วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

Boyhood ( 2014 ) Movie Review

Movie Review



"Boyhood คือสุดยอดภาพยนตร์แห่งปี 2014 ที่เล่าช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของมนุษย์ภายในเวลา 165 นาที"



                 ถ้าหากพูดถึงภาพยนตร์ในปีนี้ที่มีความทะเยอทะยานและความตั้งใจสูงทะลุขอบฟ้าซักเรื่องหนึ่งแล้วล่ะก็ Boyhood ก็คงจะกลายเป็นอันดับหนึ่งในรายการอย่างแทบจะไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว

ด้วยภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของเด็กผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่อายุ 7 ขวบจนถึง 18 ซึ่งพบเจอกับเหตุการณ์ต่างๆมากมายในชีวิต และตัวภาพยนตร์เองก็ใช้นักแสดงคนเดิมตั้งแต่อายุ 7 ขวบถึง 18 จริงๆ นั้นหมายความว่าเวลาในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาให้เราได้ชมกันจริงๆก็ยาวนานถึง 12 ปีเลยทีเดียว ซึ่งแค่ได้ยินว่าใช้เวลาสร้างยาวนานแค่นี้ก็น่าประทับใจแล้ว แต่พอยิ่งได้เห็นการที่ตัวละครและนักแสดงต่างๆในภาพยนตร์ค่อยๆเติบโตไปเรื่อยๆตามเวลาในภาพยนตร์ ยิ่งทำให้ผู้เขียนรู้สึกอยากที่จะชื่นชมยกย่องความพยายาม รวมถึงความตั้งใจของทีมงานภาพยนตร์เรื่องนี้เสียจริงๆ


อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากๆเลยก็คือ การเล่าเรื่องของผู้กำกับริชาร์ด ลิงค์เลเทอร์ ซึ่งถึงแม้ว่าโดยหลักแล้ว ตัวภาพยนตร์จะเล่าเรื่องผ่านมุมมองของตัวเอกอย่างเมสันก็ตาม แต่มันก็เล่าเรื่องผ่านบทภาพยนตร์ บทพูดและการกำกับที่น่าทึ่งซึ่งเปิดไปสู่เรื่องราวของตัวละครอื่นๆในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นจุดขัดแย้ง ทัศนะคติ หรือสิ่งที่พวกเขาใฝ่ฝันได้อย่างน่าอัศจรรย์เสียจริงๆ ซึ่งสิ่งนี้เองทำให้ตัวภาพยนตร์นั้นน่าสนใจและน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา


ไม่ใช่แค่นั้น ด้วยความที่บทภาพยนตร์ถูกเขียนมาได้เป็นอย่างดี มันทำให้ตัวละครต่างๆในภาพยนตร์ดูมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ด้วยเหตุการณ์ที่ตัวละครประสบพบเจอต่างๆ มาหลอมรวมมาเป็นตัวละครซักตัวละครหนึ่ง ที่ทำให้เราเข้าใจอย่างชัดเจนว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นคนเช่นนี้และทำไมถึงมีทัศคติแบบนี้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากเลยทีเดียว เพราะตัวภาพยนตร์นั้นเล่าเรื่องชีวิตๆหนึ่งที่ยาวนานตั้งแต่ 7 ขวบถึง 18 ปี และย่อมันลงมาให้เหลือแค่ 165 นาที แต่ยังคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือและน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้สึกติดขัดหรือรู้สึกว่ามีอะไรผิดแปลกหรือหายไปแต่อย่างใดเลย


แต่จุดหนึ่งเลยในภาพยนตร์ดราม่าที่ผู้เขียนค่อนข้างจะเป็นห่วงพอสมควร ก็คือการรับมือกับฉากอารมณ์ต่างๆ ที่ภาพยนตร์ดราม่าหลายๆเรื่องใส่สีตีไข่และฟูมฟายมากจนเกินความจำเป็น จนแทนที่มันจะทำให้เราเกิดอารมณ์ร่วมไปกับตัวภาพยนตร์ กลายเป็นยิ่งหลีกหนีออกห่างจากมันมากกว่าเดิม แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ตัวผู้กำกับริชาร์ด ลิงค์เลเทอร์ ก็จับในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี โดยรักษาความสมดุลในฉากอารมณ์ต่างๆได้ยอดเยี่ยม ไม่พยายามที่จะระเบิดหรือฟูมฟายมากจนเกินเหตุแต่ยังคงรักษาพลังของมันอย่างพอดีทำให้ฉากเหล่านี้ยังคงสร้างแรงกระทบต่อผู้ชมอย่างที่มันควรจะเป็น


จะว่าไปแล้ว ประเด็นที่ภาพยนตร์เรื่องนี้พูดถึงนั้น ก็เรียกได้ว่ามีหลากหลายประเด็นอยู่พอสมควรเลยทีเดียว แต่โดยหลักๆแล้ว Boyhood เป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงการเลี้ยงลูกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ กับการเติบโตของเด็กคนหนึ่งในอ้อมกอดของพ่อแม่สู่การก้าวออกไปเผชิญโลกด้วยตัวเอง สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ถึงแม้ว่าการเลี้ยงลูกในสังคมของคนอเมริกันกับสังคมของคนไทยอย่างเราๆจะแตกต่างกันก็ตาม แต่มันก็ยังมีหลายอย่างที่คล้ายคลึงกันมาก จนทำให้เราสามารถผูกประเด็นหรือกระทั่งบางฉากในภาพยนตร์ เข้ากับชีวิตของเราๆได้อย่างไม่ยากเลยทีเดียว ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเวทย์มนตร์ที่น่าทึ่งอย่างหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยทีเดียวเชียว


ในท้ายที่สุดแล้ว Boyhood คือสุดยอดภาพยนตร์แห่งปี 2014 ที่เล่าช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของมนุษย์ภายในเวลา 165 นาทีได้อย่างรอบด้านและฉลาดเป็นที่สุด ยิ่งผนวกกับบทภาพยนตร์อันยอดเยี่ยมที่ทำให้เรารู้สึกหวนคิดถึงวัยเยาว์ของเราแล้ว ยิ่งทำให้มันกลายเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับคำว่า "Masterpiece" อย่างแท้จริง

Final Score : [ A + ] & [ Must See Badge ]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น