Movie Review
ต้องขอพูดเลยว่า การผจญภัยของตัวละครเอกอย่าง Solomon Northup ในภาพยนตร์เรื่อง 12 Years a Slave นั้น เป็นการผจญภัยที่จะไม่มีวันลืมเลยทีเดียว จากภาพยนตร์ที่ช่างน่าทึ่ง ชาญฉลาด มีชั้นเชิงเรื่องนี้
โดยในแกนหลักของภาพยนตร์แล้ว ใช่เลย มันไม่ได้แตกต่างอะไรจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมของระบบทาส , การกดขี่ ข่มเห่งและเหยียดสีผิว แต่สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างคือการเล่าเรื่องสอดแทรกที่น่าสนใจ เช่นในแง่มุมของคนขาวที่กล่าวอ้างการกระทำของตนว่าเป็นสิ่งที่สังคมกำหนดเห็นพ้องต้องกันหรือ กฏหมายว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างที่สุด โดยไม่หวั้นเกรงถึงศีลธรรม ,จรรยาบรรณหรือแม้แต่พระเจ้า หรือ ผู้คนที่หลีกหนีและกลัวการเผชิญกับปัญหาในการแก้ไขมัน ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด
แต่สิ่งที่เรียกได้ว่าน่าสนใจมากที่สุดก็คือการเรียกร้องถึงความอยุติธรรมในตัวบทกฏหมายที่วาดและเขียนกันอย่างตามอำเภอใจโดยเฉพาะกลุ่มคนผิวขาวที่เห็นคนผิวสีเป็นเพียงสิ่งของแลกกันไปมาหรืออาจจะต่ำกว่าเท่านั้น จึงเป็นสาเหตุทำให้ภาพยนตร์ออกมาตั้งคำถามว่า "ความยุติธรรมมันอยู่ที่ใด ? ผู้ที่ตั้งมันขึ้นมาหรือเช่นไร ?"
อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้เลยก็คือการกำกับของ Steve McQueen ที่ปราศจากการโหวกเหวก โวยวายหรือร้องไห้ฟูมฟาย การกำกับของเขานั้นเต็มไปด้วยการไหลลื่นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมันทำให้ภาพยนตร์นั้นดูน่าเชื่อถือ และน่าสนใจยิ่งขึ้น
การกำกับฉากร้องเพลงที่เต็มไปด้วยเสียงที่ไพเราะแต่ก็ช่างน่าหดหู่ กระแทกกระทั้นและแดกดันประเด็นเกี่ยวกับทาสเหลือเกิน แม้กระทั่งการกำกับในฉากที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและหนักหน่วง เขาก็ยังทำได้อย่างน่าทึ่งตลอดเวลา ถึงแม้ว่าในบางครั้ง บางฉาก จะพยายามใส่และสร้างอารมณ์มากเกินไปหน่อยก็ตาม สุดท้ายก็คือการถ่ายแบบ Long Take ที่มีการใช้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างกล้องกับวัตถุที่อยู่ข้างหน้าได้อย่างน่าทึ่ง เช่นฉากที่กล้องเคลื่อนตัวผ่านทุ่งหญ้า ที่เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆและเศร้าหมองเหลือเกิน
อีกสิ่งเกือบสุดท้ายที่อยากจะพูดถึง นั้นก็คือการตัดต่อภาพยนตร์ของ 12 Years a Slave ที่น่าสนใจและฉลาดเหลือเกิน โดยการเปิดเรื่องด้วยตอนกลางเกือบท้ายของภาพยนตร์ที่เสมือนกับเป็นการบอกเล่าว่าภาพยนตร์กำลังจะพูดถึงเรื่องอะไร และต่อด้วยการย้อนกลับมาเล่าตั้งแต่ต้นไปเรื่อยๆจนจบ ซึ่งมันทำให้การปูพื้นหลังของตัวละครน่าสนใจและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น เพราะในตอนแรกนั้นเราคาดและหวังว่ามันจะเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้แตกต่างอะไรจากภาพยนตร์เกี่ยวกับทาสเรื่องอื่นๆ แต่การตัดต่อเช่นนี้มันแทบจะเป็นการลูบหลังแล้วพูดว่า "ลองมองเข้าไปลึกๆให้ดีสิ" เลยทีเดียว
การแสดงของนักแสดงทุกคนในภาพยนตร์ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น Michael fassbender , Benedict Cumberbatch หรือแม้กระทั่ง Lupita Nyong'o ที่แสดงภาพยนตร์จริงๆเป็นครั้งแรก แต่คนที่เรียกได้ว่าน่าทึ่งมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น Chiwetel Ejiofor ซึ่งรับบทเป็นตัวเอก Solomon Northup ในภาพยนตร์ ซึ่งเป็นการรับบทที่หนักมากๆบทหนึ่ง จากฉากต่างๆที่เต็มไปด้วยการเก็บกดอารมณ์ การอดกลั้นความทรมาณนั้นเอาไว้ ซึ่งเขาก็แสดงมันออกมาได้อย่างน่าจดจำไม่น้อยเลยทีเดียวเชียว
12 Years a Slave ในท้ายที่สุดแล้ว เป็นภาพยนตร์ที่คงจะน่าจดจำไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว จากการทีเรียกได้ว่าสร้างความแตกต่างได้อย่างน่าทึ่งจากภาพยนตร์ที่พูดถึงระบบทาสเรื่องอื่นๆ การกำกับที่น่าทึ่งและยอดเยี่ยมของ Steve McQueen , การตัดต่อที่ชาญฉลาดและน่าสนใจ รวมไปถึงการแสดงระดับคุณภาพของนักแสดงทุกๆคนในภาพยนตร์ นี้เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แห่งปี 2013 ที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
Final Score : [ A + ] & [ Must See Badge ]