GAME REVIEW
หนึ่งในเกมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเล่นมาในชีวิต (พูดจริง)
Game Name : Persona 4 : Golden (P4G) RPG [ US Version ]
Developer : Atlus
Platforms : PSVita Exclusive
Rating : M
REVIEW
Persona 4 : Golden นั้นต้องขอสารภาพเลยจริงๆว่า ตอนแรกที่เกมมีข่าวมาเรื่อยๆและออกมาตอนแรกๆนั้น ตัวผู้เขียนไม่ได้ให้ความสนใจเท่าใดนัก เนื่องจากดูจากภาพ และ เกมเพลย์แล้วก็ไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น(นั้นคือความคิดในตอนนั้น) จนวันหนึ่ง เนื่องจากได้ยินกระแสพูดถึงเกมนี้อย่างมากมาย จนอดไม่ได้ที่จะลองด้วยตัวเองซักครั้ง แบบไม่ได้คาดหวังอะไรเท่าไร จนรู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 70 กว่าชั่วโมงในรอบแรก โดยที่รู้สึกแบบเต็มๆเลยว่า ไม่อยากให้เกมจบเลย อยากจะให้มีต่อไปเรื่อยๆ อยากจะเล่นอีกเรื่อยๆ จึงไม่แปลกเลยที่ผมจะถึงขนาดคิดว่า Persona 4 : Golden เป็นเกมที่ดีที่สุดเท่าที่ได้เคยเล่นมาในชีวิตนี้ ต้องขอบอกเลยว่าผมไม่คิดว่าผมจะเขียนรีวิวอธิบายได้ถึงทุกๆส่วนจริงๆในเกมเลย เพราะ Persona 4 : Golden เป็นเกมที่มีอะไรหลายๆอย่างมากเหลือเกิน มากจนคิดว่า "ใส่ลงไปในแผ่น Memory Vita ได้ไงฟะเยอะขนาดนี้" มันมีอะไรหลายๆอย่างมากมายจริงๆ และบางส่วนก็กลัวเป็นการสปอยล์ไปด้วย และถ้าหากข้อมูลใดๆผิด ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
Persona 4 : Golden เป็นเกมที่ Re-release หรือ จะว่าเป็นฉบับเอาเกมเก่ามาพอรต์ลงเครื่องใหม่ก็คงจะไม่ผิดนัก ต้องขอสารภาพเลยว่า ตัวผมเองนั้นไม่เคยเล่นเกม Persona มาก่อนเลย ไม่ว่าจะภาคไหนๆก็ตาม แม้แต่เกมชุด Shin Meigami Tensei ก็ไม่เคยเล่นมาก่อนซักเกม จะรู้จักก็เพียงแค่การ์ตูนอย่าง Devil Children ที่เคยได้ดูตอนเด็กๆเท่านั้น (ทำให้จำ Jack Frost ได้) แต่จากเท่าที่ได้ฟังมา หลายๆคนที่ได้เคยเล่น Persona 4 บน Playstation 2 มาก่อนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทาง Developer Atlus ไม่ได้เพียงแค่พอรต์ลงให้ PSVita แบบหลายๆเกมเท่านั้น แต่เพิ่มหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง จนมันแทบจะเป็นคนละเกมเลยทีเดียว ซึ่งก็ถือว่าทาง Developer ได้ใจแฟนๆหลายคนไปเลยทีเดียว
Persona 4 : Golden ว่าด้วยเรื่องราวของ ตัวเอกของเรา (ที่ในเกมเขาให้เราตั้งชื่อเอง แต่มีหลายๆคนชอบเรียกเขาว่ Yu Narukami ) ที่พบว่าตัวเองมีพลังบางอย่างที่สามารถเรียกสิ่งที่เรียกว่า Persona ออกมาได้ และ เขากับเพื่อนๆของเขาจะต้องแก้ไขปริศนาฆาตกรรมอันลึกลับในเมือง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป....
Persona 4 : Golden ต้องขอบอกเลยว่าเป็นเกมที่ ส่วนตัวแล้วคิดว่า น่าจะเป็นหนึ่งในเกมที่มีอะไรหลายๆอย่างให้ทำมากมายจนผมไม่แน่ใจว่า จะสามารถทำทุกอย่างได้ภายในการจบเกมรอบแรกได้หรือไม่ (ถ้าไม่นับ GTA ที่เล่นเป็นพันชั่วโมงก็ยังได้) มีหลายๆสิ่งหลายๆอย่างเหลือเกินในเกมที่ให้ใช้เวลา เช่น ตกปลา เข้าไปทานอาหารจีน สร้างความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ จับแมลง อ่านหนังสือ ว่ายน้ำ และอีกมากมาย จนแทบจะเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าแต่ละวันเราจะทำอะไรดี และ แต่ละอย่างที่มีให้ทำ รู้สึกสนุก รู้สึกน่าสนใจอยู่ตลอดเวลา ไม่มี Event ใดๆเลยทีทำให้รู้สึกถึงความขี้เกียจหรือไม่ตั้งใจของ Developer นอกจากนั้น Event หรือ Activity เหล่านี้ หลายๆ Activity มักจะให้อะไรกับตัวละครของคุณเสมอๆ เช่น ถ้าหากคุณไปตกปลาคุณก็จะได้ปลามาใช้ในการทำเควสต่างๆ หรือ ถ้าหากคุณอ่านหนังสือเล่มๆนึงจนจบ ค่าตัวละครของคุณก็จะเพิ่มขึ้นตามที่หนังสือนั้นบอก ทำให้คุณรู้สึกเสมอๆว่า คุณไม่ได้ทำ Event เหล่านี้ไปโดยเปล่าประโยชน์เลยแม้แต่น้อย ยัง ยังไม่หมด ในภาค Golden นี้นั้น ยังจะมีในส่วนของ TV Listing มาให้คุณทำอีกมากมาย เช่น เล่นเกมตอบคำถามในเกม ซึ่งจะมีตัวละครในเกมมาแข่งกับเราจริงๆ แถมส่วนนี้ยังเป็นการพากษ์แบบเต็มๆอีกด้วย น่าประทับใจถึงความพยายามของทีมงานจริงๆ (ซึ่งเป็นเกมตอบคำถามที่สนุกมากๆ) มี Concert ให้ดู , Concept Art , เข้าไปฟังเพลง Soundtrack ต่างๆในเกม ซึ่งเป็น Soundtrack ที่ดีมากๆเลยทีเดียว , เข้าไปฟังอธิบายทฤษฏีที่ในเกมพูดถึง , เข้าไปดูฉาก Cut Scene ที่เคยได้ดูมาแล้วอีกครั้ง อื่นๆ ซึ่งแค่ในตัวเกมเท่านั้นก็เยอะจนเลือกอะไรไม่ถูกแล้ว ตัว TV Listing ยังเยอะมากมายขนาดนี้อีก เรียกได้ว่า กว่าจะทำทุกอย่างได้หมด ไม่นับเก็บถ้วย Platinum ก็คงจะไม่ต่ำกว่า 100 ชั่วโมงอย่างแน่นอน
สำหรับ Plot หรือ บทใน Persona 4 : Golden นั้นเป็นบทที่ผมชอบมากๆเลยทีเดียว นอกจากมันจะสนุก ตื่นเต้น น่าติดตาม พิศวง ลึกลับเหลือเกินแล้ว มันยังเป็นบทที่ให้ความรู้สึกว่าน่าสนใจ และ เข้าใจได้ไม่ยากสำหรับทุกๆคนไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ และ เนื่องจากส่วนตัวเป็นพวกบ้าแนวสืบสวนอยู่ด้วยแล้ว ก็เลยยิ่งชอบเข้าไปอีก ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า บทใน Persona 4 : Golden นั้น ไม่ได้เดายากอะไรมากมายนัก และ ดีไม่ดีคุณจะเดาตัวร้ายที่แท้จริงได้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลยด้วยซ้ำ(แบบผม) แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ตัวเกมนั้นสนุกน้อยลงเลยแม้แต่น้อย เพราะ ตัวบทมักจะมีอะไรให้คุณคอยคิดตาม และ คอยหลอกล่อคุณเสมอๆ ยังไม่นับถึงบทที่มี Layer หรือ หลายชั้นพอสมควรเลยทีเดียว เช่นโลกแห่งความจริง โลกแห่งทีวี ที่ทั้งสองโลกนี้ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่แล้ว แล้วยังทำมันออกมาให้ได้เข้าใจได้อย่างง่ายดายได้ ช่างเป็นอะไรที่น่าชื่นชมจริงๆ
มาพูดถึง Characters หรือ ตัวละครกันบ้าง สำหรับผมแล้ว Persona 4 : Golden ถือได้ว่าเป็นเกมที่มีการเขียนตัวละครมาได้ดีที่สุดเท่าที่เคยได้เล่นมาเลยทีเดียว และเป็นส่วนที่ชอบมากที่สุดในเกมเลยก็ว่าได้ ตัวละครทุกๆตัว ทุกๆตัวจริงๆในเกม รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง แต่ละคนมีความคิด มีนิสัยที่แตกต่างกัน มีการดีไซน์ที่ดียอดเยี่ยม การพากษ์เสียงที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่น่าเชื่อ ดูสมจริงในทุกๆความคิด การพูด การกระทำ และ คุณจะรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครนี้มากเหลือเกิน มากจนบางคนอาจจะคิดเลยด้วยซ้่ำ ว่านี้คือเพื่อนของคุณในชีวิตจริงๆในโลกจริง จริงๆ นี้ผมไม่ได้พูดโม้หรืออะไร แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ยกตัวอย่างในกรณีของผม ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยจะอ่อนไหวเท่าไรนัก ในตอนจบของเกม ผมแทบจะเกือบน้ำตาไหลออกมา ที่รู้ว่าทุกอย่างมันจบลงแล้ว เราจะไม่ได้เจอเพื่อนหรือตัวละครเหล่านี้ในเกม ที่ผ่านสิ่งต่างๆนาๆมาด้วยกัน หัวเราะ สนุก ร้องไห้ เสียใจ สิ้นหวัง มีความหวัง ผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้าย และเข้าใจซึ่งกันและกันมาด้วยกันตลอดทั้งเกม (ยิ่งฉากจบมันเป็น Cut Scene ยิ่งทำให้สมจริงเข้าไปอีก) นอกจากนั้นตัวละครแต่ละตัว ช่างมีความลึกแบบที่ไม่น่าเชื่อเหลือเกิน แต่ละคนนอกจากจะมีความคิดที่แตกต่างกันแล้ว เรายังจะได้รู้ถึงปัญหาในชีวิตของพวกเขา ความผิดหวังต่างๆของตัวละครเหล่านี้ ความหวังของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาเสียใจมากที่สุด และอีกมากมาย ในตัวละครเหล่านี้ ผ่าน Dialog ที่เราจะคุยกับพวกเขาตลอดทั้งเกม และตัวเกมก็ทำได้ดีเหลือเกินที่ทำให้เราเข้าใจพวกเขา คอยเอาใจช่วยเหลือพวกเขา ทำให้เรา "Bond" หรือสร้างความสัมพันธ์ ผูกพันธ์กับพวกเขา เหมือนในเกมจริงๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องอะไรที่โคตรยาก ที่จะทำให้เราเข้าใจตัวละครๆหนึ่งได้ โดยเฉพาะที่ยังเป็นตัวละครในเกม ที่ไม่มีจริงแล้วอีกด้วย ยิ่งยากขึ้นไปอีก แต่ Persona 4 : Golden ก็ทำได้ยอดเยี่ยมแบบไม่มีข้อสงสัยใดๆเลย เพราะ เรารู้สึกผูกพันธ์กับทุกๆตัวละคร ย้ำทุกๆตัวละครจริงๆ
ส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั้นก็คือ Gameplay ซึ่งเกม Persona 4 : Golden นั้น ถือได้ว่าเป็นเกมที่หนักไปในด้านบทพูดพอตัวเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าบทพูดหรือ Script ที่ร่างออกมานั้นจะหนาแค่ไหน เนื่องจากมีบทพูดในเกมที่มากมายเหลือเกิน นอกจากนั้น ยังมีการที่ให้คุณโต้ตอบกับตัวละครต่างๆ ซึ่งจะนำไปสู่ Dialog หรือ คำพูดต่อมาที่แตกต่างกันอีกด้วย (ยิ่งเพิ่มคุณค่าของการเล่นเกมซ้ำอีกรอบเข้าไปอีก) ซึ่งในทุกๆ Dialog ทุกๆ Dialog จริงๆ ช่างเขียนมาได้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน ซึ่งในตัวผมเองนั้นต้องขอบอกก่อนเลยว่าเล่นในเวอร์ชั่น US ซึ่งไม่รู้ว่าเวอร์ชั่น JP Dialog จะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ในเวอร์ชั่น US นั้นเท่าที่ได้เล่น ก็น่าที่จะพอเดาได้ว่าแปลมาได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว หลายๆครั้งที่ Dialog เหล่านี้ทำให้คุณหัวเราะอย่างกับคนบ้า หรือ ทำให้คุณเข้าถึงเนื้อเรื่องได้มากขึ้นเข้าไปอีก บางครั้ง Dialog เหล่านี้ยังสร้าง Tension ในบางสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ที่สำคัญเลยก็คือ Dialog เหล่านี้เป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ของคุณให้กับตัวละครอื่นๆที่คุณจะได้เจอในเกม ซึ่งผมต้องขอบอกเลยว่า ถ้าหากคุณเล่นเกมนี้แล้วคุณไม่อ่าน Dialog ใดๆเลย กดรัวๆๆๆข้ามอย่างเดียว ผมแนะนำให้ขายเกมทิ้งแล้วไปหาเกมอื่นมาเล่นเสียดีกว่า เพราะ Dialog ในเกมมันเป็นอะไรที่สำคัญมากกว่าที่หลายๆคนคิดเอาไว้มากมายนัก ถ้าหากข้าม Dialog เหล่านี้ไปหมด ส่วนตัวแล้วคิดว่า ที่เหลือในเกมในส่วนต่างๆแทบจะหมดความสนุกไปหมดเลยทีเดียว ตัวเกมนั้นใช้ระบบเป็นวันเป็นช่วงๆไปในแต่ละวัน เช่นช่วง เช้า ช่วงหลังเลิกเรียน ช่วงเย็น ซึ่งในช่วงเช้าก็อาจจะมี Event ที่ตอนคุณเรียนอยู่อาจารย์ก็อาจจะถามคำถามคุณซึ่งบางคำถามก็จะเป็นสิ่งที่อาจารย์คนๆนั้นพูดไปก่อนหน้านี้ หรือ เป็นคำถามรอบตัว (ที่ค่อนข้างจะรอบตัวแบบรอบโลกไปหน่อยยากพอตัวเลยทีเดียวถ้าไม่รู้จริงๆก็เปิด Google ก็ได้ครับ) ซึ่งถ้าคุณตอบถูกคุณก็จะได้ค่าความรู้เพิ่มขึ้น หรือ ถ้าเพื่อนของคุณเป็นฝ่ายโดนถาม เพื่อนของคุณก็จะมาถามคุณว่าจะตอบข้อไหนดี และถ้าคุณบอกคำตอบเพื่อนได้ถูก คุณก็จะได้ค่าความสัมพันธ์กับตัวละครนั้นๆมากขึ้นอีกด้วย และ หลังช่วงหลังเลิกเรียนเป็นช่วงที่ส่วนใหญ่คุณจะทำยังไงกับช่วงนี้ก็ได้ อาจจะไปตกปลา จับแมลง ออกไปกับบางตัวละครในเกม ซึ่งบาง Event ที่คุณทำจะไม่กินเวลา แต่บาง Event จะกินเวลาทำให้ช่วงหลังเลิกเรียนของคุณจบลงและข้ามไปช่วงเย็น(ซึ่งคุณจะกลับบ้านเองอัตโนมัติ) ซึ่ง Event ส่วนใหญ่ที่จะกินเวลาก็จะเป็น Event จำพวก Event ที่เพิ่มค่าสัมพันธ์ของตัวละครในเกม ซึ่งถ้าหากคุณจะเก็บถ้วย Platinum เกมนี้ อาจจะต้องวางแผนกันหน่อยมิเช่นนั้นก็อาจจะไม่ทันในตอนจบเกม แต่ผมแนะนำว่าให้ไปเก็บรอบสองดีกว่า แล้วรอบแรกเล่นตามธรรมชาติไปจะสนุกกว่าครับ (เพราะตัวเกมมี New Game + ให้เล่นอยู่แล้ว)
ในเกมยังมีการที่เราสร้างความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆอีกด้วย ซึ่งการที่เราสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาเช่น นั่งคุยกับพวกเขา อ่านหนังสือด้วยกัน ออกไปหาอะไรทานด้วยกัน จะเพิ่มค่าความสัมพันธ์ของคุณกับตัวละครนั้นๆ และมันจะทำให้ตัวละครนั้นๆได้ความสามารถต่างๆ หรือ ทำอะไรบางอย่างพิเศษได้ในเวลาถึงฉาก Battle หรือตอนที่เข้าไปในโลกของทีวีสำหรับตัวละครที่เราควบคุมได้ หรือ ถ้าเป็นตัวละครที่เราควบคุมไม่ได้หรือเล่นไม่ได้ ถ้าหากเราพัฒนาความสัมพันธ์ไปจนสุดแล้วล่ะก็ เราก็จะสามารถสร้าง Persona หรือ มอนเสตอร์ที่แข็งแกร่งมากๆ ได้อีกด้วย
มาพูดถึงในส่วนของระบบต่อสู้กันบ้าง ระบบต่อสู้ใน Persona 4 : Golden นั้น ถือได้ว่าเป็นระบบต่อสู้ที่ค่อนข้างจะลึกพอตัวเลยทีเดียว โดยหลักๆก็คือ เราจะใช้สิ่งที่เรียกว่า "Persona" หรือ เข้าใจง่ายๆก็คิดซะว่ามันเป็น Pokemon ละกัน ในการต่อสู้กับมอนเสตอร์ต่างๆหรือบอสต่างๆตลอดทั้งเกม และ Persona เหล่านี้ ต่างก็มีธาตุที่ชนะหรือแพ้ และบางตัวที่จะไม่แพ้ธาตใดๆเลย หรือกระทั่ง สะท้อนธาตุนั้น ดูดพลังของธาตุนั้นเข้ามาเป็นพลังชีวิตของตัวเองก็ยังมีอีกด้วย เพราะ ฉะนั้นผู้เล่นควรจะใจเย็นและตั้งใจดูก่อนที่จะโจมตีด้วยท่าอะไรไปก่อนทุกครั้ง ไม่งั้นโจมตีท่ามั่วๆซั่วๆไป กลายเป็นเพิ่มพลังชีวิตให้แทนจะซวยนะจ๊ะ ซึ่ง Persona เหล่านี้จะได้มาจากการที่เราฆ่าหรือชนะมอนเสตอร์ตัวอื่นๆ ที่จะมีโอกาสที่จะสุ่มมาเป็นการ์ด Persona ให้เราเลือกมาใช้ได้ หรือ เราจะนำการ์ดที่เราไม่ใช้แล้ว มารวมๆกันหลายๆใบแล้วผสมกันเป็นการ์ด Persona ที่แข็งแกร่งขึ้นได้ ก็สามารถจะทำได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการที่เราผสมการ์ดหลายๆใบเข้าด้วยกัน จะสามารถถ่ายทอดท่าหรือพลังบางท่า เช่น ท่าปล่อยน้ำแข็งระดับ Medium ให้กับ Persona ตัวใหม่ที่เราจะผสมออกมาได้อีกด้วย ซึ่งยิ่งเพิ่มความน่าสนุกกับการผสมเข้าไปอีก ยังไม่รวมถึง Persona ในเกมที่เยอะเหลือเกิน และทุกๆตัวมีรูปร่างเวลาใช้ที่แตกต่างกันหมด ไม่ใช่เป็นแบบ Re-use เหมือนกันหมดทุกตัวแน่นอน ถึงแม้ว่าตัวมอนเสตอร์ที่เราจะเจอในตามฉากต่างๆในเกม อาจจะซ้ำกันไปบ้าง หรือ ใช้ทริคสุดแสนคลาสสิค เปลี่ยนสีเอานิดหน่อยบ้าง แต่ก็ถือว่าอยู่ในจุดที่พอรับได้ ไม่ซ้ำมากจนน่ารำคาญหรือรู้สึกได้ถึงความขี้เกียจแต่อย่างใด ถ้าหากคุณสร้างความสัมพันธ์ของคุณกับบางตัวละครไปถึงจุดๆหนึ่ง ตัวละครนั้นๆก็จะมีค่าความสามารถพิเศษที่ใช้ได้ในตอนต่อสู้ เช่น แก้สถานะผิดปกติบางอย่างให้กับตัวละครอื่นๆได้ หรือ บางครั้งที่คุณโจมตีและทำให้ศัตรูล้มลงแล้ว ตัวละครนั้นๆก็อาจจะส่งสัญญาณขอให้เข้าไปใช้ความสามารถพิเศษที่อาจจะทำให้ศัตรูตัวอื่นล้มลงด้วย หรือ กระทั่งลบศัตรูบางตัวออกจากสนามไปเลยก็ยังมี และ วิธีที่คุณจะทำให้ศัตรูของคุณล้มนั้นมีหลายวิธีด้วยการ เช่นใช้ธาตุที่ศัตรูตัวนั้นๆแพ้โจมตีใส่ เช่น Persona ตัวนี้แพ้ไฟ คุณก็โจมตีมันด้วยไฟ ก็จะทำให้ศัตรูตัวนั้นๆล้มลง , โจมตีติดคริติคอล หรือ สกิลบางสกิลที่่ทำให้ศัตรูล้มลงก็มี่เช่นกัน ถ้าหากคุณสามารถที่จะทำให้ศัตรูล้มลงได้สำเร็จคุณก็จะได้สิทธิที่จะสามารถใช้ท่าได้ต่ออีกรอบเลยทีเดียว (แต่ศัตรก็สามารถทำได้เช่นกันระวังด้วย) และ ถ้าหากคุณสามารถที่จะล้มศัตรูได้หมดทั้งสนามคุณก็จะสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะใช้ระบบ All-Out-Attack หรือไม่ ซึ่งระบบ All-Out-Attack นั้นจะเป็นเหมือนกับการที่ตัวละครทุกๆตัวของคุณ(ที่ไม่ติดสถานะผิดปกติบางอย่างอยู่) เข้าโจมตีศัตรูทั้งสนามพร้อมๆกับซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงมากๆเลยทีเดียว หรือ ถ้าหากคุณคิดว่าจะใช้โอกาสนี้ทำอย่างอื่นเช่นฮิลรักษาเพื่อนของคุณก็ทำได้เช่นกัน (แต่คุณก็จะเสียโอกาสใช้ All-Out-Attack ไป)
ระบบต่อสู้ในเกมนั้นจะให้ความท้าทายกับผู้เล่นอยู่ตลอดเวลาแม้ในระบบ Normal ก็ตามทีที่สนุก ตื่นเต้น พอตัวเลยทีเดียว (มาถึงกดท่ามั่วๆระวังจะได้เริ่มใหม่ทั้งชั้นนะเอ่อ) และ Boss Fight ก็เป็นอะไรที่ท้าทาย ตื่นเต้น มากเลยทีเดียว แต่เนื่องจาก Persona 4 : Golden เป็นเกมที่มีระบบ LV. เข้ามาเกี่ยวด้วย ถ้าหากคุณเป็นพวกบ้าฟารม์แบบผมหน่อย ก็อาจจะไม่ค่อยท้าทายเท่าไรนัก เพราะ กว่าเราจะไปสู้กับบอสเราก็ค่อนข้างจะโหดพอตัวอยู่แล้ว (แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านจะกดท่ามั่วๆได้นะ ตายนะเออ) แต่เท่าที่ผมเล่นมา ถือว่าตัวเกมทำได้ดีในด้านการพัฒนาจากด้านต่างๆไปอีกด้านได้ดีพอตัวเลย เพราะถึงแม้จะฟารม์ EXP เท่าไรก็รู้สึกว่า ในการต่อสู้แต่ละครั้ง ท้าทาย และ สนุกเสมอๆ ไม่ใช่เราถล่มเขาฝ่ายเดียว
Stage หรือ ฉากต่างๆในแต่ละฉากก็ Design ออกมาได้ดีทั้งหมดเลยทีเดียว ไม่ใช้ฉากใช่แล้วซ้ำเลยแม้แต่น้อย และในหลายๆฉากจะมีอะไรพิเศษๆที่ทำให้แตกต่างจากฉากอื่นๆ เช่น ฉากฐานลับที่เวลาเราเปิดประตูในฉากมันจะเปิดแบบเหมือนเราเข้าไปในองค์กรลับอะไรจริงๆ หรือ ฉากคลับ ที่ประตูจะกลายเป็นเหมือนม่าน เหมือนเราเข้าไปดูโชว์อะไรจริงๆ ซึ่งเป็นอะไรที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกตลอดเวลา และ ไม่รู้สึกซ้ำซาก กลับกัน รู้สึกอยากจะรู้ ว่าฉากต่อไปมันจะเป็นอย่างไร มีอะไรพิเศษเสียมากกว่า ในแต่ละฉากนั้นจะมีเป็นชั้นๆไป ซึ่งชั้นสูงสุดจะมีบอสรอคอยเราอยู่ ซึ่งในแต่ละชั้นๆ นั้นจะมีทางเดินที่แตกต่างกันเสมอๆ และคาดเดาได้ค่อนข้างจะยากพอตัว แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ถ้าคุณเป็นคนเดาเก่ง(หรือเปิดเว็ปดูว่าจะต้องเดินอย่างไร) คุณก็จะผ่านชั้นๆนั้นไปโดยไม่เสียเวลามากนัก แต่ถ้าหากคุณดวงซวยหน่อยสุดท้ายคุณจะก็ได้ผ่านชั้นนั้นแน่นอน แต่อาจจะเสียเวลาไปกับการเดินไปเจอทางตันพร้อมกับมอนเสตอร์แทน ทางขึ้นก็เป็นได้ ซึ่งเราจะไม่รู้เลยว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้า สร้างความตื่นเต้น น่าค้นหาได้ดีเลยทีเดียว
สำหรับในส่วนของภาพถือได้ว่าเป็นเกมที่ค่อนข้างจะมีภาพที่สวยเลยทีเดียว สำหรับเกมที่เป็นการพอรต์มาลงใหม่ ไม่ได้เป็นเกมที่สร้างมาลงให้ PSVita ตั้งแต่แรก Cut Scene ที่สวยงาม น่าตื่นตา เลยทีเดียว (เสียดายที่น่าจะมีให้เปิด Subtitle ใน Cut Scene ซักหน่อย)
Persona 4 : Golden เป็นเกมที่ในตอนนี้คงจะไม่มีใครเถียงได้ว่าเป็นเกมที่ดีที่สุดในขณะนี้สำหรับเครื่อง PSVita เลยทีเดียว และเป็นเกมที่ถ้าหากคุณมีเครื่อง PSVita อยู่ในมือล่ะก็ ควรจะหามาเล่นซักครั้งในชีวิตจริงๆ ผมไม่รู้จะหาข้อเสียมาพูดยังไงสำหรับเกมนี้จริงๆ เพราะมันไม่มีจุดใดในเกมที่ผมรู้สึกว่าทำได้ไม่ดีเลยแม้แต่จุดเดียว ทุกอย่างดูจะลงตัวไปเสียหมด ในทุกๆจุดที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม และ พอมารวมกับเป็นเกมๆหนึ่งมันช่างลงตัวกันได้อย่างน่าทึ่งเหลือเกิน โดยเฉพาะ การสร้างความสัมพันธ์ของผู้เล่นกับตัวละครในเกม ที่ทำให้รู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่ "เกม" อีกต่อไปแล้ว
Final Score : [ S ] & [ Must Play Badge ]