วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

A Good Day to Die Hard ( 2013 ) Movie Review

Movie Review

A Good Day to Die Hard ( 2013 ) "วันดีที่จะตายของคนตายยาก ?"




Movie Name : A Good Day to Die Hard ( 2013 ) , Action / Thriller
Director : John Moore ( Max Payne.......)
Stars : Bruce Willis ( Die Hard , Red ) , Jai Courtney ( Jack Reacher ) , Sebastian Koch ( Unknow )
Rating : R ( Some Violence , Sexual Language )






REVIEW (THAI)




                                             A Goo Day to Die Hard ก่อนอื่นผมขอเริ่มต้นบอกก่อนเลยว่า หนังเรื่องนี้ หรือ Die Hard ภาคนี้ มัน "ห่วยแตกสิ้นดี" หรือ แทบจะเรียกได้ว่าแทบจะหาข้อดีแทบจะไม่ได้เลยแม้แต่จุดเดียว ยิ่งสำหรับแฟนๆ Die Hard พันธุ์แท้ หลังจากได้ชมภาคนี้ อาจจะอยาก Die จริงๆขึ้นมาก็เป็นได้ แต่ว่าทำไมล่ะ หลายๆคนอาจจะคิดว่า ผมมั่ว ผมโม้รึเปล่า เพราะฉะนั้น เราจะมาสาเหตุกันว่าทำไมกันหนอ Die Hard ภาคนี้มันจึงได้เน่าเละเทะจนอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ภาพยนตร์ซีรียส์ Die Hard ที่มีมาถึง 25 ปี ( 1988 - 2013 ) ต้องจบลง 



อย่างแรกสุดเลยก็คือตัวผู้กำกับอย่าง John Moore ที่ไม่รู้ทางค่ายคิดอะไรอยู่ถึงได้ไปนำผู้กำกับคนนี้มากำกับ ภาพยนตร์ซีรียส์สุดดังอย่าง Die Hard ที่มีแฟนๆทั่วโลก ซึ่งหลายๆท่านอาจจะทราบดีว่า วีรกรรมของ John Moore นี้นั้นค่อนข้างเลวร้ายเท่าใด ยกตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเกมอย่าง Max Payne ที่เป็นอีกเกมหนึ่งที่เรียกได้ว่าสุดยอด และ ขึ้นหึ้งอีกเกมนึงของโลกเลยทีเดียว แต่ ผู้กำกับคนนี้เอง ก็ทำให้ภาพยนตร์ Max Payne เละเทะจนแฟนๆแทบจะพยายามลืมมันซะว่ามันเคยมีอยู่บนโลกนี้ด้วยซ้ำไป (คะแนน IMDB ของ Max Payne คือ 5.3) ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดอย่างมากที่เลือกผู้กำกับคนนี้ มากำกับ ภาพยนตร์ที่ทั้งโลกจับตารอคอยเช่นนี้ หรือ เรียกได้ว่าแทบจะขุดหลุมฝังศพตัวเองไป 50 % แล้ว



ในเรื่องถัดมาซึ่งไม่แน่ใจว่าเกี่ยวไหม เพราะ Bruce Willis แกก็อายุเยอะแล้ว เคยได้บอกไว้ว่า อยากจะเล่น Die Hard ภาคต่อไปเร็วๆ เพราะ อายุก็เยอะมากแล้ว กลัวจะเล่นไม่ไหว ก็เลยสงสัยว่า นี้จะเป็นสาเหตุนึงรึเปล่า ที่พยายามรีบๆเข็น Die Hard ออกมาจนมันเน่าเละเทะ จนไม่น่าให้อภัยเยี่ยงนี้ ?


ก่อนที่จะไปเข้าถึงตัวหนังจริงๆจังๆผมต้องขอพูดก่อนว่า ในความคิดของผม Die Hard มันจะต้องเป็นอย่างไร ซึ่งส่วนตัวต้องขอบอกเลยว่าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ Die Hard เลย และที่จำได้ทั้งเรื่องจริงๆก็คือ Live Free or Die Hard ภาคล่าสุดนี้เอง (ภาคก่อนๆอาจจะเคยดูแต่ลืมแล้ว...) ซึ่งภาคก่อนนั้นเรียกได้ว่า ทำออกมาได้ไม่แย่เลย มันยังทำให้ผมยอมรับได้ว่า นี้แหละ คือ Die Hard ตายยากของจริง 

ซึ่งผมต้องขอบอกก่อนว่า ก่อนที่ผมจะไปชม A Good Day to Die Hard จริงๆผมทราบมาก่อนแล้วว่ามันค่อนข้างจะห่วย.... จากคะแนน รีวิว Rotten Tomatoes 10% จาก 100% (ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ตกไปถึง 0 รึยัง) IMDB ที่เริ่มจาก 7.2 จนตอนนี้เหลือ 6.2 และยังตกเรื่อยๆ คะแนนจากนักวิจารณ์ 30 เต็ม 100 แต่ผมก็ได้แต่คิดว่า มันคงไม่แย่ขนาดนั้นหรอกมั้ง ? 


ทีนี้เรามาพูดถึงตัวหนังจริงๆกันซะที ต้องขอเริ่มก่อนเลยในจุดของประเด็น "ความเป็น Die Hard " ซึ่งต้องขอบอกว่าในภาคนี้นั้น มันไม่มีเลย ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิด จอคอมพิวเตอร์ หรือ จอมือถือ Smart Phone ของคุณไม่ได้ประมวลผลผิด แต่มันไม่มีเลยจริงๆ ทั้งเรื่องของ A Good Day To Die Hard เต็มไปด้วย ฉาก Action ดาษๆ น่าเบื่อ และแทบจะไม่ได้คิด ไร้ความสร้างสรรค์สุดๆ มันแย่จนขนาดที่ ผมกล้าพูดว่า ผู้กำกับคนไหนๆก็ทำได้ถ้ามีเงินโดยที่ไม่ต้องมีฝีมืออะไรมากมายเลย อย่าว่าแต่เอาฉาก Action ไปเทียบกับภาพยนตร์ใหญ่ๆเรื่องอื่นๆเลย แค่ ภาพยนตร์ Action ทั่วๆไป เกลื่อนตลาด ก็แทบจะขายขี้หน้าเต็มทนแล้ว ผมยังแทบจะกล้าพูดว่า หนังเรื่อง Stolen ที่ผมเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ ยังมีฉาก Action ที่ตื่นเต้น และ ใช้ความคิดมากกว่า A Good Day to Die Hard เสียอีก ยิ่งในช่วง 1 ชม. แรกของหนัง ฉาก Action ของ Die Hard ภาคนี้นั้น ทำให้ผมแทบอยากจะร้องไห้ เพราะ มันช่างเลวร้าย จนเกินจะบรรยาย ฉาก Action ที่เรียกได้ว่าไม่ได้คิดอะไรเลย ตูมตามไร้สมองลูกเดียว ไม่มีแทคติก ไม่มีเหตุผลใดๆทั้งนั้น แถมที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ตัวหนังเริ่มด้วยการแทบจะไม่ได้ปูอะไรให้คนดูเลย ทำให้ผมดูไปงงไปว่า แล้วที่มันยิงๆกันเนี้ย มันเพื่ออะไร แล้ว มันสำคัญขนาดไหน ? 




กลับมาที่เรื่องของความเป็น Die Hard  หรือ ตายยากกัน ซึ่งผมต้องขอบอกว่า ทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นบท CG การแสดง นักแสดง อะไรก็แล้วๆแต่ผมให้อภัยได้สำหรับ Die Hard แต่สิ่งที่มันไม่น่าจะพลาด และ เป็นจุดที่ไม่น่าให้อภัยที่สุดของ A Good Day To Die Hard เลยก็คือ การที่ไม่มีฉาก Action ใดๆ หรือ จุดใดๆในเรื่องเลยที่ผมจะสามารถกล้าพูดได้ว่า " โว้ว โคตรตายยากเลย!" ไม่มี !!! ไม่มีเลยจริงๆ !! ใครก็ได้ช่วยบอกผมทีว่ามันมีฉากไหนบ้างที่พระเอกของเรามันดูตายยาก ไม่มีเลย ทุกๆฉากก็แทบจะเหมือนหนังแอ๊คชั่นทั่วๆไปธรรมดา ดูปลอดภัยดี ซึ่งความเป็นจริงแล้ว Die Hard มันจะต้องแอบเวอร์ๆหน่อย เช่น อย่างฉากรถตีลังกามาเกือบจะทับพระเอกในภาคที่แล้ว ซึ่งมันรวดเร็ว และ รุนแรง และดูยังไงคนธรรมดา หรือ พระเอกหนังแอ๊คชั่นดาษๆทั่วไปคงทำไม่ได้แน่นอน แต่ A Good Day To Die Hard ไม่ใช่เลย ไม่ได้มีอะไรแบบนั้นเลย !! มันเกิดอะไรกันขึ้น !!! แล้วนี้คุณยังกล้าพูดอีกหรือว่า นี้คือภาพยนตร์ที่มีชื่อต่อท้ายว่า " DIE HARD " ใครก็ได้ช่วยเอาชื่อนี้มันออกไปที เพราะ ตัวหนังมันจะดูดีกว่านี้เยอะหลายพันเท่า ถ้ามันไม่บังเอิญ มีคำว่า Die Hard ภาพยนตร์ซีรียส์ที่มีมาถึง 25 ปี 4 ภาค !! 




หลังจาก 1 ชม. แรกผ่านมา หลายๆคนอาจจะหวังว่า มันอาจจะดีขึ้นน่า ในตอนจบ ? แต่ไม่เลย ทุกอย่างกลับดูแย่ลงอีก !! บทที่เรานั่งดูมา 1 ชม. ก็ถูกฉีกทิ้งอย่างรวดเร็ว เหมือนอารมณ์ประมาณว่า ผู้กำกับพูดว่า " เห้ยทำมาครึ่งเรื่องแล้วอะ แต่มันไม่น่าเวิรค์ว่ะ เอาแบบนี้ล่ะกันให้มันดูฉีกๆหน่อย ก็ฉีกบทมันซะเลยไง !!! " และปล่อยให้คนดูงงว่า แล้วไอ้ที่ดูตูมา 1 ชม. ทั้งฉาก Action ที่ก็เฟล เนื้อเรื่องก็เรียกว่าแทบจะไม่มีอยู่แล้ว ตูดูไปเพื่ออะไร ???? แถมยังหน้าด้านแทนด้วยบทที่ "ดูเหมือน" จะดีกว่า แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะมีมาทำไม ไม่ได้สร้างความแตกต่างเลย



พูดถึงเรื่องบท เราก็มาพูดถึงเรื่องบทกันดีกว่า มันไม่มีหรอกครับ บทอะ ผมสรุปให้ง่ายๆเลย " พระเอก ไปยิงผู้ร้าย" จบคุณไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากกว่านั้นแล้วจริงๆ ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ เพราะแม้แต่ตัวละครบางตัวในหนัง ที่ตอนแรกก็ทำออกมาแย่ และไม่น่าสนใจอยู่แล้ว ยังซ้ำเติมด้วยการลบทิ้งในตอนใกล้จบอีกต่างหาก ซึ่งมันทำให้ตัวละครเหล่านั้นไร้ค่าไปทันที 
นอกจากนั้นการอธิบายเรื่องราว ดีเทลต่างๆในเรื่องก็แทบจะเป็น 0 เริ่มมาแบบงงๆ บางสถานที่ในเรื่องก็อธิบายให้คนดูเข้าใจแบบลวกๆ เหมือนไม่รู้ว่าขี้เกียจเขียนบท หรือ อย่างไรไม่ทราบ นี้ยังไม่นับถึง Dialog หลายๆจุดที่ใส่เข้ามาแบบซ้ำๆซากๆ อย่างไร้จุดหมาย ซึ่งมันสร้างความน่ารำคาญ มากกว่า บันเทิงหลายเท่านัก



พูดถึงเรื่องโอกาสมันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะ ภาพยนตร์อย่าง Die Hard ในจุดๆนี้จะทำฉาก Action ออกมาเวอร์อย่างไรก็คงจะไม่ผิดแล้ว ยิ่งมีตัวละครเสริมอย่าง ลูกของพระเอก ก็ยิ่งน่าจะยกระดับให้ความเทพ มันเพิ่มขึ้นไปอีก เช่น การทีมเวิรค์กัน ช่วยเหลือกัน แต่ในเรื่องนี้กลับไม่มีเลย ทีมเวิรค์ 0 ช่วยเหลือ 0 ต่างคนต่างยิง ฉากอลังการๆ เทพๆ ที่ผมจิตนาการว่าจะได้เห็น ก็มลายหายสิ้น แทบจะไม่หลงเหลืออะไรเลย กลับ แทนด้วยฉากดาษๆ น่าเบื่อ ไร้ความคิด ที่เราเห็นมาเป็นรอบ  ที่แสนล้านครั้งแล้ว ถึงแม้ตัวหนังจะแอบใส่ธีมเพลงมาออกแนวเลียนแบบ Mission Impossible หรือ 007 แต่ผมกล้าพูดเลยว่า ภาคนี้ไม่ได้ไปถึงจุดนั้นแน่ ไม่เลย มันไม่ได้เฉียดจุดนั้นด้วยซ้ำ อย่าง Mission Impossible ภาคล่าสุด Ghost Protocol ยังมีหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ทำให้ผม ว้าวได้ ทำให้ผมตื่นเต้นไปกับมันได้ เช่น ฉากไล่ล่ากลางทะเลทราย การต่อสู้แข่งกับเวลา หรือ แม้กระทั่งฉากเปิดเรื่องที่ผมเรียกได้ว่าชอบมากๆ (ฉากเปิดเรื่องที่เป็นตอนที่เป็น ไฟวิ่งผ่านสายชนวนระเบิดในอุโมงค์ ครับ) แต่คุณเลิกหวังได้เลยว่าจะได้เจออะไรแบบนั้นในเรื่องนี้ ไม่มีเลยแม้แต่กระติ๊ดของกระติ๊ดเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ฉากเปิดเรื่องเป็นอะไรที่สุดแสนจะน่าเบื่อ ในชนิดที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นใน Die Hard 





นี้ยังไม่นับถึง หลายๆฉากในหนังที่ไม่เข้าใจว่าจะใส่มาทำไม เช่น ฉากตลก บางฉาก ที่ฮาก็ไม่ฮา ยังพาเสียเวลาอีกต่างหาก แถมทำไปเพื่ออะไรไม่ทราบ ไม่เข้าใจจริงๆ กลัวตัวเลขที่มันเขียนเป็นเวลาความยาวของหนัง ใน IMDB ด้านบน มันจะดูน้อยหรอ ? นอกจากนั้นฉากไคลแมกซ์ ของเรื่องเป็นอะไรที่ไม่น่าให้อภัยเป็นอย่างยิ่ง เป็นฉากที่ผมคิดว่าหนังรักไม่มีแม้แต่กระสุน หรือ ปืน หรือ ระเบิด หรือ แม้กระทั่งบางเรื่องไม่มีแม้แต่คำพูด ยังตราตรึงผม หรือ ทำให้หัวใจของผมเต้น ได้มากกว่าเลย แถมฉากจบก็สุดจะเดาง่าย อย่างกับเดจาวู 





A Good Day To Die Hard เป็นภาพยนตร์อีกภาคนึงของ Die Hard ซึ่งอาจะเป็นสาเหตุที่ ภาพยนตร์ซีรียส์นี้ ไม่ได้ไปต่อ เพราะ มันช่างน่าเบื่อ เละเทะ ล้มเหลว น่าขายหน้าเป็นที่สุด ที่เลวร้ายที่สุดคือ คุณไม่สามารถที่จะหาอะไรที่คุณสามารถที่จะบอกว่า เนี้ยแหละ คือภาพยนตร์เรื่อง Die Hard ได้เลยนอกจาก ชื่อที่แปะอยู่บนหน้าหนัง กับ Bruce Willis ถ้าเอาสองสิ่งนี้ออกจากหนัง ตัวหนังก็คงจะไม่ต่างอะไรไปจาก หนังดาษๆที่พร้อมจะส่งตรงลง DVD ในทันใด หรือ ให้อย่างมากก็เป็นได้เพียงแค่ หนังดาษๆ สุดจะ Simple ใครๆก็ทำได้อีกเรื่องหนึ่ง ที่ก็แค่มีเงินเยอะขึ้นมานิดนึง แต่สมองเท่าเดิม 



THE BEST QUOTE from " ME " to " A Good Day To Die Hard "

" Maybe It's time for you to just die..... " - FallsDownz



Final Score :    [ D + ] and [ Disappointed Badge  ] 






Thank you to : A Good Day To Die Hard ( 2013 ) , IMDB for information

2 ความคิดเห็น:

  1. หนังจบเร็ว ไม่ค่อยสนุกเลยภาคนี้ ภาค4ผมชอบที่สุดล่ะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ15 ธันวาคม 2556 เวลา 02:43

    เรื่อง iron man ดูไม่เห็นสนุกเลย ทั้ง3ภาค แย่สุดๆๆๆๆๆๆ สู้ Thor กับ x men ไม่ได้เลย เทียบกับ diehard ถึงภาคนี้actionน้อย แต่ก็ยังดีกว่า iron man ทั้ง3ภาคแหล่ะ เรื่องนี้แย่จริงๆๆๆ ไม่รู้สึกถึงheroเลย ใช่ๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ