Pixels ( 2015 ) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz
ไม่รู้ว่ามันเป็นความบังเอิญที่โชคดีหรือโชคร้ายสำหรับภาพยนตร์จากวิดีโอเกมอย่าง Pixels และ Hitman: Agent 47 ที่ดันมาเข้าฉายในบ้านเราอาทิตย์เดียวกัน วันเดียวกัน แถมทั้งสองเรื่องก็โดนนักวิจารณ์ต่างประเทศรุมสับเละพอๆกันอีก ซึ่งจะว่าไปก็เป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับภาพยนตร์อย่าง Pixels ที่ได้ผู้กำกับ คริส โคลัมบัส เจ้าของผลงานสุดคลาสสิคอย่าง Home Alone และ Harry Potter ทั้งสองภาคแรก
Pixels ว่าด้วยเรื่องราวของโลกที่ถูกมนุษย์ต่างดาวส่งวิดีโอเกมคลาสสิคมาทำลายล้างโลก ทำให้เหล่าเซียนเกมทั้งหลายจึงต้องมารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือโลก ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
พูดตรงๆ Pixels เป็นภาพยนตร์ที่แทบจะหาลายเซ็นหรือเอกลักษณ์ของผู้กำกับ คริส โคลัมบัส แทบจะไม่ได้ เพราะแทบจะทุกส่วนของภาพยนตร์เต็มไปด้วยลายเซ็นของนักแสดงหลักอย่าง อดัม แซนเลอร์ ซะแทน
ไม่ว่าจะเป็นบทภาพยนตร์ที่บางเฉียบยิ่งกว่ากระดาษ A4 ตรรกะและสาระของภาพยนตร์ที่แทบจะหาไม่ได้ ซึ่งในด้านหนึ่งก็พอเข้าใจว่าเราไม่ควรไปหาสาระอะไรกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่แค่คิดว่าเหล่าเอเลี่ยนส่งวิดีโอเกมมาโจมตีโลกแล้วกลับจะต้องมานั่งตั้งกฏเหมือนในเกมแทนที่จะถล่มโลกแบบช่างหัวกฏในเกมไปเลย หรือนักแสดงอย่าง เควิน เจมส์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐก็รู้สึกอยากจะกุมขมับ
ในด้านของตัวละคร โดยรวมก็ยังเป็นตัวละครชุดเดิมๆจากภาพยนตร์ของ อดัม แซนเลอร์ ที่ใช้เทคนิค Copy / Paste มาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เช่น เหล่าตัวละครกลุ่มผองเพื่อนตั้งแต่วัยเด็ก , นิสัย บุคลิกและความฝันเหล่าเด็กเนิร์ด , วัยเด็กที่เต็มไปด้วยความฝัน ความสุขแต่พอโตขึ้นมากลับตกอับ , การพยายามดึง/พิสูจน์ตนเองขึ้นมาให้เป็นที่ยอมรับ และอื่นๆอีกมากมาย นี้ยังไม่นับถึงเหล่ามุขตลกที่ก็ไม่ค่อยจะสร้างสรรค์เท่าไร เช่นตัวละครที่โหวกเหวกโวยวายอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้ไปไกลขนาดภาพยนตร์เรื่องก่อนๆของ แซนเลอร์ มากนัก
แต่ถึง Pixels จะมีปัญหามากมายเหล่านั้นก็ตาม สิ่งที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยแม้แต่น้อย ก็คือความบันเทิง ความสดใหม่ หรือความ"ฟิน" ที่เหล่าอนิเมชั่นและวิดีโอเกมคลาสสิคนำมาให้กับผู้ชม
ใช่บทภาพยนตร์นั้นย่ำแย่ ตัวละครหรือมุขตลกก็ไม่น่าประทับใจ แต่สิ่งเหล่านั้นก็ถูกทดแทนด้วยซีจีอนิเมชั่นอันอลังการ สวยงาม และในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นแฟนเกมตัวยง การที่ได้มาเห็นเหล่าวิดีโอเกมสุดคลาสสิคอย่าง Donkey Kong , Pac-Man หรือ Centipede บนจอภาพยนตร์แบบเต็มๆ ทำให้ดูไปก็ฟินไป เป็นอะไรที่เพลิดเพลิน บันเทิงสุดๆ และฉากสำคัญบางฉากยังทำอารมณ์ได้ลุ้นระทึก น่าติดตามใช้ความเป็นเอกลักษณ์ของเกมๆนั้นได้ดีอีกด้วย ทำให้ช่วงฉากวิดีโอเกมทั้งหลายรู้สึกสนุก ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
ใช่บทภาพยนตร์นั้นย่ำแย่ ตัวละครหรือมุขตลกก็ไม่น่าประทับใจ แต่สิ่งเหล่านั้นก็ถูกทดแทนด้วยซีจีอนิเมชั่นอันอลังการ สวยงาม และในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นแฟนเกมตัวยง การที่ได้มาเห็นเหล่าวิดีโอเกมสุดคลาสสิคอย่าง Donkey Kong , Pac-Man หรือ Centipede บนจอภาพยนตร์แบบเต็มๆ ทำให้ดูไปก็ฟินไป เป็นอะไรที่เพลิดเพลิน บันเทิงสุดๆ และฉากสำคัญบางฉากยังทำอารมณ์ได้ลุ้นระทึก น่าติดตามใช้ความเป็นเอกลักษณ์ของเกมๆนั้นได้ดีอีกด้วย ทำให้ช่วงฉากวิดีโอเกมทั้งหลายรู้สึกสนุก ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
สุดท้ายแล้ว Pixels ก็กลายเป็นภาพยนตร์ที่เกือบจะผ่านฉลุยในด้านของความบันเทิง ความอลังการที่เหล่าอนิเมชั่น วิดีโอเกมนำมาสร้างสีสันและความสดใหม่ให้กับเหล่าองค์ประกอบส่วนอื่นๆที่ช่างจืดชืดไร้ชีวิตของตัวภาพยนตร์ก็เป็นอะไรที่ถือว่าโชคดี นี้เป็นภาพยนตร์ที่รู้ตัวดีว่าต้องการจะเป็นอะไร ซึ่งสิ่งๆนั้นก็คือความบันเทิง และในบางครั้งความคิดนั้นก็เป็นทางเลือกที่ดี กว่าเหล่าภาพยนตร์ที่พยายามอย่างมากในการจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม แต่กลับล้มเหลวมันทุกสรรพสิ่งและนำมาแต่ความทุกข์ให้แก่ผู้ชม
Final Score : 6 / 10
Final Score : 6 / 10