Movie Review
Skyfall สายลับสองม้วน (ทำไมถึงสองม้วนมาดูกัน !!)
Movie Name : Skyfall (James Bond) (2012) , MGM , Sony Pictures , Action / Thriller
Director : Sam Mendes ( Jar Head , American Beauty )
Stars : Daniel Craig ( Casino Royale , Quantum of Solace , The Girl With The Tattoo Dragon) , Judi Dench ( Casino Royale , Quantum of Solace ) , Javier Bardem ( No Country for Oldmen , Biutiful ), Naomie Harris ( The Pirates of The Caribbean : Deadman Chest / At Worlds End ) , Ralph Fiennes ( Harry Potter Series )
Rating : PG 13+ ( Some Violence , Blood , Sexual Theme )
(REVIEW)
(THAI)
James Bond นั้นต้องขอบอกเลยว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีมายาวนานมาก และจำนวนภาคต่อก็มากเช่นกัน โดยต้องขอบอกก่อนเริ่มรีวิวเลยว่า รีวิวนี้ส่วนตัวคนเขียนผมเองนั้น ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ James Bond ซักเท่าไรนัก เพราะภาคที่เก่าที่สุดที่เคยดูก็คงจะเป็น Die Another Day นั้นเอง(อาจจะเคยดูเก่ากว่านั้นแต่จำไม่ได้ละครับ) เพราะฉะนั้น รีวิวนี้ ตัวผมขอจะวิจารณ์ในฐานะของผู้ที่มาชม ภาพยนตร์ยิ่งใหญ่อลังการแห่งปี เรื่องหนึ่งเท่านั้นครับ ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้รู้ทุกซอกทุกมุม เพราะฉะนั้น หากผิดพลาดประการใด ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ภาพยนตร์ James Bond นั้นเป็นภาพยนตร์ที่รู้ๆกันดีว่ามีมายาวนานมากแล้วโดยใน Skyfall นี้นั้นก็ถือเป็นภาคที่ 23 แล้ว !! ซึ่งต้องขอบอกเป็นเกร็ดความรู้กันเลยว่า ภาพยนตร์ James Bond นั้นเรียกได้ว่า ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะมากเลยทีเดียว อย่างเช่นตอนประมาณปีก่อน ก็มีข่าวออกมาว่า พวกเราจะไม่ได้ดู James Bond ภาคต่อไปแล้ว เหตุมาจากปัญหา หนี้สินของ MGM นั้นเอง ยังโชคดีที่มีมหาเศรษฐีมาซื้อหุ้นของ MGM เอาไว้ จึงทำให้ได้สร้าง James Bond กันต่อไปเนี้ยแหละครับ ( และแว่วๆมาว่า จะมีแน่ๆอีก 2 ภาคด้วย โดย Daniel Craig ก็ยังเป็นคนรับบท James Bond ต่อไป)
Skyfall นั้นได้ตัวผู้กำกับมาเรียกได้ว่าไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน ซึ่งหลายๆคนก็น่าจะรู้จักเขาดีจากภาพยนตร์ผลงานระดับสุดยอดๆ อย่าง American Beauty ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ Sam Mendes นั้นเองซึ่งส่วนหนึ่งที่เขาได้รับหน้าที่เป็นผู้กำกับใน Skyfall นั้นนอกจากเรื่องของฝีมือแล้ว ก็คงเป็นเพราะเขานั้นเป็นคนอังกฤษครับ เพราะหลายๆคนน่าจะทราบกันดีว่า Skyfall หรือภาพยนตร์ James Bond นั้นเป็นของประเทศ อังกฤษ นะคร้าบบบบ (แต่ผมยังเชื่อว่ายังมีอีกหลายท่านยังไม่รู้นึกว่าเป็นของ Hollywood อเมริกา)
โดยในภาคนี้นั้นคนที่รับบทเป็นสายลับ 007 นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น Daniel Craig เจ้าเก่าเรานี้เองซึ่งเขาคนนี้เอง ทำให้แฟนๆหลายๆคนค่อนข้างที่จะชอบ 007 ขึ้นมาอยู่มาก เพราะภาคที่เขาเล่นนั้น มักจะดูสมจริง สมจัง ไม่เน้นหล่อ เท่ เฟี้ยวระเบิด ตายไม่เป็น โดนต่อยไม่ได้ อะไรประมาณนั้น หรือจะเรียกได้ว่าดู มืดมน ดูหดหู่ และกดดัน สมกับความจริงอยู่มากครับ และที่ขาดไปไม่ได้สำหรับหนุ่มๆนั้นก็คือ เรื่องของ สาวๆใน James Bond ซึ่งใครๆก็รู้ดีว่าภาพยนตร์เรื่อง James Bond นั้นขาดไม่ได้อย่างแน่นอน (มีสาวๆไม่ซ้ำหน้าทุกภาคอะครับ !! แหมเป็นสายลับนี้ก็ดีเหมือนกันนะ !! ) และที่ตามมาก็คือฉาก 1 2 3 ก็ว่ากันไป ซึ่งสาวๆในภาค Skyfall นั้นมีสองคนก็คือ Naomie Harris ซึ่งเราจะคุ้นหน้าคุ้นตาเธอดีจาก ภาพยนตร์โจรสลัด The Pirates of the Caribbean นั้นเอง (เธอเล่นเป็น ยิปซีไงครับจำได้ไหมเอ่ย ?) อีกคนก็คือ Berenice Marlohe สาวสวยสุด Sexy ซึ่งเราอาจจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเธอคนนี้ซักเท่าไรนัก เพราะภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่เธอเล่นจะเป็นภาพยนตร์ ฝรั่งเศษจ้า (ก็เธอเป็นคนฝรั่งเศษนิเนอะ)
Skyfall ในภาคนี้นั้นเล่าเรื่องราวขององค์กร MI6 ที่กำลังถูกโจมตี โดยศัตรูที่น่ากลัวและสุดแสนฉลาดอย่าง Silva ซึ่งเขาก็เคยเป็นสายลับคล้ายๆกับ 007 ของเรานี้แหละ นอกจากนั้น M ก็ยังถูกเขาหมายหัวไว้อีกด้วย แถมเขายังทิ้งข้อความเอาไว้ว่า "จงพิจารณาบาปของตัวเอง" นอกจากนั้น รายชื่อสายลับทั่วโลกก็ยังถูกขโมยและเอาไปเปิดเผยอีก !! เรื่องราวเริ่มใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ แต่มีหรือ 007 ของเราจะยอม ? งานนี้ต้องตามล่าหัว Silva และสั่งสอนให้รู้ซะบ้างว่าสายลับที่แท้เขาต้องทำกันยังไง
ขอย้อนกลับไปที่หัวข้อของรีวิวนี้อีกซักครั้งนะครับ ทำไมผมถึงเขียนว่า "สายลับสองม้วน" ? นั้น ก็เพราะ ใน Skyfall นั้นสำหรับตัวผมเหมือนมีภาพยนตร์ 2 เรื่องมารวมกันครับ เอาเป็นว่ามาพูดถึงม้วนแรกกันเลยดีกว่า !
ในม้วนแรกนั้นก็คือช่วงประมาณ 1 - 1.30 ชม. ของ Skyfall ที่เรียกได้ว่า แค่ฉากเปิดเรื่องก็โคตาระอลังการครับ ถ้าหากคุณชอบความมันส์ล่ะก็ ไม่ผิดหวังแน่นอนสำหรับม้วนแรก เพราะใน Skyfall นั้นมีไปตั้งแต่ วิ่งไล่กันบนหลังคา ขับรถไล่กัน วิ่งไล่กันบนรถไฟ ไปจนถึงการแลกหมัดกันแบบแมนๆ ที่หลังคารถไฟ ซึ่งเป็นฉาก Action ที่ดูอลังการ มันส์ และไม่ได้เป็นฉาก Action ที่ออกแบบมาดูง่ายๆ เอาเร็วๆ ลงทุนน้อยๆเข้าว่า แต่กลับเต็มไปด้วยความเท่ ความโดดเด่นของ James Bond ในทุกๆก้าว ทุกๆหมัดที่ปล่อยออกไปจริงๆครับ นอกจากนั้นบางฉากยังมีการนำแสงและสี หรือจุดต่างๆที่คุณไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นมาเล่นอีกด้วย ซึ่งดูจะเป็นจุดที่น่าจะควบคุมได้ยากและไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เช่น ฉากที่ 007 ของเรากำลังย่องเข้าไปจะสังหารตัวร้าย ท่ามกลางแสงสว่างมากมายที่สาดส่องเข้ามาจากตึกข้างๆได้อารมณ์ของ 007 อย่างมาก นอกจากนั้นเขายังใช้แสงนั้นให้เป็นประโยชน์ในการพรางตัว โดยที่เราต้องไม่ลืมว่า กระจกที่เขาเดินผ่านทุกบานนั้นเป็นกระจกใสทั้งหมด !! แต่ตัวหนังกลับเอาแสงมาเล่นกับฉากได้อย่างเยี่ยมยอด และคาดไม่ถึงจริงๆ ยังไม่นับฉาก CG เล่นอารมณ์คนดูและแอบๆสปอยล์ตัวหนังของตัวเอง ซึ่งเป็นจุดเด่นของ James Bond ในภาคที่ผ่านๆมาเป็นอย่างมาก และยิ่งผสมกับบทเพลงและเสียงร้องของ Adele ทำให้เรารู้สึกไหลลื่นไปกับฉากนั้นอย่างง่ายดาย และทำให้เราตระหนักว่า "ความยิ่งใหญ่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว" นอกจากนั้น สิ่งที่ทำได้ยอดเยี่ยมเหนือความคาดหมายของผมจริงๆนั้นก็คือ Soundtrack ที่สุดยอด อลังการ ขนลุกเป็นที่สุด แถมยังใส่มาได้จังหวะเหมาะสุดๆ ทำให้ผมนั่งคิดเลยว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอ Soundtrack ภาพยนตร์เรื่องไหน อลังการเท่านี้มาก่อน ทุกครั้งที่คุณได้ยิน Soundtrack ของ Skyfall มันมักจะตามมาด้วยอาการ ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเสมอๆ นอกจากนั้นคุณยังจะได้เห็น ฉากสวยๆของตึกหลากหลายประเทศต่างๆ เช่น ฉากคล้ายๆกับเมืองจีนกลางน้ำที่ มาเก๊า ที่สวยสุดๆ เรียกได้ว่าช่วงม้วนแรกของ Skyfall แทบจะไร้ที่ติ ฉาก Action สุดยอด อลังการ แสงสีอลังการ สถานที่เมืองต่างๆที่สวยงามสุดๆ เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้น Soundtrack ที่สุดยอดจนทำให้คุณแทบอยากจะกระโจนเข้าไปลุยในหนังกับเขาบ้าง เรียกได้ว่า เท่ หล่อ อลังการ มันส์ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกินหาคำจะพูด ผมจึงได้คิดในชั่วขณะนั้นว่า "หรือนี้จะคือภาคที่ดีที่สุดของ James Bond จริงๆ ?"
แต่แล้ว......ผมก็คิดผิดถนัด.... เรามาพูดถึงในม้วนที่ สองกันครับ โดยม้วนที่สองของ Skyfall นั้นก็คือ ช่วงหลังจาก 1ชมครึ่ง (1.30 ชม.) ของ Skyfall เป็นต้นมาจนจบเรื่อง ตัวหนังเรียกได้ว่าเหมือนกำลังจะวิ่งมาได้สวยแล้วเชียว แต่กลับเหมือนเดินไปผิดทางซะอย่างนั้น จนทำให้รู้สึกว่าม้วนหลังของ Skyfall ต้องทำให้ผมต้องคิดว่า "นี้มันเรื่องเดียวกันจริงหรือ ?" " 1 ชม.แรกของ Skyfall มันคืออะไรกัน ?" หรืออะไรทำนองๆนี้ ทำไมผมถึงได้คิดแบบนี้กันหนอ ? มาดูกันครับ อย่างแรกเลยคือ ตัวร้ายสุดเทพที่ 1ชม.แรกของ Skyfall ว่าเทพนักเทพหนา เขาเจาะระบบ MI6 ได้เลยนะ เขาสุดยอดอย่างนู้นอย่างนี้นะ แต่เอาเข้าจริงกลับไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตัว Silva เองนั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีรัศมีของนักฆ่าเลยแม้แต่น้อย รัศมีอำมหิตก็แทบจะไม่รู้สึกถึงเลยอีกเช่นกัน ยิ่งเรื่องความฉลาด นอกจากคำพูดที่ได้ยินใน 1ชมแรก กับที่ Silva โม้ ก็แทบจะไม่รู้สึกเลยว่า ตัวละครนี้ฉลาดตรงไหน ทั้งคำพูดที่ดูเหมือนจะดูดี แต่กลับเหมือนถูกวางเอาไว้แล้ว ไร้ซึ่งอำนาจ อย่างสิ้นเชิง ยิ่งช่วง 30นาทีสุดท้ายของ Skyfall เรียกได้ว่าเป็นจุดที่ตกต่ำที่สุดของเรื่องเลยก็ว่าได้ ตัวละครอย่าง Silva ที่อุส่าห์ปูมาซะดิบดีว่าเขาฉลาดสุดยอด แฮค MI6 ได้ แฉข้อมูลสายลับได้ กลับกลายมาเป็นตัวร้ายสุดจะเข้าคอนเซปธรรมดา เน้นเอาพวกเข้าว่า ระดมกระสุน ระเบิดเข้าว่า เผากระท่อม ยิงกระจาย ไร้ซึ่งความฉลาด จนแทบอยากจะเกาหัวแล้วพูดว่า "ไอ้ 1 ชมแรกมันคืออะไร ?" ซึ่งเป็นการเหมือนเขียนตัวละครดีๆขึ้นมาหนึ่งตัวจากนั้นก็ขยำแล้วโยนทิ้งซะอย่างนั้น ยังไม่นับถึง Severine ที่โผล่มาช่วงแรกๆของหนังดูเหมือนจะเป็นตัวสำคัญ แต่หลังจากม้วนแรกจบปุบ ก็หมดความสำคัญทันทีและไม่โผล่มาอีกเลยทั้งเรื่อง สรุปตอนนี้เราได้ ตัวละครที่เนื้อดีแต่ถูกขยำทิ้งจำนวน 2 คน นอกจากนั้นจุดที่เรียกได้ว่า ร้ายแรงที่สุดของ Skyfall ก็คือตัวบท ที่หลังจาก 1ชมครึ่ง ผ่านมานั้น เหมือนจะเดินหลงทางอยู่ที่ไหนสักแห่งไม่ทราบ ด้วยการที่ตัวหนังเน้นบทไปทาง ความอยู่รอดของตัวละครๆเพียงตัวเดียวมากเกินไป ซึ่งสำหรับบางคนอาจจะสำคัญ สำหรับบางคนอาจจะไม่สำคัญเลย นั้นก็คือ ตัวละคร M นั้นเอง ซึ่งส่วนตัวสำหรับผมนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรตัวละครนี้มากมายอยู่แล้ว เมื่อใส่ใจตัวละครๆเดียวมากเกินไป ก็ทำให้บทอื่นๆที่ปูมาล้มระเนระนาดเต็มพื้นไปหมดทั้งๆที่มีโอกาส ที่จะสามารถทำได้ เช่น เรื่องราวของสายลับที่ถูกเปิดเผย / องค์กร MI6 ที่กำลังถูกคุกคาม แต่ในเมือหนังเดินมาถึงจุดนี้แล้ว โอเค M ก็ M แต่ถึงกระนั้น Skyfall ก็ยังคง Fall อีกครั้งด้วยการที่ไปเน้นจุดที่ไม่น่าสนใจเอาเสียเลยแทนซะอีก นั้นก็คือ เรื่องราวการแก้แค้นของ Silva ซึ่งตัวละคร Silva นั้นมันหมดความน่าสนใจไปตั้งแต่เริ่มเห็นครั้งแรกแล้ว คราวนี้พี่แกขอมาอาสาพา M ลงเหวไปด้วยอีกคนก็ไม่ปาน โดยถ้าหากตัวหนังเน้นไปทาง กดดัน หดหู่มากกว่านี้ เช่นเน้นเรื่องการที่ M โทษตัวเองแค่ไหนที่ทำให้ องค์กร MI6 ต้องย่ำแย่ขนาดนี้ และทำมันออกมาให้ดูน่าจดจำ และดูมืด ทมิฬ มากกว่านี้ จะยิ่งทำให้ตอนจบออกมาสุดยอด และยิ่งทำให้ภาคต่อไปยิ่งน่าดูเข้าไปอีก 100เท่า ซึ่งถ้าพูดถึงในตัวบทเองแล้วสามารถไปได้หลายทางเอามากๆแถมหลายๆทางก็ดูจะดีอยู่ไม่น้อย แต่กลับเลือกทางที่ง่ายๆ แบบจบในตอนซะอย่างนั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างมาก , ฉาก Action 1ชม.ครึ่งแรกของ Skyfall หลังจากเริ่มม้วนสองก็กลายเป็น ฉาก Action เกลื่อนตลาดทันที จนสามารถที่จะเรียกได้ว่า "สิ้นคิด" ด้วยการที่เลิกให้ตัวละครใช้สมองคิด เอาปืนและกระสุนเข้าว่าแทน ยังไม่นับฉาก Climax ของเรื่องที่น่าผิดหวังเป็นที่สุดอีกต่างหาก
Skyfall เป็นภาพยนตร์ที่เหมือนจะเอาคำสองคำของหนังมาเล่นกับตัวหนังหรืออย่างไรไม่ทราบ ช่วง 1ชมครึ่งแรก นั้นคือ "Sky" ความหวัง ความสดใส หรือว่านี้จะเป็นความหวังใหม่ของ 007 ? หลังจากพวกเขาหลอกเราเสร็จสรรพแล้ว ก็จัดการฟันหน้าเราอย่างรุนแรงด้วย "Fall" ที่คุณภาพต่ำจนน่าตกใจ จนพาเอางงว่า นี้มันเรื่องเดียวกันหรือ ? ทำไมถึงได้เปลี่ยนไปอย่างกับ "หนังคนละม้วน" แบบนี้ ยิ่งนึกถึงความเป็นไปได้หรือหนทางของหนังที่เป็นไปได้หลากหลายทางแต่กลับเลือกทางผิด ยิ่งทำให้รู้สึก ผิดหวังอย่างมาก
Skyfall เป็นภาพยนตร์ภาคต่อของ 007 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงแรกแต่กลับทำลายความสำเร็จนั้นด้วยน้ำมือของตัวเองในช่วงหลังของหนัง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างมาก ถึงแม้จะไม่ถึงกับจะเรียกได้ว่า "ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง" แต่แค่เพียงคุณภาพของหนังยังรักษาเอาไว้ไม่ได้จนจบ นี้ก็คือวิกฤต ของ James Bond แล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับชื่อของภาคนี้ที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ ก็ยิ่งเปรียบเสมือนเป็นการสะท้อนเงาของตัวเองว่า
"ภายนอกนั้นดูยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเราเอามือยืนเข้าไปจับกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
เสมือนดั่งก้อนเมฆ"
Final Score : C+
(ENGLISH)
The Good :
- First 1 hrs of Skyfall is amazing
- Satisfied , Awesome , Creative Action Scene
- Greatest Soundtrack ever
- Interesting and Addictive Storyline
The Bad :
- After that 1 hrs of lights Skyfall turns into Skyfail
- Action Scene are now lazy , repetitive , boring
- Storyline are now useless , boring , uninteresting
- Worst Villain ever made in James Bond
- Destroy all the good stuff in first 1 hrs
Suggestion : Skyfall in first 1 hours it's a great movie all the james bond you want is here all the Action Stuff , James Bond Stuff are here but after 1 hours past Skyfall turns in to a boring and lazy movie that destroy their own storyline.
Final Score : C+
Thankyou to : Skyfall ( 2012 ) MGM , SONY PICTURES , IMDB for information
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น