Movie Review
"The Runner Without a Maze"
The Maze Runner ว่าด้วยเรื่องราวของโทมัสเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่พบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาท่ามกลางเขาวงกตที่ไร้ทางออกและตัวเขาเองจำอะไรไม่ได้เลย หลังจากที่เขาปรากฏตัวทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเป็นอยู่รอบตัวเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางเลวร้ายยิ่งขึ้น โทมัสและคนอื่นๆจึงต้องพยายามหาทางออกจากเขาวงกตนี้ให้จงได้
ต้องพูดเลยว่า ไอเดียเรื่องเขาวงกต การเสี่ยงอันตรายเพื่อนำไปสู่เส้นทางใหม่ ปะทะกับ การอยู่ที่เดิมที่พวกเรา"เชื่อว่า"ปลอดภัยและไม่มีการพัฒนาใดๆเลย เป็นไอเดียการปะทะที่น่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องราวของความอันตรายในเขาวงกตที่ตัวภาพยนตร์พยายามจะสร้างขึ้นมานักหนาซ้ำแล้วซ้ำอีก พยายามตอกย้ำให้ผู้ชมเชื่อว่าเขาวงกตหรือในอีกนัยหนึ่ง "โลกภายนอก"ว่ามันอันตรายแค่ไหน
แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีปัญหาขวางทางอันใหญ่หลวงอยู่ปัญหาหนึ่ง ซึ่งนั้นก็คือมันเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นมาตั้งใจและเพ่งเล็งเพื่อให้มันเป็นเพียงแค่บันไดนำไปสู่ภาคต่อไป ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างถูกถ่ายทอดออกมาอย่างลวกๆ ไร้ซึ่งรายละเอียด ยิ่งไปกว่านั้น ตัวไอเดียแกนหลักที่แท้จริงของมันซึ่งนำไปสู่ภาคต่อและเป็นเบื้องหลังของเหตุผลทั้งหมดในภาคนี้ มันก็ช่างดูบ้าบอคอแตกและไร้เหตุผลสิ้นดี ซึ่งส่วนใหญ่ๆเลยก็มาจากการเล่าเรื่องที่ถูกเร่งมากเกินไปจนต้องใช้วิธีแบบมักง่าย ทำให้เหตุผลของมันไร้น้ำหนักไปในทันที
ถ้าหากพูดถึงองค์ประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่น่าเสียดายมากที่สุด สิ่งๆนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องเขาวงกตอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าตัวภาพยนตร์จะมีชื่อว่า The Maze Runner ซึ่งนั้นหมายความว่าหลายๆท่านคงจะซื้อตั๋วเพื่อเขาไปชมพวกเขาหนีออกจากเขาวงกตแห่งนี้ แต่ตัวภาพยนตร์กลับตัดขาตัวเองด้วยความตั้งใจที่ว่าจะต้องปูไปสู่ภาพยนตร์ภาคต่อให้ได้ จนทำให้รายละเอียดในตัวภาพยนตร์โดยเฉพาะด้านความซับซ้อนของเขาวงกตแทบจะเป็น 0 ทั้งๆที่มันคือสิ่งที่น่าจะทำให้ภาพยนตร์ชุดนี้หรืออย่างน้อยในภาคนี้ น่าจดจำได้มากที่สุดสิ่งหนึ่งเลยทีเดียว
จะว่าไปแล้ว ถ้าหากทีมสร้างขัดเกลาความซับซ้อนและความน่าค้นหาของตัวเขาวงกตได้ดีจริงๆ ผู้เขียนยอมที่จะจ่ายเงินเข้าไปชมภาคต่อที่ยังคงค้นหาวิธีทางออกจากเขาวงกตอันน่าพิศวงนี้ด้วยซ้ำไป ไอเดียกับความเป็นไปได้มันอยู่ตรงนั้นแล้ว และมันสามารถไปได้ไกลมากกว่านี้เยอะ แต่ที่ The Maze Runner เป็นอยู่ตอนนี้คือ The Runner ที่ไม่มีความเป็น Maze อยู่เลยแม้แต่น้อย
ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ใช่ว่า The Maze Runner จะล้มเหลวไปเสียทุกด้านซะทีเดียว การกำกับฉากไล่ล่า/วิ่งหนีของ เวส เบลล์ซึ่งเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ก็ไม่เลวเลยทีเดียว อย่างน้อยมันก็ตื่นเต้น ลุ้นระทึกและพอที่จะทำให้คุณไม่เบื่อไปซะก่อนได้อยู่บ้าง ถึงแม้ว่ามันจะเดาทางได้ง่ายรวมถึงยังดูไร้ประสบการณ์ก็ตาม นอกจากนั้นแล้วตัวนักแสดงนำอย่าง ดีแลน โอ'ไบรอัน เองก็นำแสดงได้ไม่เลวเลยทีเดียว พอที่จะสามารถอุ้มตัวภาพยนตร์ได้อยู่บ้าง เพียงแต่ว่าแค่สองสิ่งนี้มันไม่สามารถที่จะเทียบเคียงกับอะไรหลายๆอย่างที่ตัวภาพยนตร์ได้ล้มเหลวไปเรียบร้อยแล้วเลยแม้แต่น้อย
ในท้ายที่สุด The Maze Runner ก็กลายเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากหนังสือวรรณกรรมเยาวชนขายดีที่มีไอเดียน่าสนใจ แต่ดันมีแนวคิดผิดๆว่าตนเองจะต้องมีภาคต่อให้ได้มากเกินไป จนทำให้ขาดการใส่ใจในรายละเอียดและมนตร์สเน่ห์ที่ทำให้ตัวภาพยนตร์แตกต่างจากภาพยนตร์แนวเดียวกันเรื่องอื่นๆไป โดยเฉพาะในส่วนของเขาวงกตที่ปราศจากความซับซ้อนและความน่าสนใจใดๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังและยากที่จะให้อภัยยิ่งนักถ้าหากภาพยนตร์ของคุณมีชื่อว่า The Maze Runner
Final Score : [ C ]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น