเรื่องราวของคุณแม่ผู้ซึ่งพยายามรีบหาเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน แต่เธอกลับเริ่มถลำลึกลงไปในโลกอันมืดมิดของเมืองลอส รีเวอร์ ในขณะเดียวกันลูกชายของเธอก็ค้นพบเส้นทางปริศนาซึ่งนำไปสู่เมืองใต้น้ำที่เต็มไปด้วยความลับ
ที่ต้องขอชมเลยจริงๆ ก็คือทีมกำกับศิลป์ และทีมโปรดัคชั่นของภาพยนตร์ ที่สร้างสรรค์สิ่งต่างๆในภาพยนตร์ออกมาทำให้เกิดโลกของ Lost River ได้อย่างน่าสนใจ แฝงไปด้วยสัญญะทางภาพยนตร์มากมาย เช่นสีของไฟในภาพยนตร์
อีกสิ่งหนึ่งที่น่านำมาครุ่นคิดไม่ใช่น้อย ก็คือโลกดิสโธเปียของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งแตกต่างจากโลกดิสโธเปียในภาพยนตร์อย่าง Hunger Games หรือ The Maze Runner เพราะใน Lost River โลกนี้ถูกสร้างขึ้นมาและอธิบายด้วย "จิตวิทยา" ความนึกคิดของตัวละครเสียมากกว่าอธิบายด้วยเหตุผลด้วยวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นแนวทางที่น่าสนใจมากทีเดียว
ถึงกระนั้นก็ตาม Lost River ก็ยังไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ไร้ที่ติ เอาเข้าจริง นี้เป็นภาพยนตร์ที่มีปัญหาอันน่าเสียดายอยู่พอตัวเลยทีเดียว
อย่างแรกก็คือตัวบทภาพยนตร์เอง ที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงซักเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างจะธรรมดามาก หรือประเด็นต่างๆที่ภาพยนตร์พยายามจะสอดแทรกเข้ามา เช่น ด้านมืดของสังคมมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง บ้านเมืองที่กฏหมายใช้การไม่ได้ การเติบโตไปสู่ผู้ใหญ่ของเด็ก และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งประเด็นเหล่านี้นอกจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆจะเคยพูดถึงมาก่อนแล้ว ภาพยนตร์บางเรื่องก็ยังเล่นและขยี้ประเด็นเหล่านี้ได้ดีกว่า Lost River อยู่มาก
และหนึ่งในสาเหตุที่ประเด็นเหล่านี้ไปได้ไม่ไกลเท่าที่ควร ก็หนีไม่พ้นตัวผู้กำกับและเขียนบท ไรอัน กอสลิ่ง เอง ที่ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างน่าประทับใจในการกำกับครั้งแรก แต่ฝีมือและประสบการณ์ของเขาก็ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถทำทุกอย่างให้ลงตัวได้ เช่น ความยืดยาวเกินเหตุของตัวภาพยนตร์ในช่วงกลางเรื่อง ที่ชวนให้รู้สึกว่าตัวภาพยนตร์ย่ำอยู่กับที่ไม่เดินไปไหนซักทีจนเกือบจะจบเรื่อง หรือการเล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างตัวละครแม่และลูกของเขาที่ยังขาดชั้นเชิงอยู่มาก ทำให้ตัวภาพยนตร์ไม่น่าสนใจ ไม่น่าติดตามเท่าที่ควร รวมถึงบางครั้งยังค่อนข้างจะน่าเบื่ออีกด้วย
แต่สุดท้ายแล้ว Lost River ก็ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่ไม่แย่เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะประสบปัญหาทางด้านการขาดประสบการณ์ของผู้กำกับและเขียนบท ไรอัน กอสลิ่ง แต่การสร้างสรรค์สิ่งต่างๆในโลกดิสโธเปียของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนไม่อาจที่จะมองข้ามไปได้
Final Score : [ 6.5 / 10 ]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น